‘ชาวภูเก็ต’วัย27-สารภาพ
ผบ.ตร.นำทีมล่า-สอบเอง
ยันหลักฐานแน่น-ไม่แพะ
ที่แท้หนุ่มภูเก็ตรัดคอฆ่าแหม่มสาวชาวสวิส หมก น้ำตกโตนอ่าวยน พบมีประวัติ ยาเสพติดด้วยได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดขณะที่จยย.อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ตามแกะรอยรวบตัวได้เค้นสอบสารภาพสิ้นออกหาของป่าเจอแหม่มสาวนั่งเล่นริมน้ำตกตามลำพัง เข้าไปล็อกคอหวังชิงทรัพย์และขืนใจ จนเหยื่อหมดสติจมน้ำเสียชีวิต ชุดสืบสวนยันพยานหลักฐานชัดเจนไม่ใช่จับแพะ ผบ.ตร.เตรียมนำทีมมาแถลงข่าวอีกครั้ง พร้อมถกรมว.การท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานเกี่ยวข้องล้อมคอก สำรวจจุดเสี่ยงหากเปลี่ยวต้องปิดไว้ก่อน พร้อมแนะนำว่าจุดไหนควรไป-ควรเลี่ยง และห้ามคนมีประวัติอาชญากรรมเข้าพื้นที่ ผู้ว่าฯ ภูเก็ตร่วมจัดงานไว้อาลัย
ฆ่าแหม่ม – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ดูจุดเกิดเหตุนางนิโกล โซแวง ไวสส์คอปฟ์ นักท่องเที่ยว ชาวสวิส ถูกฆ่าบนน้ำตก โตนอ่าวยน จ.ภูเก็ต ก่อน จับกุมนายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ ชาวภูเก็ต อายุ 27 ปี คนร้ายได้ในวันเดียวกัน เมื่อ 7 ส.ค.
จากคดีสะเทือนขวัญพบศพนางนิโกล โซแวง ไวสส์คอปฟ์ อายุ 57 ปี นักท่องเที่ยวหญิงชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตบริเวณแอ่งน้ำ ธารน้ำตก โตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต สภาพเปลือยและถูกคลุมด้วยผ้ายางสีดำ มีหินก้อนใหญ่ทับไว้ คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทีมเข้าสืบสวนโดยส่งตำรวจจากส่วนกลางเข้าร่วมด้วย นั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 ส.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีควบคุมชายต้องสงสัย ทราบชื่อคือนายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 11/7 ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อาชีพรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป หลังจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่เกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่นำตัวนายธีรวัฒน์มาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรวิชิต รวมทั้งให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บสารพันธุกรรมของผู้ต้องสงสัย เพื่อนำไปเทียบเคียงกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้พบรอยแผลจากการต่อสู้ตามร่างกายหลายแห่ง
เบื้องต้นพบประวัติยาเสพติด โดยนายธีรวัฒน์ให้การสารภาพว่าวันเกิดเหตุออกหาของป่าและกล้วยด่างเพื่อนำมาขาย ระหว่างนั้นเจอแหม่มสาวนั่งเล่นน้ำอยู่ที่โขดหินบริเวณน้ำตกเพียงลำพัง จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบหวังชิงทรัพย์และข่มขืน ใช้เแขนรัดคอจนนักท่องเที่ยวหมดสติจมลงในน้ำเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นถอดกางเกงผู้เสียชีวิตออกเพื่อข่มขืน แต่เกิดเปลี่ยนใจทิ้งศพไว้ในที่เกิดเหตุแล้วหลบหนี
ด้านพล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า คดีนี้มีหลักฐานยืนยันแน่นหนา ไม่ได้จับแพะ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยรายงานความคืบหน้าให้ผู้บังคับบัญชาแล้ว ซึ่งพล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะนำคณะมาแถลงข่าวในวันที่ 8 ส.ค.
ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.ต.อ. สุวัฒน์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภาค 8, ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.สอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณตั้งแต่ที่พักของผู้เสียชีวิต จากนั้นคณะผบ.ตร.เดินตามเส้นทางตั้งแต่จุดที่พักจนถึงบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน และได้ไปตรวจสภาพพื้นที่จุดพบศพนางนิโกล เพื่อดูสภาพพื้นที่จริงและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณจุดที่พบศพ โดยมีผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมสังเกตการณ์
พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ทีมงานทำงานตลอดไม่ได้หยุดพัก รายละเอียดของการสืบสวนสอบสวนขณะนี้ปูพรมตรวจสอบทุกอย่างในพื้นที่ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุขยายวงโดยรอบ และจากที่ได้เดินทางขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุ เห็นลักษณะสภาพของพื้นที่และได้จำแนกกลุ่มบุคคลที่ขึ้นไปในบริเวณที่เกิดเหตุว่า น่าจะเป็นคนประเภทไหนบ้าง เพื่อนำมาประกอบการสืบสวนสอบสวน โดยขณะนี้สิ่งที่คาดหวัง คือวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์และผลการชันสูตร พบเบื้องต้นมีร่องรอยการถูกทำร้ายบริเวณกล่องเสียง ซึ่งต้องรอยืนยันการรายงานเป็นเอกสารจากทางการแพทย์ ส่วนการลงพื้นที่ตรวจคนงานในแคมป์มีความคืบหน้า ดำเนินการและซักถามแล้ว ส่วนหนึ่งและยังคงทำต่อไป พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพบุคคลในกล้องวงจรปิด เพื่อนำกลุ่มบุคคลที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาสืบสวนสอบสวน
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่าหลังเกิดเหตุ ร่วมประชุมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชน เพื่อวางแนวทางการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ระยะเร่งด่วน 2 มาตรการ คือเร่งสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว หากพบว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใดไม่เป็นที่นิยม และยากต่อการดูแล หรือเป็นจุดอับที่ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลเพียงพอ เช่นบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน มีบุคคลน้อยมากที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ประกอบกับช่วงสถานการณ์โควิด 19 ทำให้เจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอที่จะเข้ามาดูแล ก็ควรจะปิด พร้อมทั้งสำรวจข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ที่เข้าหลักเกณฑ์ หากเปิดได้จะประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยใช้สื่อของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกช่องทางหนึ่ง
มาตรการที่ 2 ยกระดับมาตรการความเข้มเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยตั้งเป้าว่า 1 สัปดาห์นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ภูเก็ตจะปรับมาตรการในการคุมคนเข้าออกจังหวัดภูเก็ตโดยเฉพาะบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะต้องถูกตรวจสอบทุกคน ในกลุ่มของคนไทยที่ จะต้องตรวจสอบทุกคน อาจจะส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีหมายจับจะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ต แม้อาจก่อให้เกิดความรู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิ์ แต่จำเป็นต้องเข้มข้นในช่วงระยะเวลานี้จากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ด้านผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิสเซอร์วิส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายกับทั้งสองประเทศ ที่ผ่านมาทำงานกับตำรวจไทย จึงมีความมั่นใจว่าตำรวจไทยจะสามารถจับคนร้ายได้ ขณะนี้ทีมตำรวจไทยที่ดีที่สุดได้ลงพื้นที่มาสืบสวนคดี และทำงานอย่างหนัก จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้เร็ว
สำหรับบริเวณจุดเกิดเหตุพบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเชือกทำแนวเขตกัน เพื่อป้องกันการเข้าออกของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจทำลายหลักฐานบางอย่างที่อาจหลงเหลืออยู่ได้ โดยบริเวณทางขึ้นน้ำตก มีคนนำช่อดอกไม้สีขาวมาวางไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิต โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยสังเกตการณ์สถานการณ์อยู่โดยรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงค่ำวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผบช.ภาค 8 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยส่วนราชการ ภาครัฐ เอกชน เข้าร่วมกิจกรรม “In remembrance of MRS. NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF” เพื่อแสดงความอาลัยและเสียใจอย่างสุดซึ้งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเสียชีวิต
นายณรงค์กล่าวคำรำลึกถึงโดยมีใจความว่า พวกเราทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อร่วมรำลึกถึงคุณนิโกล ณ ที่ชายหาดแห่งนี้ เพราะเราทราบว่า คุณนิโกลรักทะเล รักชายหาด และเห็นเกาะภูเก็ตเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง ในฐานะตัวแทนของประชาชนชาวภูเก็ต ขอแสดงความอาลัยและเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัว ญาติ พี่น้อง และเพื่อนฝูงของคุณนิโกล สำหรับการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าว
“การจากไปของคุณนิโกล ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวบุคคล แต่รวมถึงชาวภูเก็ต โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และประเทศไทย ขอให้การจากไปของคุณ นิโกล เป็นความสูญเสียครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นที่ภูเก็ต ในฐานะตัวแทนของหน่วยงานราชการ ภาครัฐ พวกเราจะทำงานอย่างเต็มที่และ พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะทำให้เกาะภูเก็ตเป็นที่ที่ปลอดภัยและน่าอยู่ สำหรับทุกชีวิตบนเกาะ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วยเช่นกัน” นายณรงค์กล่าว
จากนั้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แขกทุกคนที่มาร่วมในพิธีร่วมกันยืนไว้อาลัย และร่วมกันวางเทียนสีขาว-ดอกไม้ เพื่อแสดงความอาลัยจากการจากไปของนักท่องเที่ยวราย ดังกล่าว
ส่วนภาคเอกชนนำโดยนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต, นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต, นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต, นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ฯลฯ ร่วมกันประกาศให้รางวัลนำจับคนร้ายคดีนี้จำนวน 2 แสนบาท
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของ ผู้เสียชีวิต ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังช่วยกันเร่งดำเนินการสร้างความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ ขอประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
