เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ม.ค. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคพ.ร่วมกับ กรุงเทพฯ ตรวจวัดฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือพีเอ็ม 2.5 (PM2.5) วัดค่าได้ 48-109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) พบปริมาณฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นพื้นที่สีแดง (ค่าฝุ่นเกิน 90 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 23 พื้นที่ โดยจุดสูงสุด 3 จุดอยู่ที่ ริมถนน กาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน ค่าฝุ่น 102 มคก./ลบ.ม. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง ค่าฝุ่น 100 มคก./ลบ.ม. แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ค่าฝุ่น 95 มคก./ลบ.ม. โดยสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKKa

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เชียงใหม่ ว่า การตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ 4 จุด ช่วงเวลา 12.00 น. จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 มีค่า 77 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนค่า AQI วัดได้ 167 เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) : GISTDA รายงานผลการเกิดจุดความร้อนจากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2564 พบจุดความร้อนประเทศไทย รวม 700 จุด พบมากที่สุด ในจ.ลำปาง 74 จุด จ.เชียงใหม่ 59 จุด และจ.เพชรบูรณ์ 50 จุด สำหรับจุดความร้อนภาคเหนือ รวม 400 จุด

ด้านกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) แจ้งว่า สืบเนื่องจากแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละออง และจุดความร้อน ประกอบกับการคาดการณ์สภาพอุตุนิยมวิทยา ที่เอื้อต่อการสะสมตัว ของฝุ่นละออง ในวันที่ 16 ม.ค. 64 ทั้งนี้ขอให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ เร่งรัดการควบคุม แหล่งกำเนิดฝุ่นละอองทุกประเภท โดยเฉพาะไฟป่าและการเผาในที่โล่ง และอาจพิจารณาชะลอการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยการชิงเผา พร้อมทั้ง ขอให้ดำเนินมาตรการในการเฝ้าระวัง และบรรเทาผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน