ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
เป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง สำหรับความเห็นของ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชน ที่มีต่อสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ระบุว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งการรับฟังข้อมูล และ ข้อเท็จจริงในพื้นที่
ครม.ส่วนหน้าที่ตั้งไป ก็เป็นกลุ่มอดีตข้าราชการระดับสูงในพื้นที่ ที่เคยทำหน้าที่แก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
อีกทั้งปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นหลายจุด และแทบทุกครั้งผู้ปฏิบัติงานที่ถูกร้องเรียนไม่เคยถูกลงโทษ จนทำให้ประชาชนไม่เชื่อถือ
ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงต้าน จนกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้
ทั้งหมดนี้หากเปิดใจรับฟัง ก็จะเป็นประโยชน์
และต้องถือว่านางอังคณา เป็นกรรมการสิทธิ์เพียงคนเดียวที่กล้าสะท้อนปัญหาที่แท้จริงออกมาให้สังคมได้รับทราบ
แต่น่าเสียดายที่เจตนาดีดังกล่าว ถูกกลุ่มที่มีแนวคิดขวาจัดโจมตีอย่างรุนแรง
หาว่ากรรมการสิทธิ์ ออกรับแทน กลุ่มโจรใต้ ไม่สนใจเวลาเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน พระสงฆ์ ถูกทำร้าย
จนลืมถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงไป!??
เพราะจริงๆ แล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนใหญ่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา
แต่ต้องถูกกองกำลังติดอาวุธ เข้าตรวจค้น คุกคาม จับกุมตัวไปสอบสวนในค่ายต่างๆ
สร้างความหวาดผวาและไม่เชื่ออกเชื่อใจกับกระบวนการยุติธรรมไทย
ดังจะเห็นได้จากการกวาดล้างหอพักย่านรามคำแหง เมื่อกลางเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการจับกุมเยาวชนไปถึง 44 คน
สุดท้ายส่วนใหญ่ก็ถูกปล่อยตัวอย่างไม่มีการตั้งข้อหา ส่วนหลักฐานนอกจากใบกระท่อมแล้ว ก็มีแค่น้ำบูดู
ในขณะที่การดำเนินการกับกลุ่มคนร้าย ก็ต้องดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย ตามพยานหลักฐานที่มี
อย่าให้เกิดข้อครหาใดๆ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
อย่าให้ใครเข้าใจผิด ว่าเป็นเรื่องโจรสู้กับโจร