กาแล็กซีโฟลด์ สมาร์ตโฟน‘พับ’ซัมซุง : หลากหลายวิทยาการ
กาแล็กซีโฟลด์ – มาพร้อมกระแสข่าว “จองเต็ม” ภายในวันเดียวแม้ราคาเหยียบ 7 หมื่นบาท กาแล็กซี โฟลด์ (Galaxy Fold) สมาร์ตโฟนพับได้จากค่ายซัมซุง พอเปิดตัวในไทย วันที่ 7 ต.ค. โดยทาง บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (ซัมซุงไทย) เปิดจองล็อตแรกไประหว่าง 10-14 ต.ค. พร้อมส่งมอบเครื่องในวันที่ 16 ต.ค.นี้
สมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวสร้างความฮือฮาให้กับบรรดานักรีวิวทั่วโลก เนื่องจากอาจเป็นการจุดระเบิดเทรนด์ใหม่ของ สมาร์ตโฟนในอนาคต โดยปัจจุบันมีเพียง หัวเว่ย เมท เอ็กซ์ (Huawei Mate X) และไมโครซอฟท์ เซอร์เฟส ดูโอ (Microsoft Surface Duo) ที่เป็นคู่แข่ง แต่ทั้งหมดยังไม่วางจำหน่าย
ขณะที่ข้อกังวลของบรรดาผู้ใช้จำนวนมากนั้น คือ ความบอบบางของเครื่องซึ่งมีที่มาจากปัญหาที่ กาแล็กซี โฟลด์ รุ่นแรกเจอมาก่อนช่วงเปิดตัวครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปี อาทิ หน้าจอขัดข้องจากการพับหลายครั้ง สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในกลไกการพับทำให้ขัดข้อง และฟิล์มบนหน้าจอที่ทำให้นักรีวิวบางคนเข้าใจผิดไปลอกออกจนทำให้หน้าจอขัดข้อง ส่งผลให้ทางซัมซุงระงับการวางจำหน่ายและนำเครื่องกลับไปปรับปรุงแก้ไขใหม่
ทีมไอทีข่าวสด ได้เครื่องฉบับปรับปรุงใหม่มาพรีวิว พบว่า ทางซัมซุงเอาจริง เอาจังกับการปรับปรุงเครื่องดังกล่าว อย่างมาก สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างภายนอกที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น เช่น การเพิ่มขนาดฟิล์มให้คลุมไปจนถึงขอบจนหุ้มเข้าไปด้านในแล้ว
อาทิ ปัญหาเรื่องชั้นฟิล์มบนหน้าจอด้านในซึ่งก่อนหน้านี้แปะมาไม่ถึงขอบของเครื่อง สุ่มเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดของผู้บริโภคว่าเป็นเพียงแผ่นฟิล์มกันรอยที่ติดมากับเครื่อง ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว แผ่นฟิล์มนี้เป็นชั้นเลเยอร์หนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของจอภาพ ห้ามลอกออกเด็ดขาด
จุดต่อมาที่เห็นได้ชัดเป็นชิ้นส่วนแกนรูปตัวทีบริเวณมุมบนและล่างของข้อพับด้านใน แก้ไขปัญหาเศษกรวดและเม็ด ทรายเข้าไปภายในกลไกข้อพับได้ จึงไม่พบปัญหาใดๆ
ไฮไลต์ที่โดดเด่น
ไฮไลต์ที่โดดเด่นที่สุดของสมาร์ตโฟนเครื่องนี้ คือ การออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ต้องการให้สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตรวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน
เมื่ออยู่ในลักษณะพับ ซัมซุง กาแล็กซี โฟลด์ จะมีขนาดยาว 160.9 กว้าง 62.9 และหนา 15.5 มิลลิเมตร โดยสาเหตุที่สมาร์ตโฟนมีความหนามากนั้นเนื่องมาจากเป็นการพับรวม ด้านหน้ามีหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4.6 นิ้ว ให้สามารถใช้งานทั่วไปได้ เหมาะสมกับการใช้งานขั้นพื้นฐานและตรวจสอบการเตือนทั่วไปเท่านั้น เพราะหน้าจอมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่มีจุดเด่น ที่ใช้งานมือเดียวได้สะดวก
เมื่อกางออกผู้ใช้จะพบกับความอลังการของหน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 7.3 นิ้ว ตัวเครื่องจะมีขนาดยาว 160.9 กว้าง 117.9 และหนา 6.9 ม.ม. มีหน้าจอที่ใหญ่โตสวยงาม เรโซลูชั่นสูงสุด 1,536 x 2,152 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 362 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) สนับสนุนระบบภาพ HDR10+ และมีพื้นที่จอภาพต่อตัวเครื่อง ที่ร้อยละ 85.7
อย่างไรก็ดี น้ำหนักของกาแล็กซี โฟลด์ นั้นอยู่ที่ 263 กรัม ถือว่าหนัก เนื่องมาจากแบตเตอรี่ลิเทียมมาพร้อมกัน 2 ก้อน รวมความจุ 4,380 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) หากใช้งานประเภทนอนเล่นบนเตียงนั้นอาจเมื่อยข้อมือเร็ว
ด้านกลไกการพับ ไม่พบปัญหาใดๆ ซัมซุงระบุว่าบรรจงออกแบบกลไกการพับที่สลับซับซ้อนมาอย่างประณีต เพื่อให้มีความคงทนสามารถพับได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนครั้ง เฉลี่ยประมาณวันละ 100 ครั้ง เป็นระยะเวลานาน 5 ปี
ดังนั้น หากมีความคงทนระดับนั้นก็น่าจะเพียงพอ เพราะตามปกติแล้วอายุแบตเตอรี่ประมาณ 2 ปีก็น่าจะเริ่มงอแงแล้ว การพับไม่พบว่ามีเสียงรบกวนใดๆ และการกางออกนั้นลื่นไหลเมื่อกางออกเป็นแท็บเล็ต คงสภาพได้ดีเยี่ยมเช่นเดียวกันกับการพับกลับเข้ามานั้นก็ง่าย แม่เหล็กทำงานได้ยอดเยี่ยมเวลาพับเก็บ
ซัมซุงระบุว่า เทคโนโลยีหน้าจอพับได้นั้นผ่านการคิดค้นที่ยาวนานกว่า 8 ปี
กาแล็กซี โฟลด์ ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จากกูเกิ้ล สหรัฐอเมริกา และมีการพัฒนาทางด้าน UI ร่วมกันระหว่างกูเกิ้ลกับซัมซุงด้วยเพื่อให้การใช้งานแอพพลิเคชั่นบนกาแล็กซี โฟลด์นั้น มีความต่อเนื่อง อาทิ เมื่อผู้ใช้งานเปิด แอพฯ บนหน้าจอเล็กด้านนอกแล้วกางออกแอพฯ ดังกล่าวก็จะย้ายมาบนจอด้านในอย่างลื่นไหล (App continuity)
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์การใช้งานอย่างการเปิดแอพฯ พร้อมกันถึง 3 แอพฯ (Multi-Active windows) บนจอเดียว (หรือเปิด 4 แอพฯ โดยให้อีกแอพฯ หนึ่งลอยอยู่เฉยๆ) ทั้งหมดจะจัดสรรพื้นที่บนจออัตโนมัติ และทำงานต่อเนื่องไม่หยุดนิ่งระหว่างที่ผู้ใช้กำลังใช้งานแอพฯ อื่นๆ ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีทางด้านการทำหลายอย่างพร้อมกัน หรือมัลติทาสกิ้ง
ด้านการทดสอบลำโพงแบบสเตอริโออยู่ที่ขอบทั้งสองด้านของเครื่อง มีเสียงดังชัดเจนกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงทั่วไป และมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจด้วย
ขณะที่เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือนั้นอยู่บริเวณขอบด้านขวา (เมื่อหันจอเข้าหาตัวผู้ใช้) ถัดลงมาจากปุ่มเพาเวอร์ และปรับระดับเสียง ตรงนี้ดูจะสิ้นเปลืองพื้นที่ ซัมซุงน่าจะรวมปุ่มเพาเวอร์และเซ็นเซอร์ดังกล่าวเป็นปุ่มเดียว รวมทั้งการใช้งานนั้นผู้ใช้ยังต้องกดปุ่มเปิดแล้วค่อยแตะเซ็นเซอร์เพื่อปลดล็อกจอ แทนที่จะแตะเซ็นเซอร์แล้วเปิดเครื่องพร้อมปลดล็อกได้ในครั้งเดียว
จุดเด่นอีกด้านของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้คือกล้องถ่ายภาพซึ่งรวมแล้วมีมากถึง 6 กล้อง ได้แก่ กล้องหน้า ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (MP) กล้องหลัง 3 เลนส์ แบบวายด์และเทเลโฟโต้ 12MP รวมถึงอัลตราวาย 16MP
กล้องด้านในเมื่อกางออก มี 2 เลนส์ ได้แก่ เลนส์กว้าง 10MP และ RGB Depth 8MP
ระบบกล้องของ ซัมซุง กาแล็กซี โฟลด์ ควบคุมด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มีฟีเจอร์ Scene Optimizer ที่รองรับการรีทัชภาพอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันถึง 30 แบบ ขณะที่กล้องหน้านั้นแม้มีเลนส์เดียวแต่ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยโหมด Live-Focus โดยใช้ซอฟต์แวร์เป็นตัวจำลอง คุณภาพที่ออกมาอาจไม่เทียบเท่ากล้องหลังและกล้องด้านใน พบว่ามีคุณภาพใกล้เคียงกันกับกล้องหลังของเครื่องซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 10 พลัส
ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855 ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร (nm) หน่วยความจำแรม 12 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูล 512 GB ไม่รองรับ micro SD card ไม่มีช่องหูฟัง และรุ่นที่จำหน่ายในไทยนั้นยังไม่รองรับสัญญาณเครือข่ายแบบ 5G ไม่เหมือนกับในสหรัฐและเกาหลีใต้ ที่มีรุ่นกาแล็กซี โฟลด์ 5 จี จำหน่ายแล้ว
ด้านการชาร์จไฟ ตัวเครื่องรองรับระบบชาร์จทั้งแบบมีสายและไร้สาย (15W fast charge) ทั้งเปลี่ยนเครื่องให้เป็นแท่นชาร์จไฟสำหรับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่น (9W reverse charging) หรืออุปกรณ์เสริมอื่นได้ อาทิ หูฟังไร้สาย กาแล็กซี บัดส์ (Galaxy Buds) ซึ่งแถมมาให้ ทั้งยังรองรับสัญญาณ Wi-Fi 6 (802.11ax) มาตรฐานใหม่ที่มีแบนด์วิธสูงขึ้นกว่าเดิม
พร้อมบริการซ่อมแบบ Galaxy Fold Premier Service รับ–ส่งเครื่องถึงบ้าน และโทรศัพท์แจ้งปัญหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกันจอแตกนาน 1 ปี และเคสหุ้มเครื่องทำจากวัสดุ Aramid Fiber ซึ่งมีความทนทานคล้าย Carbon Fiber แต่สามารถให้สัญญาณสื่อสารผ่านได้ ไม่เหมือน Carbon Fiber ที่เป็นฉนวนไฟฟ้า หากหุ้มแล้วอาจทำให้ประสิทธิภาพการรับสัญญาณของเครื่องลดลง
กาแล็กซี โฟลด์ ของซัมซุง เป็นสมาร์ตโฟน–แท็บเล็ตที่มีศักยภาพสูงในการจุดระเบิดรูปแบบวิวัฒนาการต่อไปของ สมาร์ตโฟนในตลาดปัจจุบัน แม้ราคาค่าตัวจะสูงถึง 69,990 บาท และด้วยความที่เป็นนวัตกรรมรุ่นแรก (เฟิสต์เจน) จึงอาจยังไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่เมื่อพิจารณากับนวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านการคิดค้นมานั้นถือว่าคุ้มค่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการครอบครองขีดสุดของเทคโนโลยีระดับผู้บริโภคในปัจจุบัน
ในไทยวางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ สีเงิน สเปซ ซิลเวอร์ และ สีดำ คอสมอส แบล็ก รับรองได้ว่าหากถือไปใช้ให้ใครต่อใครเห็นแล้วจะกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทันที
เพราะเป็นสมาร์ตโฟนล้ำยุคที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ส่วนรีวิวการใช้งาน ติดตามได้ที่นี่เร็วๆ นี้