หัวเรือใหญ่หัวเว่ยตอกกลับสหรัฐ “ดูถูกกันเกินไป” ย้ำไร้ผลกระทบความเป็นผู้นำ 5G
หัวเรือใหญ่หัวเว่ยตอกกลับสหรัฐ – วันที่ 21 พ.ค. ทีอาร์ทีเวิลด์รายงานว่า นายเหริน เจียงเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย เอกชนผู้ผลิตเทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสารอันดับหนึ่งของโลกจากประเทศจีน ยืนยันว่าเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย จะไม่มีผู้ใดตามทันเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี
คำกล่าวของนายเหรินเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ลงนามในคำสั่งพิเศษให้เอกชนอเมริกันทั้งหมดยุติการทำธุรกิจกับหัวเว่ย โดยอ้างข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการสอดแนมทางเทคโนโลยีจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อเทคโนโลยีของสหรัฐ
ผลลัพธ์ของคำสั่งดังกล่าวก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลในแวดวงไอที ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐประกาศผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน ก่อนมีผลบังคับใช้เต็มที่
เหริน เจียงเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอหัวเว่ย
นายเหริน กล่าวว่า มาตรการของสหรัฐจะไม่ส่งผลต่อเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย และจะไม่มีคู่แข่งรายใดสามารถตามทันเทคโนโลยีนี้ของหัวเว่ยได้ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี
“การกระทำของบรรดานักการเมืองในสหรัฐถือว่าดูถูกขีดความสามารถของเรามากเกินไป” นายเหรินกล่าว พร้อมย้ำว่าหัวเว่ยมีการกักตุนชิ้นส่วนที่จำเป็นไว้ก่อนหน้าแล้ว และหัวเว่ยไม่สามารถถูกแยกออกจากระบบนิเวศน์ทางเทคโนโลยีของโลกได้ไม่ว่าทางใด
รายงานระบุว่า การผ่อนปรนของทางการสหรัฐที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ามาตรการดังกล่าวนั้นก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เกินกว่าความคาดหมายของรัฐบาลสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะอนุญาตให้หัวเว่ยสามารถซื้อชิ้นส่วนที่จำเป็นได้เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านโครงข่ายการสื่อสาร และบริการในอุปกรณ์สื่อสารหัวเว่ย
อย่างไรก็ดี ทางการสหรัฐจะไม่อนุญาตให้หัวเว่ยซื้อชิ้นส่วนเพื่อนำไปผลิตอุปกรณ์และสินค้ารุ่นใหม่ โดยจะให้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 90 วัน
นายเควิน วูล์ฟ อดีตเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ มองว่า เจตนาของการผ่อนปรนดังกล่าวน่าจะเพื่อลดทอนผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อบรรดาซัพพลายเออร์ในสหรัฐ และบรรดาองค์กรที่ใช้อุปกรณ์จากหัวเว่ย เพื่อป้องกันการล้มของระบบเครือข่ายการสื่อสารในสหรัฐ
