วิพากษ์วิจารณ์และถามหามารยาทกันทั้งประเทศ จะลาโรงอยู่แล้ว ยังห่วงหวงอำนาจทั้งๆ ที่ได้มาฟรีและไม่ยึดโยงกับประชาชน
กรณีวุฒิสภาชุดแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จัดประชุมล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานในที่ประชุม
มีผู้เข้าประชุมจำนวน 128 คน ถือว่าเกินกึ่งหนึ่งจำนวนสมาชิก 250 คน
มีวาระพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านมา
ที่ประชุมมติเห็นชอบด้วยคะแนน 101 ต่อ 10 งดออกเสียง 17
ผู้เสนอญัตตินี้อ้างเป็นเพียงการศึกษาและเป็นข้อเสนอในเชิงวิชาการเท่านั้น ไม่ได้ก้าวล่วงการทำงานของกกต.
กมธ.วิสามัญชุดนี้ มีผู้เชี่ยวชาญที่จะเชิญมาร่วมจาก 4 คณะ ได้แก่ 1.กมธ.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2.กมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และตำรวจ 3.กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน 4.กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค
พร้อมเชิญบุคคลสำคัญภายนอกที่เคยเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540, 2550,2560 และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกสว.ด้วย
อาทิ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตกรธ.และ นายคมสัน โพธิ์คง นักกฎหมาย
กำหนดระยะเวลาศึกษาภายใน 30 วัน จากนั้นจะมีข้อเสนอถอดบทเรียนไปยังคณะที่จะแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง และสว.ชุดใหม่ เพื่อที่ศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการเลือกสว.ปี 2562 และปี 2567
เหตุผลฟังดูดี แต่สังคมอดสงสัยว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่
จริงอยู่ในเมื่อสว.ชุดใหม่ยังไม่ได้ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่ ชุดเดิมก็ยังจะอยู่ต่อเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง
นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุแม้กกต.ประกาศรับรองผล ก็ยังไม่หมดวาระอยู่ดี เพราะยังไม่สามารถเปิดประชุมได้ อีกทั้งต้องมีเวลาเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภา จึงจะสามารถปฏิญาณตนได้
ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติรับรองสว.ชุดใหม่ 200 คน และที่ขึ้นบัญชีไว้ 99 คนแล้ว
ก็เป็นอันจบเห่ คณะกรรมาธิการวิสามัญที่ดันทุรังตั้งกันขึ้นมาก็เป็นอันแท้งไป
ปิดฉาก 250 สว.ที่น่าเบื่อหน่ายมาตลอด 5 ปีเสียที!!
เภรี กุลาธรรม