ยังสับสนอยู่พอสมควรว่า ตกลงพรรคฝ่ายค้านจะยื่นเปิดอภิปรายรัฐบาลในสมัยประชุมสภานี้หรือไม่ โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151
หลังนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.ก้าวไกล ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ยอมรับ การอภิปรายไม่ไว้วางใจโอกาสมีน้อยมากเพราะรัฐบาลชุดนี้เพิ่งเข้ามา
ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตัวเองจัดทำเลยแม้แต่บาทเดียว
ทั้งยังมีเงื่อนเวลาที่ สว.จะเปิดอภิปรายทั่วไปปลายเดือนมี.ค. และช่วงใกล้เคียงกันจะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2567 วาระ 2 และ 3
เมื่อดูจากไทม์ไลน์จึงอาจยังไม่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไปในสมัยประชุมนี้
แต่ที่เรื่องยังสับสนเนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์พูดไปอีกอย่างนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช อ้างว่า สอบถามพรรคก้าวไกลแล้ว บอกว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น
การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านยื่นอยู่แล้ว แต่ต้องดูข้อมูลว่ามีแค่ไหน เช่น นโยบายรัฐบาลที่ประกาศแล้วแต่ยังไม่ได้ทำงบประมาณปี 67 ที่จะประกาศใช้ และอะไรที่ทุจริตก็ต้องอภิปราย
กระทั่ง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลก็พูดแย้งกับประธานวิป ฝ่ายค้านซึ่งอยู่พรรคเดียวกัน ว่า สส.พรรคก้าวไกลที่อยู่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 67 น่าจะพร้อมอภิปรายรัฐบาล อย่างน้อยก็อภิปรายแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152
ส่วนระยะเวลาน่าจะเป็นช่วงหลัง สว.อภิปรายทั่วไป น่าจะเป็นสัปดาห์แรกเดือนเม.ย. ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนเห็นสอดคล้องกับประธานวิปฝ่ายค้าน ก็คือ งบประมาณเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อยากให้ฝ่ายค้านหยิบยกประเด็นที่ไม่ได้สลักสำคัญกับความเป็นอยู่ของประชาชน มาพูดให้เป็นเรื่องใหญ่มากจนเกินไป
เรื่องงบประมาณ การทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องสำคัญมากที่ ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบ ถ้าเป็นประเด็นการเมืองแล้วใช้โควตาเปิดอภิปรายโดยที่ต้องเว้นว่างไปอีก ฝ่ายค้านอาจจะต้องคำนึงดีๆ
ถ้าเปิดอภิปรายแล้วไม่มีคุณภาพ ไม่เปิดดีกว่า ใช้วาระทั่วไปเหมือนกระทู้สดที่ถามทุกสัปดาห์ก็ได้
การเปิดอภิปรายควรใช้เมื่อ เหมาะสมและมีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
มันฯ มือเสือ
