สังคมคอการเมืองตั้งความหวังอยากเห็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เกิดขึ้นได้จริง

พร้อมเอาใจช่วยให้ประธานสภา ฝ่ายค้าน และรัฐบาล เปิดใจเจรจาแก้ไขข้อติดขัดได้สำเร็จลุล่วง

เพราะอยากจะฟังว่า ที่ฝ่ายค้านตั้งข้อกล่าวหานายกฯ 6 ประเด็น ทั้งเรื่องคุณสมบัติ ไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ บริหารบ้านเมืองผิดพลาดล้มเหลว เจตนาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น

ประเด็นสุดท้าย สมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ

ข้อกล่าวหาเหล่านี้รายละเอียดลึกๆ แท้จริงเป็นอย่างไร และผู้ถูกล่าวหาซึ่งก็คือนายกฯ จะชี้แจงต่อสภาอย่างไร เป็นสิ่งที่ประชาชนใจจดจ่อรอฟัง

นอกจากนี้ ยังมีสีสันอีกบางประการที่ประชาชนอยากเห็นคือการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลุกขึ้นอภิปรายครั้งนี้ด้วย คิวต่อจากผู้นำฝ่ายค้าน

เป็นการอภิปรายภาพรวม 4 ประเด็น ได้แก่ คดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ เรื่องกาสิโน เรื่องเอ็มโอยู 44 และเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

โดยแกนนำพลังประชารัฐมั่นใจว่า จะสั่นคลอนรัฐบาล สร้างความหวั่นไหวให้กับนายกฯ ได้แน่นอน

กับอีกเรื่องที่เชื่อมโยงกัน มาจากการที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม อ้างถึงจำนวนเสียง สส.พรรคกล้าธรรมขณะนี้ว่า ถ้านับอย่างไม่เป็นทางการคือ 34 เสียง ส่วน สส.อย่างเป็นทางการคือ 24 เสียง

และการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เสียงพรรคกล้าธรรมจะไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

เมื่อนักข่าวพยายามจี้ถาม 34 เสียงที่ว่า มาจากพรรคพลังประชารัฐกี่เสียง คำตอบคือ “24 เสียงจากพรรคกล้าธรรม ส่วนอีก 10 เสียงไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล”

นอกเหนือจากเรื่อง “ทักษิณ” ที่แทบจะกลบเนื้อหาสำคัญส่วนอื่นๆ ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ครั้งนี้ไปจนเกือบหมด

เรื่องของพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคกล้าธรรม ก็ถือเป็นอีกประเด็นน่าติดตาม สุดท้ายแล้วผลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ครั้งนี้

จะก่อแรงสะเทือนให้พรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านมากกว่ากัน

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน