ทิ้งหมัดเข้ามุม - ‘บางกลอย’คืนถิ่น รัฐยื้อแก้ปัญหาหรือไม่

ม็อบคนทุกข์ยาก พีมูฟ-ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ยังคงปักหลักชุมนุมในกรุงเทพฯ เรียกร้องกดดัน เฝ้าติดตามการแก้ปัญหาของรัฐบาล

ปัญหาที่พวกเขาเรียกร้องให้แก้ไข ความทุกข์ยากเดือดร้อน ความจน ที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน การล่มสลายของครอบครัว วิถีชีวิต อาชีพ ฯลฯ

ทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากโครงการพัฒนาของรัฐผิดพลาด ก่อความเสียหาย พวกเขาถูกบังคับให้จน ให้ทุกข์ยาก

หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาเรียกร้องร่วมกับพีมูฟ คือชาวบ้านบางกลอย แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เชื่อว่าสังคมส่วนหนึ่งรู้จักชาวบ้านกลุ่มนี้ไม่มากก็น้อย ผ่านคดีอุ้มหายและฆาตกรรม ‘บิลลี่’ มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กับลูกน้องตกเป็นจำเลยคดีในศาล

รวมถึงรับรู้ผ่านเรื่องราว ‘ปู่คออี้’ ผู้อาวุโสอายุร้อยกว่าปี ผู้นำจิตวิญญาณชาวบางกลอย

ผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ขอความเป็นธรรมจากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ บุกเผาบ้าน ยุ้งฉางข้าว บังคับไล่รื้ออพยพออกจากป่าใจแผ่นดิน ถิ่นที่อยู่และทำไร่หมุนเวียนดำรงชีพ

วันก่อนชาวบ้านบางกลอยร่วมกับพีมูฟไปยื่นข้อเรียกร้องที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักแก้ปัญหาให้พวกเขา

โดยขอให้ชาวบ้านบางกลอย 37 ครอบครัวกลับขึ้นไปอาศัยทำกินบนพื้นที่ใจแผ่นดิน หรือบ้านบางกลอยบน ป่าแก่งกระจาน

ขอให้ปรับสัดส่วนคณะกรรมการ 3 ฝ่ายในการแก้ปัญหา เนื่องจากสัดส่วนฝ่ายชาวบ้านน้อยเกินไป ไม่เทียมเท่ากับสัดส่วนของกระทรวง และกรรมการอิสระ

สุดท้ายขอไม่ให้เจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีกับชาวบ้านเพิ่มเติมอีก

คำตอบที่ได้รับเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร

โดยมี 2 เรื่องคือ การขอกลับไปอยู่อาศัยและทำกินที่บ้านบางกลอยบน ซึ่งก่อนหน้านี้มีคำสั่งนายกฯ ให้ชาวบ้านทดลองดำเนินชีวิตดั้งเดิมด้วยการทำไร่หมุนเวียน 5 ปี

ฝ่ายกระทรวงอ้างถึงข้อกฎหมาย แผนที่ สภาพพื้นที่ป่าเหมาะที่จะทำไร่หมุนเวียนหรือไม่

รวมถึงการจับกุมดำเนินคดีชาวบ้าน ที่อ้างถึงขั้นตอนอยู่ในชั้นอัยการ ทั้งที่สามารถเข้าไปประสานเจรจาตกลงหาทางออกร่วมกันได้

จากคำตอบที่ได้รับ ฝ่ายชาวบ้านจึงตั้งคำถามว่ารัฐต้องการที่จะยื้อการแก้ปัญหาหรือไม่

ข้าวตอกแตก