‘สวิฟต์ จีแอล แม็ก เอดิชั่น’ – ได้รับการตอบรับจากลูกค้าแฟนพันธุ์แท้อย่างท่วมท้น ทุกครั้งที่ ‘ซูซูกิ’ นำรถที่ทำตลาดอยู่มาแต่งหน้าทาปาก เสริมเท่เติมหล่อ
ด้วยเพราะชุดแต่งที่ติดตั้งมาให้นั้น นอกจากจะทำให้ดูแพงและแตกต่างแล้ว ราคาย่อมเยามาก
ที่สำคัญราคารวมไปกับตัวรถจัดไฟแนนซ์ได้ในคราวเดียว รวมถึงหากต้องซ่อมสีหรือเปลี่ยนใหม่ ประกันภัยก็ยังครอบคลุมไว้แล้วในตัวด้วย
ล่าสุด ‘วัลลภ ตรีฤกษ์งาม’ กรรมการบริหาร ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จึงไม่พลาดที่จะจัดส่งรุ่นพิเศษ ‘ซูซูกิ สวิฟต์ จีแอล แม็ก เอดิชั่น’ (SWIFT GL MAX EDITION)
โดยนำรุ่น GL ที่หลายคนอาจมองข้าม ด้วยเพราะแม้จะมีอุปกรณ์มากกว่าตัวเริ่มต้น แต่ก็ยังอาจจะไม่จุใจเท่าตัวท็อป มาใส่ชุดแต่งเต็มคัน ในราคาเพิ่มขึ้น 5,000 บาท จาก 536,000 บาท เป็น 541,000 บาท บอกเลยว่าคุ้ม
เพราะที่ติดตั้งมาเพิ่ม มีทั้งสเกิร์ตข้าง ซุ้มล้อสีดำ สติ๊กเกอร์ลายเฉพาะ พร้อมตัวหนังสือ MAX EDITION เสาอากาศครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลัง ท่อไอเสียคู่ แยกซ้าย-ขวา เข้าชุดกับสเกิร์ตหลังดีไซน์ใหม่ เสริมความดุดัน เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต
ว่าแล้วก็ติดต่อขอนำรถมาทดสอบ เพื่อให้รับทราบอารมณ์การขับขี่กันอีกครั้ง
Advertisement
ถึงสำนักงานใหญ่ ซูซูกิ ย่านวงแหวนอ่อนนุช บ่ายแก่ค่อนไปทางเย็น การจราจรคลาคล่ำหนาแน่น
แต่ด้วยสวิฟต์ มีขนาดกะทัดรัด สามารถหลบหลีกเพื่อนร่วมทางอย่างคล่องแคล่ว
ยิ่งเครื่องยนต์ K12M ขนาด 1.2 ลิตร ที่ติดตั้งเทคโนโลยี DUALJET หัวฉีดคู่ เรียกกำลังมาใช้งานได้อย่างทันใจ โดยเฉพาะตีนต้นที่จัดจ้านพอตัว ช่วยให้เร่งแซงได้อย่างฉับไว และด้วยบอดี้ที่เล็กกะทัดรัด ช่วยให้การเปลี่ยนเลน เร่งแซง ไม่มีอาการไปปาดหน้าใครให้รำคาญใจ
ข้อมูลทางเทคนิค แบบตัวถัง เก๋งเล็ก 5 ประตู เครื่องยนต์ K12M DUALJET ความจุ 1,197 ซีซี กำลังสูงสุด 83 แรงม้า/6,000 รอบฯ แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร/4,400 รอบฯ ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ CVT ระบบรองรับ(หน้า) แม็กเฟอร์สันสตรัต/คอยล์สปริง ระบบรองรับ(หลัง) ทอร์ชั่นบีม/คอยล์สปริง มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,735×3,840×1,495 ม.ม.
รุ่งขึ้นมุ่งหน้าจ.อุทัยธานี ออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ การจราจรค่อนข้างเบาบาง ถือโอกาสทำความเร็วปลาย แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเรียกความเร็วมาใช้งานได้ทันใจ เข็มไมล์ ไต่ระดับขึ้นไปทะลุ 160 ก.ม.ต่อช.ม. ในพริบตา
เกียร์อัตโนมัติ CVT ทำงานราบเรียบไร้รอยต่อ คิกดาวน์เรียกกำลังมาใช้งานได้รวดเร็ว
แต่ถ้าอยากสนุกยิ่งขึ้นมีปุ่มที่หัวเกียร์แค่กดเบาๆ เข้าสู่โหมดสปอร์ต สังเกตได้จากรูปตัว S เล็กๆ ขึ้นที่หน้าจอ รอบเครื่องยนต์จะถูกเปลี่ยนในทันที เหมือนการเชนจ์เกียร์ลงต่ำ รวมถึงกว่าจะเปลี่ยนเกียร์แต่ละเกียร์จะลากรอบมากขึ้น
ตัวรถพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เหมาะอย่างยิ่งกับการเร่งแซง เพราะไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยใจ รวมถึงเวลาขึ้นทางชันที่ต้องการกำลังเข้ามาช่วยเห็นเล็กๆ อย่างนี้ ตลอดทางแซงเก๋งเล็ก เก๋งใหญ่มาแล้วนักต่อนัก
ซูซูกิ สวิฟต์ มาบนแพลตฟอร์ม HEARTECT และโครงสร้างตัวถัง TECT น้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่งมากขึ้น นอกจากความเสถียรของตัวรถ ยังให้ความนุ่มในแบบหนึบแน่น
ผ่านหลุมบ่อ คอสะพาน รู้สึกได้ถึงการให้ตัวของโช้กอัพ และระบบช่วงล่างไม่มีอาการกระด้างให้ได้รับรู้
ความปลอดภัยมีมาให้ครบตามมาตรฐาน ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจาย แรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD ระบบควบคุมเสถียรรภาพการทรงตัว ESP ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน Hill hold Control
และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS เมื่อระบบจับได้ว่ามีความผิดปกติจะเข้ามาทำงานทันที ลองเข้าโค้งบนความเร็วสูงกว่าที่ควรจะเป็น จนรถมีอาการ แต่ยังไม่ทันจะได้ปรับพวงมาลัยแก้ ระบบเข้ามาจัดการให้หมดแบบเบ็ดเสร็จในพริบตา
จบทริปขับทดสอบวิ่งไประยะทางร่วม 500 ก.ม. มีทั้งเจอรถติดในเมือง ทำความเร็วนอกเมือง เรียกกำลังยามต้องขึ้นทางลาดชัน กดดูอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 23.5 ก.ม.ต่อลิตร โดนใจนักเลงรถสายประหยัดไปเต็มๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงขัดใจเหมือนเดิม คือกระจกฝั่งคนขับที่อัตโนมัติเฉพาะขาลง เวลาเลื่อนขึ้นไม่อัตโนมัติ ต้องค้างมือไว้ที่ปุ่มเลื่อนกระจกจนสุด
แวะไปพิสูจน์ รถเล็ก แต่แรง แถมประหยัด กับตัวแต่งที่ทำเอาหลายคนต้องหันมามองจนเหลียวหลัง
โดย กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
