เมื่อวันที่ 29 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ ว่า วันที่ 30 พ.ย. 63-3 ธ.ค. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน เข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะ ผู้อำนวยการกลาง กล่าวว่า เนื่องด้วยประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา กอปภ.ก.จึงได้ประสาน 12 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง รวมถึงสั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านที่จ.พัทลุง สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา ใน 5 อำเภอของทางจังหวัด ขณะที่จ.ตรัง สถานการณ์น้ำท่วมในหลายตำบลของ 4 อำเภอ ซึ่งทั้งหมดเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำที่ถูกน้ำป่าจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ และน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ไหลหลากเข้าท่วม แต่ล่าสุดหลังฝนหยุดตกติดต่อกัน 2 วัน ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงตามลำดับ ส่วนที่ จ.นราธิวาส สภาวะน้ำท่วมขังขยายวงกว้างกินพื้นที่ 8 อำเภอ 29 ตำบล 111 หมู่บ้าน หลังมีฝนตกต่อเนื่องทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่รองรับปริมาณน้ำเอ่อล้นท่วมชุมชนริมตลิ่ง
