เพิ่ม‘เที่ยวด้วยกัน’
ให้จองอีก1ล.ห้อง

แห่เดินทางปีใหม่ ถนนมิตรภาพแน่นแล้ว ‘ลำตะคอง-ปากช่อง-สีคิ้ว’ เริ่มหนึบ ทาง หลวงเตือนวางแผนเดินทางให้ดี คาดรถมากไปจนถึง 31 ธ.ค. เชียงใหม่แก้กฎปล่อยโคมลอย ห้ามเด็ดขาดช่วงปีใหม่รัฐบาลเพิ่มอีก 1 ล้านห้องพัก ให้เที่ยวด้วยกัน เปิดจองใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ 28 ธ.ค.นี้ ส่วน ‘เที่ยวไทยวัยเก๋า’ส่งครม. เคาะ 29 ธ.ค.นี้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของชาวภาคอีสาน เพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ 2564 บนถนนมิตรภาพ ในพื้นที่จ.นครราชสีมา ว่า มีรถหนาแน่นหลายจุด ตั้งแต่ช่วง ก.ม. 32 ขึ้นเนินมอกลางดง อ.ปากช่อง และก.ม.70-87 ขึ้นเนินเขาคลองไผ่ เขื่อนลำตะคอง โดยเฉพาะที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง มีรถสะสมหนาแน่นจนเกิดการชะลอตัว ทั้งขาขึ้น และ ขาล่อง ตั้งแต่เขต ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ถึงเขต ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว รวมเป็นระยะทางยาวกว่า 20 กิโลเมตร

ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ต้องจัด กำลังเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ถนนมิตรภาพยังมีรถหนาแน่นอีกหลายจุด เช่น บริเวณหน้าตลาดกลางดง ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง, บริเวณหน้าฟาร์มโชคชัย ต.ซับหวาย อ.ปากช่อง, บริเวณหน้าโรงเรียนมหิศราธิบดี ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง, บริเวณสามแยกโนนสูง, บริเวณ สี่แยก อ.สีดา และถนนเส้นบายพาส อ.เมือง เป็นต้น ส่วนถนนสาย 304 ที่มาจากฝั่งภาคตะวันออก จะมีรถติดหนาแน่นบริเวณสี่แยกอวยชัย อ.ปักธงชัย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วงบ่ายยังคงมีรถหนาแน่นจนถึงช่วงค่ำ ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา จึงขอแจ้งให้ประชาชนได้วางแผนการเดินทางให้ดี ด้วยการตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง รวมทั้งทางเลี่ยงการจราจรติดขัด เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่นี้ โดย เจ้าหน้าที่คาดว่าตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. เนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งจะทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา

ด้านพ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สว.ส.ทล.1 กก.6 (นครราชสีมา) กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกตรวจด้านการจราจร ถนนมิตรภาพและถนนทางหลวงสายรอง เพื่อดูแลด้านการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ และรับผิดชอบดูแล ถนนหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ เริ่มจากเขตติดต่อ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ขึ้นยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่าน จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่นำรถตรวจการณ์ พร้อมกำลังออกบริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงช่วงเทศกาลปีใหม่นี้

พ.ต.ท.วิษณุกล่าวต่อว่า ช่วง 7 วัน อันตราย เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 63 ถึงวันที่ 2 ม.ค. 64 จะมีปัญหาการจราจรติดขัด ที่ จ.นครราชสีมา ทล.2 มิตรภาพ และ ทล.304 (วังน้ำเขียว-นาดี) และ จ.บุรีรัมย์ ทล.308 ช่องตะโก (นางรอง-อรัญประเทศ) ตำรวจทางหลวงจะมีการเปิดช่องทางพิเศษอำนวยการจราจรทุกจุดที่มีปัญหาจราจร และได้เตรียมความพร้อม จนกว่าสถานการณ์การจราจรจะคลี่คลาย โดยมีกำลังตำรวจ 220 นาย อาสาจราจร 250นาย รถวิทยุตรวจการณ์ 100 คัน กรวยยาง กว่า 1,500 อัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกกษา ลงประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ลงนามในประกาศเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2563 โดยสาระสำคัญของประกาศที่มีการแก้ไขฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบของกรรมการจังหวัดเชียงใหม่ ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สาระสำคัญในการแก้ไขคือ จะขออนุญาตกับนายอำเภอท้องที่เพื่อปล่อยโคมได้แค่ 2 วันคือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือวันลอยกระทงเล็ก และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 หรือวันลอยกระทงใหญ่เท่านั้น ส่วนเวลาอนุญาตให้ปล่อยได้ยังเป็นช่วงเวลาตามประกาศฉบับเดิม ส่วนการขออนุญาตปล่อยโคมได้ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในข้อ 3.3 ถูกประกาศฉบับใหม่ตัดออกแล้ว นั่นหมายความว่า ในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2564 ที่จะถึงนี้ ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ทั้งจังหวัดไม่สามารถจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศได้

ทั้งนี้ประกาศฉบับนี้ได้แก้ไขเพิ่มเติมใน ข้อ 5 ระบุชนิด และขนาดของโคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ที่จะจุดและปล่อยขึ้นไปสู่อากาศ ข้อ 7 เกี่ยวกับ สถานที่จุดและปล่อย นอกจากนั้นยังแก้ไข ข้อ 9.1 ข้อ 9.3 และข้อ 9.4 ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงเกี่ยวกับพื้นที่ห้ามจำหน่าย ห้ามปล่อยโคม ลอย อาทิ ในวัด โรงเรียน ทางสาธารณะ ที่สาธารณะ สถานที่ราชการ พื้นที่ที่อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ บริเวณใกล้เคียงสนามบินเชียงใหม่ และเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ (รายละเอียดดังประกาศในราชกิจจานุเบกษา)

วันเดียวกันนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า 28 ธ.ค. จะเปิดให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน จองสิทธิห้องพัก 1 ล้านสิทธิใหม่ หลังต้องเลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากพฤติกรรมต้องสงสัยของโรงแรมและร้านอาหารบางส่วนเข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่มักง่ายและคิดสั้นที่ทำลงไปแบบนั้น และทุจริต หาประโยชน์ เข้าตัวเอง และในวันที่ 29 ธ.ค. จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาทซึ่งถูกกันมาจากงบฯโครงการเราเที่ยวด้วยกันวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับการเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มสูงวัย อายุ 55-75 ปี 1 ล้านคน วางเงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์แก่กลุ่ม เป้าหมายว่าต้องมีการเดินทาง 2 คนขึ้นไปในวันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดี โดยใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เดินทาง 3 วัน 2 คืนขึ้นไป สนับสนุนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน