แฟ้มคดี : ยกฟ้องหวย30ล้าน-หมวดจรูญลั่นฟ้องกลับ

เปิดคำตัดสินศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้องคดีหวย30ล้านย้ำหลักฐานสัญญาณมือถือ‘หมวดจรูญ’ลั่นฟ้องกลับ : เป็นความคืบหน้าอีกขั้นของคดีมหากาพย์ที่เคยอยู่ในความสนใจของคนทั้งประเทศนานนับปี

สำหรับคดีหวย 30 ล้าน ที่ครูปรีชายื่นฟ้องหมวดจรูญ ฐานยักยอกทรัพย์ และรับของโจร กล่าวหาว่าขโมยลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล 30 ล้านของตัวเองไป

ขณะที่หมวดจรูญยืนยันว่าเป็นของตัวเอง

คดีพลิกผันไปมาหลายตลบ จนต้องใช้กองปราบปรามลงสางคดี ก่อนจะพบพิรุธเรื่องการทำสำนวนสอบสวน ลามไปถึงอดีตผบก.จว.กาญจนบุรี ที่ถูกสั่งย้าย ตั้งกรรมการสอบ และถูกดำเนินคดีอาญา

ในที่สุดศาลชั้นต้นก็พิพากษายกฟ้อง ระบุชัดว่าสลากฯ ดังกล่าวไม่ใช่ของครูปรีชา

ยกฟ้องหวย30ล้าน-หมวดจรูญลั่นฟ้องกลับ

จำลองเหตุการณ์

โดยยึดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

ขณะที่ครูปรีชาเองก็เดินหน้ายื่นอุทธรณ์ และในที่สุดศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนยกฟ้องเช่นกัน

เหลือการต่อสู้ในชั้นฎีกา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องราวก็คงยังไม่ยุติ เมื่อหมวดจรูญก็ประกาศจะฟ้องกลับคนที่กลั่นแกล้ง
เปลี่ยนจากจำเลยมาเป็นโจทก์ทันที

อุทธรณ์ยืนยกฟ้องหวย 30 ล.

เช้าวันที่ 20 ต.ค. ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 7 ในคดีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ รับของโจร

ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2562 ยกฟ้องไปก่อนหน้านี้

โดยเมื่อเวลา 09.30 นาฬิกา ศาลได้เริ่มอ่านคำพิพากษา 83 หน้า จนเสร็จสิ้นในเวลา 10.45 นาฬิกา ก่อนจะมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องร.ต.ท.จรูญ ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ รับของโจร

ขณะที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิเคราะห์แล้วว่า หลังจากพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เชื่อได้ว่านายปรีชา ซึ่งเป็นโจทก์ของคดี ไม่ได้เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ เมื่อนายปรีชาไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์จึงไม่ได้เป็นผู้เสียหาย

ยกฟ้องหวย30ล้าน-หมวดจรูญลั่นฟ้องกลับ

ครูปรีชา

เมื่อไม่ได้เป็นผู้เสียหาย จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับร.ต.ท.จรูญ จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของร.ต.ท.จรูญ เปิดเผยว่า สาเหตุ ที่ศาลมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้อง เนื่องจากศาลได้ให้ความสำคัญกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่มีอยู่ 2 ส่วน คือคลิปเสียงการสนทนาที่เคยระบุว่าไม่ได้ถูกรางวัล

หลักฐานสำคัญชิ้นที่ 2 คือ สัญญาณโทรศัพท์ของนายปรีชา ที่ใช้พิสูจน์ว่า คำให้การของครูปรีชาที่อ้างว่าเดินทางไปซื้อลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้ ในวันที่ 31 ต.ค.2560 นั้นไม่เป็นความจริง

เนื่องจากเบสสัญญาณโทรศัพท์ระบุว่า ในวันดังกล่าว พบว่านายปรีชาออกจากโรงเรียนเทพมงคล ซึ่งเป็นสถานที่ทำงาน เวลา 16.26 น. และไปรับลูกที่โรงเรียนวิสุทธรังษี ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ในเวลา 16.56 นาฬิกา

แต่ในคำให้การของนายปรีชา ระบุว่า วันดังกล่าว นายปรีชาแวะทำธุระที่ตลาด เรดซิตี้ และแวะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับ เจ๊บ้าบิ่น โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนจะเดินทางต่อไปรับลูกที่โรงเรียนวิสุทธรังษี แต่จากสัญญาณเบสโทรศัพท์ระบุชัดเจนว่าในเวลา 16.46 นาฬิกานั้น นายปรีชายังขับรถจอดติดสัญญาณไฟแดงอยู่ที่บริเวณสี่แยกอู่ทอง ใกล้เคียงกับตลาดเรดซิตี้

จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายปรีชาจะใช้เวลา 10 นาทีลงไปซื้อลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้ และเดินทางไปรับลูกที่โรงเรียนวิสุทธรังษีในเวลา 16.56 น.ตามที่กล่าวอ้าง

นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังมีคลิปเสียงการสนทนาของนายปรีชา ที่ใช้โทรศัพท์อยู่ตลอดช่วงเวลา จึงเชื่อได้ว่าในวันดังกล่าว นายปรีชาไม่ได้ไปซื้อลอตเตอรี่จากเจ๊บ้าบิ่น ที่ตลาดเรดซิตี้จริง ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ทำให้ศาลพิจารณายกฟ้องลุงจรูญตามศาลชั้นต้นในที่สุด

ยกฟ้อง 2 ศาลรวด

ย้อนปมหวยอลเวง

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2560 เมื่อนายปรีชาแจ้งความที่สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่าถูก ร.ต.ท.จรูญขโมยลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 พ.ย.60 โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนซื้อลอตเตอรี่โดยเน้นเลขท้าย 26 มาตลอดเนื่องจากเป็นเลขมงคล

จนกระทั่งงวดวันที่ 1 พ.ย.2560 ก็โทรศัพท์สั่งซื้อกับแม่ค้าที่เคยซื้อกันมาประจำ 5 ปี บอกให้เก็บเลขท้าย 26 เอาไว้ให้ ต่อมาวันที่ 26 ต.ค.60 แม่ค้าลอตเตอรี่ก็โทรศัพท์มาบอกว่าหาเลขท้าย 26 ให้ได้แล้ว 4 ชุด ชุดละ 5 ใบ จึงเดินทางมาเอาที่ตลาดนัดเรดซิตี้ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 31 ต.ค. เวลาประมาณ 16.00 น.

ยกฟ้องหวย30ล้าน-หมวดจรูญลั่นฟ้องกลับ

หมวดจรูญ

เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย ก็เอาสลากฯ ทั้งหมดใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วเดินซื้อของตามตลาดนัด จากนั้นก็ไปรับลูกสาวกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านก็ควักลอตเตอรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อ เพื่อเอาไปเก็บ แต่ปรากฏว่ามีลอตเตอรี่เพียงแค่ 3 ชุดเท่านั้น ซึ่งจำได้ว่าชุดที่หายไปคือหมายเลข 533726 จึงโทรศัพท์ไปถามแม่ค้า เขาก็ยืนยันว่าให้มาแล้วแน่นอน ก็ไม่ได้คิดอะไร

จนมาวันที่ 1 พ.ย. แม่ค้าก็ขับรถมาหาตนที่บ้านเพื่อแสดงความยินดี บอกว่าเราถูกรางวัลที่ 1 แต่ไปหายังไงก็ไม่พบ คนขายกลับไปเช็กต้นขั้วก็ยืนยันว่าตนถูกรางวัลที่ 1 แน่นอน

จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจน์ แล้วนำใบแจ้งความไปแจ้งต่อกองสลาก

กระทั่งวันที่ 28 พ.ย. กองสลากแจ้งมาทางตำรวจ และตำรวจก็ประสานตนไปพบ เนื่องจากมีคนนำสลากฯ รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ชุดไปขึ้นรางวัล พบว่าเป็น ร.ต.ท.จรูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานให้มาพบตามที่นัดหมาย และได้เจรจากันโดยมี พล.ต.ต. สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในขณะนั้น เป็นคนไกล่เกลี่ยเจรจา เพราะไม่ต้องการขึ้นศาล เนื่องจากเป็นข้าราชการเหมือนกัน แต่เมื่อเจรจาไม่รู้เรื่องจึงต้องแจ้งความ ดำเนินคดี

ขณะที่ ร.ต.ท.จรูญ ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี เผยว่า ยืนยันว่าสลากฯ ที่ถูกรางวัลเป็นของตน โดยช่วงเย็นวันที่ 31 ต.ค. ตนไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดนัดเรดซิตี้ แวะซื้อลอตเตอรี่เลขท้าย 26 เมื่อถึงแผงค้าพบเลขท้าย 26 อยู่ 2 ชุด จึงซื้อมา 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงิน 500 บาท และไม่ได้สนใจว่าเลขข้างหน้าเป็นอะไร หวังแค่ถูกเลขท้าย 2 ตัวเท่านั้น

โดยเมื่อเข้าไปเจรจากลับบอกให้แบ่งรางวัลกันคนละครึ่ง ซึ่งตนไม่ยอม เพราะซื้อลอตเตอรี่มาเองกับมือ

ลุกลามจนกระทั่งกองปราบปรามต้องเข้ามาคุมคดีด้วย ตัวเอง พร้อมเห็นพิรุธการทำสำนวน แจ้งข้อหาเอาผิดตำรวจไป หลายนาย

และมีบทสรุปที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้อง

2 ฝ่ายไม่ยอม-ลุยฟ้องต่อ

อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นการฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 7 นายษิทราระบุว่า จากนี้คดีที่ทางฝ่ายของร.ต.ท.จรูญเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายปรีชา และพวก ก็จะได้เริ่มกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณา เบื้องต้น 2 คดี คือคดีที่ ร.ต.ท.จรูญเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา และทนายความ ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา

อีกคดี คือคดีที่ยื่นฟ้องนายปรีชา เจ๊บ้าบิ่น-นางรัตนาพร สุภาทิพย์ และเจ๊พัช-น.ส.พัชริดา พรมตา ในความผิดฐานเบิกความเท็จ เมื่อตอนที่นายปรีชายื่นขออายัดเงินของคุณลุงจรูญต่อศาล ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้ก็จะเริ่มกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามกฎหมาย

ส่วนในเรื่องของพยานที่ขึ้นให้การทางฝั่งนายปรีชาในคดีอาญานั้น ยังไม่ได้มีการยื่นฟ้อง แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ร.ต.ท.จรูญว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับพยานที่ให้การเท็จรายใดบ้าง

ยกฟ้องหวย30ล้าน-หมวดจรูญลั่นฟ้องกลับ

พาดูจุดไกล่เกลี่ย

โดย ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ในวันนี้ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง คืนความเป็นธรรมให้กับตนเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปตนก็จะได้ทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเอง โดยฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่พยายามใส่ร้ายดำเนินคดีกับตนทั้งหมดทุกคน

ด้านครูปรีชาระบุว่า ให้ความเคารพในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 แม้ว่าจะมีในบางประเด็นที่ตนไม่เห็นด้วยก็ตาม

จากนี้ก็จะได้ไปปรึกษากับทีมทนายความ เพื่อที่จะดำเนินการยื่นฎีกาต่อศาลอีกครั้ง ซึ่งก็ถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามกระบวนการทางกฎหมายที่ตนสามารถทำได้ ทั้งนี้การยื่นฎีกาต่อศาลเบื้องต้นจะต้องยื่นภายใน 30 วัน จากนั้นก็จะอยู่ที่ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะรับฎีกา หรือไม่

ส่วนในประเด็นที่ว่าฝ่ายของ ร.ต.ท.จรูญจะยื่นฟ้องดำเนินคดีกับตนนั้น ไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะในตอนนี้คดียังไม่ได้สิ้นสุด ตนยังไม่ได้อยู่ในสถานะของการเป็นจำเลย และการที่จะถูกฝ่ายของ ร.ต.ท.จรูญฟ้องก็คงจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบวิชาชีพครูของตน เพราะคดียังไม่สิ้นสุด

น่าจะสู้กันอีกหลายยก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน