คอลัมน์ แฟ้มคดี

ตร.สั่งฟัน‘กาละแมร์’ รีวิวอาหารเสริมเว่อร์ – กลายเป็นช่องทางทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ สำหรับการขายอาหารเสริมต่างๆ ให้กับประชาชน

โดยดารานักร้อง ใครที่โด่งดังพอมีชื่อเสียง ก็หันมาทำอาชีพนี้กันหมด พร้อมใช้ความน่าเชื่อถือของตัวเอง เสกสรรปั้นแต่งว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีความวิเศษเลอเลิศจนหาค่าไม่ได้

ส่งผลให้ประชาชนที่ไม่รู้เท่าทันหลงเชื่อ และขาดโอกาสในการรักษาที่ถูกต้อง

อย่างผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า ที่อวดโอ่ว่าช่วยเหลือเรื่องปวดไขข้อ ทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่สรรพคุณเป็นยา

หรืออาหารเสริมของพิธีกรหญิง อย่าง กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ ที่อ้างว่ากินแล้วหายโควิด ตา 2 ชั้น หรือดั้งโด่งขึ้น

พรรณนาเสียยกใหญ่อย่างไม่ละอายต่อภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม

แถมเมื่อถูกดำเนินคดีก็ยังอ้างว่าเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง และที่เป็นเรื่องเพราะตัวเองไม่รู้กฎหมาย

ขณะที่ดาราที่ร่วมรีวิว ก็ออกมาปฏิเสธว่าเป็นแค่การว่าจ้าง ไม่ได้เห็นว่าสินค้านี้จะวิเศษเหมือนที่กล่าวอ้าง

จึงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

ให้มีบรรทัดฐานของความรับผิดชอบต่อสังคม อยู่เหนือความร่ำรวยอย่างไร้ความรับผิดชอบ

 

❐ ฟันกาละแมร์โฆษณาเกินจริง

เหตุการณ์เชือดกรณีรีวิวอาหารเสริมเกินจริงครั้งนี้ ปรากฏในความรับรู้ของสังคมเมื่อวันที่ 18 ม.ค. โดย ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า ตรวจสอบพบว่ามีการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเป็นการโฆษณาของ น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือ กาละแมร์ พิธีกรชื่อดัง

โดยโฆษณาดังกล่าวเป็นการทำคลิปวิดีโอบรรยายสรรพคุณอาหารเสริมของตัวเอง ที่ใช้เครื่องหมายการค้า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โบเทรา ดริ้งค์ เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0229 และ โบเทรา ชอต เครื่องดื่มชนิดผง เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0233 เผยแพร่ผ่านอินสตาแกรม “hipowershot” และเฟซบุ๊ก “Botera โบเทรา สวยทรงพลัง”

 

มีเนื้อหาเป็นการบรรยายสรรพคุณของอาหารเสริมตัวเอง โดยใช้ถ้อยคำว่า “กรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายก ตาที่เคยหนังตาตก ก็เป็นตา 2 ชั้น รอยขมวดคิ้วหาย ร่องแก้มตื้น จมูกเข้ารูป ย้ำอีกครั้งว่า ไม่เคยทำจมูกอะไรใดๆ ตอนนี้กินแต่ผลิตภัณฑ์ตัวเองเท่านั้น”

เปรียบเทียบสรรพคุณอาหารเสริมเทียบชั้นได้กับการทำศัลยกรรม ถึงขั้นมีตา 2 ชั้น!??

รีวิวตา 2 ชั้น

ภญ.สุภัทราระบุว่า อย. ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีผลิตภัณฑ์อาหารตัวใดที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือการทำงานของร่างกายได้ตามที่กล่าวอ้าง การโฆษณาดังกล่าวเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณ อันเป็นเท็จ หลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควร

มีโทษตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ อย.สั่งระงับการโฆษณา พร้อมดำเนินมาตรการทางปกครอง และมีหนังสือถึงตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับ การคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

และไม่ใช่แค่กรณีเป็นกรณีแรก อย.ยังดำเนินคดีกับบริษัทพาวเวอร์ชอต และน.ส.พัชรศรี 1 ในกรรมการ ผู้จัดการบริษัทดังกล่าว ฐานโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาสรรพคุณอาหารอันเป็นเท็จ หลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควร ทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม มาแล้ว 7 คดี

พร้อมเตือนบุคคลสาธารณะ ก่อนคิดจะรีวิวผลิตภัณฑ์สุขภาพใด ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ให้ข้อมูลกับผู้บริโภค

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบคลิปต่างๆ ของกาละแมร์ ก็ยังมีอีกหลายเนื้อหา ไม่ว่าเรื่องของคนที่กินอาหารเสริมแล้ว จากที่ตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก ก็กลายเป็นลบ หรือช่วยให้สามีภรรยาที่ทะเลาะกัน กินแล้วเลิกทะเลาะกันได้

อวดอ้างเกินข้อเท็จจริงจนเกินเลย

 

❐ เจ้าตัวอ้างไม่รู้ข้อกฎหมาย

ขณะที่ในส่วนของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครอง ผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ประสานไปยัง น.ส.พัชรศรี หรือกาละแมร์ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เข้าพบพนักงานสอบสวน

แต่เมื่อโทรศัพท์ไปหา น.ส.พัชรศรี กลับไม่รับสาย และไม่โทร.กลับ พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียก ครั้งที่ 1 ไปตามที่อยู่ โดยนัดหมายให้ น.ส.พัชรศรี เข้าพบในที่ 28 ม.ค.นี้ เวลา 11.30 น. เพื่อรับทราบ ข้อกล่าวหาในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 40

แต่สุดท้ายเมื่อถึงวันเวลานัด กาละแมร์-พัชรศรี กลับไม่ได้ปรากฏตัวตามหมายเรียก เป็นเหตุให้ พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพทศย์ รองผบก.ปคบ. พิจารณาออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อให้กาละแมร์มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 9 ก.พ. 2564 พร้อมกันนั้นยังออกหมายเรียก ติช่า กันติชา ชุมมะ นางแบบชื่อดังที่ปรากฏตัวในคลิปอวดอ้างสรรพคุณอาหารเสริมเพื่อมาให้ถ้อยคำด้วย

แจงกมธ.สภา

สำหรับความเคลื่อนไหวของกาละแมร์ นั้น พบว่าในวันที่ 28 ม.ค. ที่พนักงานสอบสวนบก.ปคม.นัดหมายนั้น เจ้าตัวกลับไปโผล่ที่รัฐสภา เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภา ผู้แทนราษฎร ซึ่งมีวาระประชุมพิจารณาศึกษาสรรพคุณและผลกระทบต่อสุขภาพ ที่เกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ ที่จำหน่ายในท้องตลาด รวมถึงแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค

โดยน.ส.พัชรศรี ให้สัมภาษณ์หลังชี้แจงว่า กมธ.เชิญมาให้ข้อมูลในฐานะที่เป็น ผู้ประกอบการ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้แสดงความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควรจะทำอย่างไรดี เพราะไม่เคยรู้เรื่องประกาศ อย. แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ไปศึกษาว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้บ้าง ปรากฏว่ามีรายละเอียดของกฎหมายมาก จึงต้องมาหาทางออกให้กับผู้ประกอบการทุกคน ตอนนี้ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

ทั้งนี้ ก่อนหน้าจะไปพบกมธ.สาธารณสุข กาละแมร์โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว ว่า คลิปโปรโมตดังกล่าวได้ตัดมาจาก เนื้อหาของการไลฟ์ที่แมร์พูดคุยกับแฟนคลับ และลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ชวนกันมาพูดคุยถึงประสบการณ์จริงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว

ขอย้ำอีกครั้งว่าผลลัพธ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ซานิพบตร.

ขณะที่กาละแมร์ยังไม่มาพบตร. นักร้องสาว ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ ก็เข้าพบตร.บก.ปคบ. เพราะเป็นหนึ่ง ในพิธีกรที่ร่วมไลฟ์สดขายอาหารเสริมด้วย โดยเจ้าตัวยืนยันมาในฐานะพยาน โดยวันดังกล่าวไปไลฟ์สดเพราะถูกว่าจ้างให้ไปช่วยโปรโมตสินค้าตัวใหม่ เป็นตัวชง เอ็นเตอร์เทน เท่านั้น ส่วนเรื่องสรรพคุณของสินค้า มีกาละแมร์เป็นคนพูดทั้งหมด

เป็นการว่าจ้างมาโฆษณานั่นเอง

 

❐ ศาลสั่งคุกยิ่งยงขายถั่งเช่า

นอกจากนี้ยังมีกรณีถั่งเช่า ที่โฆษณากันทั้งบ้านทั้งเมือง โดยเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการให้ตรวจสอบ โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประสานกับกสทช. ดำเนินคดีกับผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า ที่มีดารา นักแสดง นักร้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ อวดอ้างสรรพคุณรักษาโรคทางสื่อต่างๆ ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกต้อง แถมมีผลต่อผู้ป่วย โรคไต

 

ประกอบด้วย 1.การโฆษณาผลิตภัณฑ์ ถั่งเช่าผสมมัลติวิตามินบี และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดถั่งเช่าผสม ยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้า ลีฟเนส) ทางเว็บไซต์บริษัทผู้ผลิต 2.การโฆษณาผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารสารสกัดถั่งเช่าผสมยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้า ลีฟเนส)

โฆษณาถั่งเช่า

โดยกสทช.สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 2 ช่อง รายละ 5 แสนบาท และตรวจสอบพบสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมอีก 1 ช่องที่จะเข้าสู่การพิจารณาลงโทษปรับ 5 แสนบาท พร้อมเตือนสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมกว่า 10 แห่ง และสถานีวิทยุอีกกว่า 150 สถานี ให้ระงับการโฆษณา

ขณะที่ศาลแขวงนนทบุรี พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องยิ่งยง ยอดบัวงาม ฐานโฆษณาเกินจริง โดยโฆษณาคุณประโยชน์ สรรพคุณอาหารเสริม สารสกัด ถั่งเช่า ผสมยูซี-ทู ว่าผู้สูงอายุที่มีปัญหากระดูกและเข่า ลุกขึ้นก็ปวด หลังจากทานแล้ว 3 เดือน เดี๋ยวนี้อาการปวดไม่มีเลย อยากจะบอกต่อให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาข้อเข่า ซึ่งเป็นการโฆษณามุ่งหมายว่าผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว ทำหน้าที่เหมือนยา

จำเลยรับสารภาพ ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 91 ฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์อาหารเป็นเท็จจำคุก 2 กระทง กระทงละ 1 ปีและปรับ 2 กระทง กระทงละ 2,000 บาท เป็นจำคุก 2 ปีและปรับ 40,000 บาท

ฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์อาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ 2 กระทง กระทงละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท

รวมจำคุกทั้งสิ้น 2 ปีและปรับ 50,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 1 ปีและปรับ 25,000 บาท โดยโทษจำคุกรอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี

เป็นบทเรียนของการโฆษณาเกินจริง!??

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน