ตร.เค้นขยายผล
มือโพสต์ข่าวปว.

นักการเงินชื่อดัง ‘บรรยง พงษ์พานิช’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ไม่ควรบริหารประเทศอีกต่อไป แนะ 3 ทางลงเพื่อรักษาเกียรติชายชาติทหาร ทั้งเร่งแก้รธน.ปิดสวิตช์ส.ว.ให้เสร็จใน 2 สัปดาห์ จากนั้นยุบสภาและไม่รับตำแหน่งนายกฯ รักษาการ ด้านเพื่อไทยยันฝ่ายค้านยื่นซักฟอกรัฐบาลแน่ ส่วน ‘ยุทธพงศ์’ จองกฐิน ถล่ม ‘บิ๊กตู่’ ปมงบกองทัพ แย้ม ‘3ป.-อนุทิน’ มีชื่อถูกจับขึ้นเขียง อัดกมธ.ซีกรัฐบาลผ่านงบกองทัพเรือ ขู่แฉชื่อคนโหวต ตำรวจเร่งสอบปากคำมือโพสต์ปูดข่าวรัฐประหาร เตรียมขยายผลเรียกคนแชร์มาสอบสวนต่อ

ตร.ขยายผลสอบมือโพสต์ปฏิวัติ

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงกรณีพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. สั่งให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ปล่อยข่าวเท็จว่าทหารจะทำการรัฐประหาร และมีการจับกุมผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล ทำให้สังคม เกิดความวุ่นวาย และทำให้กองทัพบกเสียหายว่ากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ดำเนินการสอบปากคำผู้ที่รับว่าได้โพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งเป็นข้าราชการใน จ.ฉะเชิงเทรา แล้วขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดเนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนข้อกล่าวหาที่นายทหารพระธรรมนูญมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนในเรื่องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เป็นหนึ่ง ในข้อหาที่จะมีการแจ้งในข้อหานี้ สำหรับข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินถึงความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในชั้นนี้ต้องรอให้การสอบปากคำ การรวบรวม พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นก่อนจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ นอกจากนี้ ยังขยายผลถึงผู้ที่นำโพสต์ไปแชร์ต่ออีก 2-3 ราย อยู่ในกระบวนการเชิญตัวมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

เผยต้นตอมาจากขรก.แปดริ้ว

เมื่อเวลา 18.15 น. ที่บช.สอท. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. กล่าวว่า ชุดสืบสวนบก.สอท.2 ได้ตรวจสอบจนสืบทราบว่า ผู้โพสต์เป็นข้าราชการครูระดับสูง อยู่ในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา ตำรวจจึงขออนุมัติหมายค้นไปค้นบ้านพักในจ.ฉะเชิงเทรา ได้ยึดของกลางโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์เพื่อ ตรวจสอบ และเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยรับสารภาพว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว จริง ซึ่งชุดสืบสวนจะขยายผลเพิ่มเติมต่อไป ยืนยันว่าการตรวจสอบข่าวปลอม ทางเจ้าหน้าที่ จะทำตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง จะไม่มีการ จับกุมผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการไปปิดกั้น IP โดยไม่จำเป็น เนื่องจากทุกอย่างต้องทำภายใต้กฎหมาย ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรม และนำตัว ผู้กระทำผิดตามกฎหมายมาลงโทษเท่านั้น

บรรยงแนะทางลง‘บิ๊กตู่’








Advertisement

นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ถึงนาทีนี้จากการต่อต้านของประชาชนจำนวนมากน่าจะแจ้งชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไม่สามารถบริหารประเทศในฐานะนายกฯ ได้อีกต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดความ เสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์อีกต่อไป ตนขอแนะนำขั้นตอนการลงจากตำแหน่งอย่างยังพอมีเกียรติบ้างดังนี้

ให้พล.อ.ประยุทธ์ประกาศสัญญาต่อประชาชนว่า 1.จะดำเนินการทุกวิถีทางให้มีแก้รัฐธรรมนูญภายใน 2 สัปดาห์ในเรื่องการเข้าสู่อำนาจ โดยตัดอำนาจในการเลือกนายกฯ ของส.ว.จะเปลี่ยนวิธีการเลือกตั้งให้กลับไปตามรัฐธรรมนูญ 2540

2.จะประกาศยุบสภาทันทีที่ดำเนินการ ข้อ 1 เสร็จสิ้น หรือเมื่อชัดเจนว่าดำเนินการไม่ได้ 3.จะไม่รับการเป็นนายกฯ รักษาการระหว่างรอเลือกตั้งใหม่

นายบรรยงระบุด้วยว่า นี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะยังรักษาเกียรติของชายชาติทหารไว้ได้บ้าง โดยไม่ทำให้ประเทศชาติต้องเสียหายมาก ไปกว่านี้ ประชาชนบางส่วนรวมทั้งตนด้วย ก็จะยังชื่นชมในความกล้าหาญเพื่อชาติของท่าน

เพื่อไทยยันไม่ถอย-เปิดซักฟอก

ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรออกไปเนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจจะกระทบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า สภาต้องเปิดอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ ฝ่ายค้านจะอาศัยช่วงเวลานั้นยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ความจริงยื่นญัตติซักฟอกตอนไหนก็ได้ ไม่เกี่ยวกับการเปิดหรือปิดการประชุม

เมื่อถามว่าถ้ายื่นญัตติไปแล้วสถานการณ์โควิด-19 ไม่ดีขึ้น จนทำให้สภาเลื่อนการประชุมออกไปเรื่อยๆ จะไม่กระทบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่าจะยาก 2 อย่างคือ 1.ส.ส.เดินทาง มาลงชื่อเสนอญัตติก็ไม่ง่าย และ 2.ถ้าสถานการณ์รุนแรง เมื่อถึงเวลาแล้วอภิปรายไม่ได้ เราก็เตรียมญัตติและข้อมูลสำหรับการอภิปรายไว้ก่อน เพราะขณะนี้ในการทำงานเพื่อเตรียมอภิปรายเราก็ใช้ระบบซูมในการทำงานเป็นหลักอยู่แล้ว

‘โจ้’ข้องใจมีใบสั่งช่วยทร.

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้า พท. แถลงถึงผลการพิจารณางบประมาณของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 65 ว่า กมธ.พิจารณางบจบลงแล้ว โดยปรับลด งบลงทั้งสิ้น 16,362 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัญหา ที่เกิดขึ้นในการพิจารณางบปี 65 คือ กองทัพเรือ ซึ่งได้รับงบทั้งสิ้น 41,307 ล้านบาท แต่ปรับลดงบเพียง 1 รายการ คือ รถประจำตำแหน่งพล.ร.อ. 5 คัน รวม 8 ล้านบาทเท่านั้น ตนในฐานะกมธ. ไม่สบายใจ เพราะมีความไม่เท่าเทียมกัน และสองมาตรฐาน

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า งบประมาณปี 65 กองทัพบกใหญ่ที่สุด มีกำลังพลมากที่สุด งบทั้งสิ้น 99,377 ล้านบาท ถูกปรับลดไป 1,100 ล้านบาท ขณะที่กองทัพอากาศ 38,404 ล้านบาท ถูกปรับลดไป 510 ล้านบาท แต่กองทัพเรืองบกว่า 4 หมื่นล้านบาท ถูกปรับลดแค่ 8 ล้านบาท สุดพิสดาร อธิบายอะไรไม่ได้เลย เรื่องนี้มีใบสั่งจากบิ๊กในรัฐบาล ให้ช่วยกองทัพเรือ ตนยอมรับไม่ได้ และ ยังจะสู้ต่อไป เพราะมีทั้งเรือดำน้ำ เรือยกพลขึ้นบก ที่ไม่ถูกแตะต้องเลย รวมถึงโครงการที่จะซื้ออากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 1,400 ล้านบาท

ขู่แฉชื่อคนโหวตผ่านงบซื้ออาวุธ

ขณะที่กมธ.ฟากรัฐบาล 36 คน ใช้เสียงมากลากไป ปลัดบัญชีทหารเรือที่ควรมาชี้แจงก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย ผบ.ทร.ก็ไม่ให้เอกสาร ขณะที่ฝ่ายค้านขอดูเอกสาร แบบนี้จะเข้าข่ายผิดมาตรา 144 หรือไม่ ฝ่ายค้านจึงวอล์กเอาต์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม บอกแล้วว่าถวายชีวิตสู้ และตนได้เสนอคำแปรญัตติไว้แล้ว จะปรับลดงบกองทัพเรือลง 5 พันล้านบาท และจะเสนอให้โหวต จะเสนอให้เลื่อนบางรายการออกไปก่อน เพราะวันนี้ยังไปตรวจรับไม่ได้เพราะสถานการณ์โควิด ดังนั้น ให้เอาเงิน ที่ปรับลดไปช่วยเหลือประชาชน

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า จุดยืนของพท. คือการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ โควิด และไม่เห็นด้วยกับการซื้ออาวุธ ดังนั้น วาระที่ 2 และ 3 ตนจะเป็นหัวหอกในการอภิปราย คนไหนที่ยกมือโหวตให้ ตนจะเอาชื่อ ออกมาแฉให้ประชาชนทราบ จะได้เห็นว่าใครบ้างที่เห็นเรือดำน้ำ และโดรนดีกว่าชีวิตประชาชน

‘3ป.-อนุทิน’เจอจับขึ้นเขียงแน่

นายยุทธพงศ์กล่าวด้วยว่า ตนจองกฐิน ไว้เลยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะรมว.กลาโหม เตรียมตัวไว้เลย เรื่องความ ไม่โปร่งใสของกองทัพ ทั้งนี้ จะต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนอภิปรายงบวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ ยื่นหลังจากนั้นไม่ได้ เพราะเกรงว่าเมื่องบปี 65 ผ่านไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะชิงยุบสภา เนื่องจากกระแสต่อต้านรุนแรงมาก ส่วนเรื่องที่จะอภิปราย เช่น เรื่องวัคซีน โดยฝ่ายค้านจะอภิปราย นายกฯในฐานะผอ.ศบค. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข อย่างไรก็ตาม การอภิปรายเที่ยวนี้ 3 ป.ด้วย ค่อยๆ เปิดไปเรื่อยๆ เพราะเที่ยวนี้ฝ่ายค้าน มีทีเด็ด

กมธ.แก้รธน.เสร็จทันสมัยประชุมนี้

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธาน กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) กล่าวว่า กมธ.นัดประชุมในวันที่ 4 ส.ค. เพื่อพิจารณาประเด็นข้อบังคับการประชุมรัฐสภา 2563 ข้อ 124 และข้อ 151 รวมทั้งพิจารณาคำแปรญัตติของสมาชิกรัฐสภา และมอบหมายแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณา คำแปรญัตติเพื่อสรุป

จากนั้นการประชุมวันที่ 10 ส.ค. จะพิจารณาและลงมติตามที่คณะทำงานเสนอ วันที่ 11 ส.ค. ทางกมธ.จะเชิญผู้แปรญัตติชี้แจง ประกอบคำแปรญัตติ และสรุปร่างรายงานของ กมธ. และในวันที่ 13 ส.ค. จะพิจารณารับรองรายงานเพื่อเสนอประธานรัฐสภาต่อไป

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า การประชุมจะยึดมาตรการเข้มเพื่อป้องกันโควิด-19 และจะกระชับเวลา ให้ใช้เวลาประชุมน้อยที่สุด และงดเสิร์ฟอาหารว่างในห้องประชุม ดังนั้น เชื่อว่าการประชุมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยระมัดระวังให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จะพิจารณาวาระที่ 3 ภายในเดือนก.ย. ทันสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน