มะกันชมไทย คุมโควิดได้เจ๋ง

ตู่ขอบคุณ

ยันพร้อม

ร่วมฟื้นฟู

ปลอดเชื้อ

46วันติด

‘บิ๊กตู่’ต้อน รับผบ.ทบ.มะกัน ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ นายกฯขอบคุณที่ช่วยเหลือนำคนไทยในสหรัฐบินกลับประเทศ ด้านผบ.มะกันชื่นชมไทยคุมโควิดได้เยี่ยม จนนานาชาติต่างยกย่อง ศบค.เผยไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งในประเทศและสถานกักตัวของรัฐ ทำให้ในประเทศปลอดเชื้อ 46 วันติดกัน ด้านกลุ่มนักสังคมสงเคราะห์จิตเวช สธ.บุกยื่นหนังสือถึงนายกฯขอความเป็นธรรม

หลังสธ.บรรจุบุคลากรช่วยโควิด-19 เข้ารับราชการ แต่ไม่มีสายงานอาชีพนี้

ในประเทศปลอดเชื้อ 46 วันติด

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันผ่านเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ว่า วัน

นี้ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ หรือผู้ติดเชื้อเป็น 0 ราย ทั้งการติดเชื้อในประเทศและในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ หายป่วยเพิ่ม 2 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่มเติม ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,202 ราย หายป่วยรวม 3,087 ราย เสียชีวิตรวมเท่าเดิม 58 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 57 ราย ไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศเป็นวันที่ 46 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันจำแนกตามพื้นที่ กทม.และนนทบุรี 1,780 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 472 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย และภาคใต้ 744 ราย

สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก ยอด ผู้ติดเชื้อรวม 12,387,826 ราย อาการรุนแรง 58,454 ราย รักษาหายแล้ว 7,187,447 ราย เสียชีวิต 557,405 ราย

สำหรับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 3,219,999 ราย 2.บราซิล 1,759,103 ราย 3.อินเดีย 794,842 ราย 4.รัสเซีย 707,301 ราย และ 5.เปรู 316,448 ราย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับ 99 ของโลก

ผบ.มะกันเยี่ยมคารวะ‘บิ๊กตู่’

เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้อนรับพล.อ.เจมส์ ซี. แมคคอนวิลล์ ผบ.ทบ.ของสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย

พลเอก เจมส์ ซี แมคคอนวิลล์ (General James C. McConville) ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทย ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2563

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยินดีต้อนรับที่พล.อ.แมคคอนวิลล์เดินทางมาเป็นแขกของกองทัพบก และแขกของรัฐบาล พร้อมขออภัยในความไม่สะดวกหลายอย่าง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพ ด้วยคนไทยให้ความสำคัญเรื่องนี้ พร้อมขอบคุณกองทัพบกสหรัฐที่ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารบกภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก การประชุม

สัมมนาการบริหารงานของกองทัพบกกลุ่มประเทศภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก และการประชุมนายทหารประทวนอาวุโส ประจำปี 2020 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จยอดเยี่ยม และขอบคุณสหรัฐที่อำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยในการเดินทางกลับประเทศ รวมทั้งสนับสนุนงบ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มอบเวชภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล เพื่อช่วยเหลือไทยป้องกันการแพร่

ระบาดของ โรคโควิด-19 ด้วย

นอกจากนี้นายกฯ ได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐ ขอให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เชื่อมั่นว่าสหรัฐจะแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ได้สำเร็จและค้นพบวัคซีนได้

โดยเร็ว และพร้อมร่วมมือกับสหรัฐสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยรัฐบาลไทยพร้อมอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้แก่ภาคเอกชนสหรัฐ

ขณะที่ผบ.ทบ.สหรัฐกล่าวชื่นชมกำลังพลของไทยที่เข้มแข็ง ชื่นชมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลไทย และการบริหารจัดการของนายกฯ ที่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และยินดีที่ร่วมลงนามในเอกสารวิสัยทัศน์ร่วมทางยุทธศาสตร์ระหว่างกองทัพบกไทยกับสหรัฐ ซึ่งจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพบกของทั้งสองฝ่ายให้ร่วมกันพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของกำลังพลทั้ง 2 ประเทศให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น

ถก‘บิ๊กแดง’-ตรวจเข้มเชื้อโควิด

จากนั้นเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ต้อนรับพล.อ.แมคคอนวิลล์ อย่างเป็นทางการในรูปแบบชีวิต วิถีใหม่ ใส่หน้ากากผ้า ตรวจอุณหภูมิร่างกาย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตามมาตรฐานของ ศบค.

พล.อ.แมคคอนวิลล์กล่าวว่า พันธไมตรีระหว่างเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเกิดผลเป็นอย่างยิ่ง และเวลานี้เรากำลังรับมือกับความท้าทายในศตวรรษที่ 21 ไปด้วยกัน ประเทศของเราทั้งสองจัดการฝึกและกิจกรรมทางการทหารร่วมกันเป็นประจำหลายร้อยครั้งในแต่ละปี และเราดำเนินการร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อให้มั่นใจว่าทุกการฝึกของเราจะเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ท่ามกลาง

สถานการณ์โรคระบาดใหญ่ครั้งนี้

จากนั้นผบ.ทบ.สหรัฐเยี่ยมชมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AFRIMS) โดยศูนย์วิจัยโรคติดเชื้อร่วม ระหว่างสหรัฐและไทยแห่งนี้เป็นแนวหน้าด้านการศึกษาโรคระบาดมาหลายทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันและชาวไทยที่ AFRIMS กำลังทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อเอาชนะโรค

อันตรายลำดับต้นๆ ของโลก เช่น โรคมาลาเรีย ไข้เลือดออก และโรคโควิด-19

ร้อง‘บิ๊กตู่’ขอบรรจุขรก.

วันเดียวกัน ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มสายวิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์จิตเวช นำโดยน.ส.นันทินี เยี่ยมยัง เป็นตัวแทนกลุ่มนักสังคมสงเคราะห์จิตเวช ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์

โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) และนายพันศักดิ์ เจริญ ผอ.ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สปน. เป็นผู้รับหนังสือ

โดยกลุ่มสายวิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์จิตเวชขอให้นายกฯ พิจารณาคัดเลือกบรรจุบุคลากรสายวิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์จิตเวช สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19 เข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ ตามมติ ครม.วันที่ 15 เม.ย.63 ที่อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขคัดเลือกบรรจุบุคลากรในสังกัดที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ

38,190 ตำแหน่ง โดยให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ

แต่เมื่อคัดเลือกจำนวน 24 สายงาน ปรากฏว่าไม่มีสายวิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์จิตเวช ซึ่งเป็นพนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งปฏิบัติงานในช่วงเวลาการระบาด

ของโรคติดเชื้ออย่างเต็มกำลังและความสามารถในการสนับสนุนด้านสาธารณสุข ส่งผลให้ขาดขวัญและกำลังใจในการทำงาน จึงขอให้นายกฯ ให้ความเป็นธรรม คัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษตามมติครม.วันที่ 15 เม.ย.63 ให้แก่ นักสังคมสงเคราะห์จิตเวชด้วย