ายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ โครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล หลังอนุคณะกรรมการจัดทำรายละเอียดให้กรรมการแต่ละคนไปศึกษา

ทั้งข้อสังเกตของป.ป.ช. แบงก์ชาติ และความเห็นของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยืนยันคืบหน้าและพร้อม โดยมอบให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงิน

ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้า เงื่อนไขต่างๆ มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ เรื่องติดตามการทุจริตใช้เงิน ผิดประเภทให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแล เรื่องของระบบมอบหมาย กระทรวงดิจิทัลฯ รับไป

มั่นใจว่าวันที่ 10 เมษายนนี้ มีคำตอบที่ชัดเจนและทำให้ประชาชนมีความสุขอย่างแน่นอน

ขณะที่นายกฯ กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหาการเจริญเติบโตต่ำกว่าศักยภาพยาวนาน เผชิญกับปัญหาทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการฟื้นตัวรายได้ของประชาชนที่ไม่เท่ากัน

หลังสถานการณ์โควิด-19 ภาระดอกเบี้ยยังสูง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงจำเป็น

นายกฯ เน้นย้ำว่าโครงการนี้เป็นมาตรการระยะสั้นที่จะช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้กระจายตัวไปสู่ท้องถิ่น ผ่านประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์และผู้ประกอบการร้านค้า

การดำเนินงานในขอบเขตที่มีเงื่อนไขเหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และช่วยดูแลความเป็นอยู่ประชาชนให้ดีขึ้น

จึงควรขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินโครงการไปพิจารณาจัดทำรายละเอียดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเป็นไปตามข้อพึงระวัง หรือความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมา

พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กระบวนการยึดตามกฎหมาย และระเบียบต่างๆ โปร่งใสตรวจสอบได้

ทั้งต้องเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์และสุจริต รอบคอบและระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนโดยรวม ตลอดจนรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด

เมื่อนายกฯ ย้ำเช่นนี้ จึงคาดว่ากระจ่างชัดเจนก่อนสงกรานต์!!

เภรี กุลาธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน