อ้างพันธุ์ฮิต‘แดงอินโด’
ปลูกสักพักพบย้อมแมว

ตุ๋นขายต้นไม้ฮิต ‘กล้วยด่าง แดงอินโด’ ที่กำลังเป็นที่นิยมปลูก และซื้อขายราคาสูง เหยื่อนับสิบรวมตัวร้องกองปราบฯโดน 18 มงกุฎร้ายเปิดเพจขายกล้วยด่างปลอม เผยทำแนบเนียนเริ่มจากให้ความรู้ วิธีปลูก ก่อนที่จะลงขายต้นอ่อนราคาหลักพันถึงแสนบาท กระทั่งมีเหยื่อหลงเชื่อสั่งซื้อหวังเลี้ยงไว้ขายต่อทำกำไร แต่พอต้นเริ่มโตพบไม่ใช่พันธุ์ที่กำลังฮิต ส่งตรวจในแล็บถึงผงะเป็นแค่กล้วยธรรมดา ติดต่อกลับไปคนขายอ้างจะชดใช้ให้ก่อนปิดเพจ-มือถือหนีหาย พบค่า เสียหายรวมกันกว่า 4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม นายฐิติวัฒน์ เติมชัยธนะโชติ อายุ 37 ปี พร้อมผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธนบดี ดวงจิตต์ รอง สว.(สอบสวน)กก.1 บก.ป. แจ้งความดำเนินคดีกับนายนภดล วิเวก อายุ 40 ปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังจากหลอกขายต้นอ่อนกล้วยด่างสายพันธุ์แดงอินโด แต่เมื่อเลี้ยงไปได้ ซักพักปรากฏว่าไม่ตรงตามที่กล่าวอ้าง ความ เสียหายรวมกันแล้ว 4 ล้านบาท

นายฐิติวัฒน์กล่าวว่า รู้จักกับนายนภดล ผ่านเฟซบุ๊กชื่อบัญชีว่า “สมใจ ไม้ด่าง” ซึ่งเป็นบัญชีเปิดใหม่ โดยเริ่มประกาศขายต้นไม้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมอัพรูปภาพ และขั้นตอนการปลูก, การดูแล ไปจนถึงการขายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีภาพที่พักเปิดเป็นหน้าร้าน สามารถนัดรับของได้ ส่วนราคาขายต้นอ่อนของกล้วยด่างราคาต่ำสุด อยู่ที่ 5 พันบาท ไปจนถึงหลักแสนบาท

นายฐิติวัฒน์กล่าวอีกว่า ก่อนที่จะซื้อพยายามสอบถามหารายละเอียดของผู้ขาย เพื่อสร้างความมั่นใจ ก็พบว่ามีการส่งของจริงและลูกค้าก็ได้รับสินค้าจริงตรงตามที่ประกาศขาย จึงสั่งซื้อไปหลายต้น ในราคา 150,000 บาท เพื่อนำมาเลี้ยงไว้ขายต่อ แต่ภายหลังพบว่าเมื่อเลี้ยงต้นอ่อนไปได้สักพักกล้วยที่เลี้ยงกลับไม่ใช่สายพันธุ์แดงอินโด จึงติดต่อกับสมาชิกในกลุ่มพบว่ามีหลายคนถูกหลอกขายกล้วยด่างในลักษณะเดียวกัน จึงตัดสินใจรวมตัวกันนำกล้วยด่างไปตรวจสอบที่ห้องแล็บ จนพบความจริงว่ากล้วยที่ซื้อมาเป็นสายพันธุ์ทั่วไป ไม่ใช่แดงอินโดที่มีราคาสูง

“เมื่อรวมตัวกันสอบถามไปยังนายนภดล ก็บอกว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้ ก่อนที่จะหายเงียบไปไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย รวมทั้งเพจดังกล่าวก็ปิดตัวไปแล้วด้วย จึงรู้ว่าถูกหลอกจึงนัดกันมาแจ้งความ ทราบด้วยว่ายังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกเป็นจำนวนมาก เพราะปัจจุบันกระแสตลาดไม้ใบด่างสูงขึ้น ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมาก จึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพแฝงเข้ามาต้มตุ๋นแบบนี้ได้” ผู้เสียหายกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เสียหาย พบว่าเหตุเกิดในท้องที่เดียวกันคือพื้นที่ สน.อุดมสุข จึงแนะนำให้ไปแจ้งความยังเจ้าของพื้นที่ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน