กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตรียมฟันคลินิกศัลยกรรมสยอง ทำแม่ค้าสาวผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้องดับ ฐานฝ่าฝืนพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศของกทม. ระบุมีใบอนุญาตและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง แต่ยังเข้าไปตรวจสอบสถานที่ไม่ได้ ต้องรอผู้เกี่ยวข้องมาให้รายละเอียด ส่วนเหตุทำคนไข้ตาย ทางคณะอนุกรรมการที่มีทั้งอัยการและแพทยสภาจะร่วมสอบถึงมาตรฐานการให้บริการว่า ใช้แพทย์ตัวจริงหรือปลอมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือไม่ ด้านตำรวจก็รีบรายงาน น.1 เข้าตรวจสอบแล้ว แต่คลินิกปิดไม่มีคนอยู่ ทราบว่าปิดมาตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เชื่อน่าจะนัดหมายกันมาเอง ต้องรอสอบญาติอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นพิธีศพ
กรณีน.ส.ศิริกุล หรือโบ๊ต ราศีทรัพย์ อายุ 34 ปี แม่ค้าขายโทรศัพท์และทองรูปพรรณออนไลน์ ที่ไปซื้อคอร์สผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้องจากคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ราคาโปรโมชั่น 69,999 บาท รวมค่าอาหารและที่พัก ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าหลังจากนั้นได้มีอาการแทรกซ้อนจนเริ่มผิดปกติ ก่อนถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่หลังเข้ารับการรักษาอาการอยู่ได้ประมาณ 14 วันก็ได้เสียชีวิตลงเมื่อคืนวันที่ 8 มิ.ยที่ผ่านมา ผลการผ่าชันสูตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากสมองขาดอากาศ อันเป็นผลแทรกซ้อนจากประวัติผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้องตามที่เคยเป็นข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. พนักงานสอบสวนของสน.เตาปูน ได้รายงานความคืบหน้าให้กับพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. รับทราบกรณีหญิงสาวที่เสียชีวิตหลังการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้อง ตามที่นางไพเราะ เดชอุดม อายุ 53 ปี เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ระบุน.ส.ศิริกุล ราศีทรัพย์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นบุตรของผู้แจ้ง ได้เข้ารักษาศัลยกรรมหน้าท้องที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ หลังการผ่าตัดน.ส.ศิริกุลเกิดอาการชักเกร็งพูดไม่ชัด เจ้าหน้าที่ของคลินิกได้รักษาพยาบาลในเบื้องต้น แต่อาการยังไม่ดีขึ้นจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล แพทย์ทำการรักษาอยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระปิ่นเกล้า และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.เตาปูน ได้เข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบว่าเป็นตึกแถว 2 คูหาอยู่ใกล้กับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า MRT สามแยกเตาปูน ด้านทิศตะวันตก มีป้ายคลินิกอยู่หน้าร้านและปิดประตูด้านหน้าทั้งหมดไม่มีผู้ใดอยู่ภายใน จากการสอบถามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้เคียงแจ้งว่า คลินิกดังกล่าวปิดมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด ตามปกติลูกค้าน่าจะนัดหมายเข้ามามากกว่า
จากนั้น พนักงานสอบสวนประสานไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวได้ดำเนินการถูกต้องตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 หรือไม่อย่างไร เบื้องต้นพบว่า คลินิกมีการขออนุญาตประกอบกิจการและขึ้นทะเบียน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการเสริมความงาม อาทิ ดูดไขมัน เสริมหน้าอก เสริมจมูก เสริมคาง ฯลฯ แต่เมื่อติดต่อไปยังผู้ประกอบกิจการเพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่ กลับพบว่าไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะได้เชิญ ผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการมาให้ถ้อยคำที่กรมต่อไป
สำหรับกรณีการเสียชีวิตจะต้องนำเรื่องเข้าคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีอัยการ,แพทยสภา, กรมการแพทย์, อย.,สคบ. ร่วมเป็นอนุกรรมการด้วย โดยจะมุ่งตรวจสอบในส่วนของมาตรฐานการให้บริการตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และตัวผู้ให้บริการในวันที่เกิดเหตุว่า เป็นแพทย์จริงหรือปล่อยให้บุคคลอื่นมาให้บริการแทนจนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตหรือไม่
ส่วนประเด็นที่คลินิกลักลอบให้บริการเสริมความงามในระหว่างที่กรุงเทพมหานคร มีคำสั่งกำหนดให้คลินิกเวชกรรมที่เสริม ความงาม ปิดดำเนินการเป็นการชั่วคราวเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการฐานฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศกรุงเทพ มหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 25) ต่อไป
ด้านพ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.สน.เตาปูน เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางญาติผู้เสียหายได้ เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. พร้อมกันนี้ทางพนักงานสอบสวนสน.เตาปูนยังได้ประสานไปยัง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เพื่อตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวมีมาตรฐานเป็นอย่างไร เบื้องต้นพบว่า คลินิกมีการขออนุญาตประกอบกิจการและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะได้เชิญทางญาติของผู้ตาย มาสอบปากคำเพิ่มเติมหลังจากเสร็จสิ้นงานศพแล้ว เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่อไปอีกด้วย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังลงพื้นที่เพื่อ ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามดังกล่าว พบว่าอยู่บริเวณใกล้ทางขึ้นที่ 1 รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีเตาปูน แต่ยังปิดทำการอยู่ จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงทราบว่า คลินิกแห่งนี้เพิ่งมาเปิดได้ไม่ถึง 1 ปี ซึ่งเมื่อเดือนพ.ค. เท่าที่สังเกตเห็นมีผู้มาใช้บริการ เดินผ่านมาไม่กี่รายเท่านั้น ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกันว่าคลินิก เปิดให้บริการ เพราะเห็นว่าปิดมาตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่ที่เดินทางมาก็น่าจะโทรศัพท์นัดกันมาก่อนหรือไม่รวมทั้งยังไม่ทราบด้วยว่ามี ผู้มาใช้บริการเสียชีวิต
