พท.ยืนยัน
ไม่ซูเอี๋ย
ระบอบตู่

‘อนุทิน’ ชี้แค่ขำๆ ข่าวสลับเก้าอี้ มท.1 รมว.สาธารณสุข ‘อนุพงษ์’ ปัดตอบ บอกเป็นอำนาจของนายกฯ ด้าน ‘สัณหพจน์’ เจ้าของไอเดียเสนอปรับครม. ประกาศลาออกจากรองโฆษกพปชร. รับผิดชอบทำให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ ยันเป็นข้อเสนอส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค เพื่อไทยเสนอแปรญัตติร่างแก้ไขรธน. เพิ่มบทเฉพาะกาล ออกกฎหมายลูกใน 90 วัน ยันศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย้ำแผลโควิด หาประโยชน์จากงบประมาณ ย้ำไม่เคยคิดร่วมระบอบประยุทธ์ ภูมิใจไทยไม่หวั่น ‘อนุทิน-ศักดิ์สยาม’ โดนชำแหละ ‘ทักษิณ’ เล็งเปิดเว็บไซต์ thaksinofficial ระดมข้อเสนอหาทางออกประเทศ

ตู่ย่องเงียบเข้าทำเนียบ

วันที่ 9 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมเดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ตึกไทย คู่ฟ้า ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีรายงานว่าในเวลา 09.00 น. นายกฯ เป็นสักขีพยานในพิธีร่วมลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมีใหญ่แห่งหนึ่งของไทย กับบริษัทของสหรัฐอเมริกา โดยไม่มีการเผยแพร่ข้อมูล จากนั้นนายกฯ ไม่มีกำหนดการหรือวาระงานทางการ ทั้งการประชุมหรือการพบหารือแต่อย่างใด คาดว่าจะใช้เวลาติดตามงานและเซ็นเอกสารต่างๆ ตลอดทั้งวัน

รองโฆษกพปชร.ไขก๊อก

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรี ธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวกรณีเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ ปรับครม. โดยสลับให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มาคุมกระทรวงสาธารณสุข และโยกนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ไปนั่งมหาดไทยว่า ยืนยันว่าเป็นความเห็นส่วนตัวในฐานะของผู้แทนประชาชน ไม่ใช่ในนามพปชร. และไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดอยู่เบื้องหลัง เมื่อแสดงความเห็นไปแล้วอาจทำให้ผู้ใหญ่ทั้งในพปชร. และพรรคอื่น รู้สึกไม่สบายใจ ก็ต้องกราบขออภัยอย่างสูง และเพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจและกระทบถึงพปชร. ตนจึงขอลาออกจาก รองโฆษกพรรค รวมถึงตำแหน่งเลขาธิการภาค 8 พปชร.

ตนทราบดีว่าการปรับครม. หรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีใน ครม.เป็นอำนาจโดยตรงของนายกฯ ที่จะพิจารณาว่าผู้ใด ผู้เหมาะสม และให้ความเคารพต่ออำนาจการพิจารณาดังกล่าว การแสดงความคิดเห็นก็เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฐานะผู้แทนประชาชนต้องทำหน้าที่เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของให้ดีที่สุด

อนุพงษ์เลี่ยงวิจารณ์สลับเก้าอี้

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย กล่าวกรณีนายสัณหพจน์ เสนอ นายกฯ ปรับครม. สลับเก้าอี้ รมว.สาธารณสุขและรมว.มหาดไทย เพื่อแก้ปัญหาโควิด ว่าไม่ขอวิจารณ์ เรื่องปรับครม.เป็นอำนาจของพล.อ. ประยุทธ์ ที่จะพิจารณาหรือตัดสินใจ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน

อนุทินมองเป็นสีสัน

ที่วัดพระเชตุพนฯ เขตพระนคร กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข (สธ.) และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีส.ส.พปชร. เสนอให้สลับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยและสาธารณสุขว่า เป็นสีสัน คงพูดขำๆ ไม่ได้พูดจริงจัง ทุกวันนี้ทำงานร่วมกันด้วยดีทุกฝ่าย ภารกิจของ สธ.ในการป้องกันควบคุมโรคต้องใช้ความร่วมมือจากทุกกระทรวงโดยเฉพาะมหาดไทย ตอนนี้ความร่วมมือดีอยู่แล้ว รมว.มหาดไทยก็ให้ความร่วมมือทุกสิ่งที่ สธ.ร้องขอไป ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีความเห็นไม่ตรงกัน

พท.ย้ำเปิดแผลแก้โควิดเหลว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เนื่องมาจากความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมุ่งไปที่ความไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์โควิดที่ผิดพลาดของรัฐบาล ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขของไทยล่มสลาย บุคลากรทางการแพทย์หลายคนต้องทำงานหนัก เสี่ยงติดเชื้อ ขณะที่วัคซีนที่มีคุณภาพที่รัฐบาลได้รับมาไม่เร่งกระจาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แพทย์และพยาบาล รวมไปถึงบุคลากรด่านหน้า แต่รัฐบาลกลับมีนัยยะซ่อนเร้นเก็บวัคซีนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น

นอกจากนี้ จะอภิปรายให้ประชาชนเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการหาผลประโยชน์จากการใช้งบประมาณของพล.อ.ประยุทธ์ มีการปล่อยปละละเลยให้หาประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดซื้อวัคซีนและหน้ากากอนามัย พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยตรวจสอบการทุจริต ทั้งๆ ที่ฝ่ายค้านนำเสนอข้อมูลหลักฐานต่อที่ประชุมสภา แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับนิ่งเฉยต่อการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน

ยืนยันว่าพท.ไม่มีทางที่จะไปจับมือกับระบอบประยุทธ์อย่างแน่นอน เราไม่จับมือกับคนที่เห็นความเจ็บป่วยและการเสียชีวิตของประชาชน โดยไม่มีจิตสำนึก ไม่รู้สึกอะไร และไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น รัฐบาลมีงบประมาณมหาศาลแต่ไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ ปล่อยให้พี่น้องประชาชนหาเตียงรักษาไม่ได้ ให้ท้องถิ่นรับบริจาคจากเอกชนหางบซื้อเตียงสนาม พล.อ.ประยุทธ์ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่รับผิดชอบ กอดอำนาจไว้แต่ไม่รับรู้ถึงความลำบากประชาชน พท.ไม่มีทางไปร่วมมือแน่นอน

ภท.ชี้เป็นไปได้พท.จับมือพปชร.

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้า ภท. กล่าวถึงนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พท. ระบุหากนายกฯ ไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์ พท.สามารถร่วมงานการเมืองกับพปชร.ในอนาคตได้ ว่า การเมืองเป็นไปได้หมด ถ้าคิดว่าร่วมกันแล้วบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้ดีก็ร่วมกันได้ ได้ยินว่าเขามีแผนจะร่วมกันอยู่ในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เลย แต่ไม่รู้ว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร อะไรที่คิดว่าทำแล้วบ้านเมืองได้ประโยชน์ เดินหน้าได้ก็ทำเลย แต่ภท.ยืนยันว่าเรา ไม่ลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน เพราะไม่อยากให้เกิดบ้านเมืองวุ่นวายในช่วงวิกฤตโควิดแบบนี้

“ให้เราออกเองเราไม่ออก นอกจากเขาให้เราออก เพราะผมมองว่าอีกไม่นานรัฐบาลจะครบวาระแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ว่าใครจะทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง วันนี้ไม่ต้องมองว่ารัฐบาลทำดีหรือไม่ ต้องมองว่าตอนนี้ตัวเองและแต่ละคนช่วยชาวบ้านอย่างไร” นายชาดากล่าว

ไม่หวั่นอนุทิน-ศักดิ์สยามถูกเชือด

ส่วนความพร้อมเพื่อรับมือการอภิปราย ไม่ไว้วางใจที่มีชื่อนายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นั้น นายชาดากล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันภายในพรรคแต่เราไม่หวั่น เพราะคราวที่แล้วนายอนุทินและนายศักดิ์สยาม ก็โดนอภิปราย โดนครั้งนี้อีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อาจเป็นการปล่อยข่าว วันนี้เราควรทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ก่อน และพท.ควรทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้สมบูรณ์และขอให้สามัคคีกันไว้

นายศุภชัย ใจสมุทร และนายทะเบียน ภท. กล่าวกรณีมีชื่อนายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ในส่วนนายอนุทิน เรามั่นใจอยู่แล้วว่าไม่ได้ทำอะไรผิดจากตำแหน่ง สามารถตอบได้ทุกข้อเพราะมีความสุจริตและทุ่มเททำงานเป็นตัวตั้ง สำหรับ นายศักดิ์สยาม ถ้าปรากฏว่าเป็นเรื่องที่เคยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วและนำมายื่นซ้ำอีก ขอให้ระมัดระวังให้ดี เพราะเป็นเรื่องที่เคยผ่านการลงมติไปแล้ว ขอให้ฝ่ายค้านพิจารณาให้ดี ทำตามข้อบังคับและกฎหมาย เชื่อว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาด้วยความรอบคอบในการบรรจุญัตติดังกล่าวเป็นเข้าสู่วาระการประชุม

พท.เสนอเติมบทเฉพาะกาล

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้า พปชร. ในฐานะประธานกมธ.พิจารณาร่างรัฐ ธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ….. แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา กล่าวถึงการเสนอ คำแปรญัตติ ว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอแปรญัตติให้เขียนมาตราเพิ่มขึ้นใหม่ ในส่วนบทเฉพาะกาล 2 มาตรา ได้แก่ 1.กำหนดให้ใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปรับปรุงใหม่ในการเลือกตั้งทั่วไป หากเกิดกรณีมีการเลือกตั้งซ่อมให้งดเว้นมาตราที่ปรับปรุงใหม่ โดยให้ใช้บทบัญญัติเดิมของรัฐธรรมนูญ 2560

และ 2.กำหนดให้รัฐสภาพิจารณาและให้ความเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ภายใน 90 วันนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม และหากจัดทำร่างพ.ร.ป.ไม่เสร็จก่อนเลือกตั้งทั่วไป ให้อำนาจ กกต.ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเลือกตั้ง ส.ส.ให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญ คิดว่าการบัญญัติบทเฉพาะกาลดังกล่าวเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของเนื้อหา อีกทั้ง กมธ.มีหน้าที่ต้องพิจารณารายละเอียดและเนื้อหาว่าเป็นเรื่องที่เข้ากับข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 124 วรรคท้ายหรือไม่ ซึ่งในส่วนที่เป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน กมธ.ต้องทำเนื้อหาของร่างแก้ไขให้สมบูรณ์ก่อนเสนอประธานรัฐสภา

ส่วนข้อเสนอของ กมธ.จากพรรคก้าวไกลที่ให้รับฟังความเห็นประชาชนนั้น กมธ.มีหน้าที่พิจารณาตามคำแปรญัตติ และความเห็นของกมธ.เป็นรายมาตรา และข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไม่ได้เขียนระบุไว้จึงมองว่า ไม่จำเป็นต้องรับฟัง กมธ.ที่เตรียมเสนอประเด็นต่างๆ ขอให้คำนึงถึงมติที่ตัดสินในชั้นรับหลักของรัฐสภาด้วย เพราะข้อเสนอต้องสอดคล้องกับมติที่ชนะตอนโหวตในที่ประชุมรัฐสภา

กมธ.เตรียมเรียกชี้แจง

นายนิกร จำนง ส.ส.ชาติไทยพัฒนา เลขานุการกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ กล่าวว่า การประชุมวันที่ 10 ส.ค. จะพิจารณาร่างแก้ไขรายมาตราในหลักการหลัก คือ มาตรา 83 และ 91 และคำขอแปรญัตติที่เสนอทั้งสิ้น 48 ฉบับ ส่วนใหญ่เสนอคำแปรในมาตรา 83 และมาตรา 91 และมีคำแปรญัตติในมาตราที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มาตรา 85, 86, 90, 92, 93 และ 94 การพิจารณา กมธ.จะสรุปเนื้อหาให้เสร็จภายในวันเดียว ก่อนเชิญผู้แปรญัตติมาชี้แจง ซึ่งคำแปรญัตติพบการเพิ่มมาตราใหม่ว่าด้วยให้มีบทเฉพาะกาล เช่น กรณีจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ใช้ในการเลือกตั้ง หากกฎหมายลูกยังทำไม่เสร็จ แต่มีการเลือกตั้ง ต้องมีข้อกำหนดเพื่อไม่ให้ มีปัญหา ซึ่งกมธ.จะนำรายละเอียดมาพิจารณาอีกครั้ง โดยยึดประเด็นความเกี่ยวเนื่องกับหลักการของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก

เพื่อรักษาความปลอดภัยระหว่างที่ต้องเฝ้าระวังและยับยั้งโควิด ฝ่ายเลขาฯ จะโทรศัพท์สอบถามสมาชิกรัฐสภาที่เสนอคำแปรญัตติถึงความพร้อมเข้าชี้แจง เพราะทราบว่ามีปัญหาเรื่องการเดินทาง ที่ประชุมยังกำหนดมาตราการต่างๆ มีอาหารกล่องบริการและให้กมธ.รับประทานที่ห้องทำงานส่วนตัว งดนำอาหารว่างมารับประทานในห้องประชุม ช่วงพักเที่ยงและพักเบรกจะมีเจ้าหน้าที่นำยาฆ่าเชื้อฉีดพ่นภายในห้องประชุม และมีชุดตรวจหาเชื้อบริการให้กมธ.ก่อนเข้าประชุม

ทักษิณเปิดอีกช่องทางสื่อสาร

นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กรูปนายทักษิณ พร้อมข้อความระบุ ช่วงดำรงตำแหน่งนายกฯ พ่อให้ความสำคัญกับการชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้ประชาชนเสมอ จะเห็นได้จากรายการ “นายกทักษิณฯ คุยกับประชาชน” นอกจากข้อมูลที่ชัดเจนจะสื่อสารไปถึงประชาชนโดยตรงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น พ่อจะจริงจังในเรื่องการรับฟังเสมอ พ่อเคยรับสายโทรศัพท์ที่โทร.เข้ามาร้องทุกข์ด้วยตัวเอง เพราะเชื่อว่าการสื่อสารที่ดีที่สุดคือสื่อสารสองทาง ไม่ใช่พูดอย่างเดียวไม่รับฟังเสียงประชาชน

ภาพที่นำมาลงนี้เป็นภาพที่ตนและน้องๆได้เห็นมาตลอด ทั้งภาพเบื้องหลังการเตรียมตัว และการเดินทางไปเพื่อสื่อสารกับประชาชน ไม่ว่าจะไปคุยกับกลุ่มประชาชนที่ประสบปัญหาในท้องถิ่นต่างๆ จนถึงการ เตรียมข้อมูลเพื่อพูดคุยในคลับเฮาส์ ช่วงนี้ถึงแม้ไม่ได้มีตำแหน่งแต่เมื่อประเทศเกิดวิกฤต พ่อซึ่งอัพเดตตัวเอง เรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ ในโลกตลอดเวลา ก็อยากนำความรู้และวิทยาการสมัยใหม่ต่างๆ มาเสนอให้ประเทศไทย ด้วยความที่พ่อชอบฟังเสียงประชาชน เคารพในความคิดเห็นผู้อื่น และเห็นว่าข้อเสนอแนะของประชาชน คือทางออกและเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ

ชวนติดตาม thaksin offfiicial

“ดังนั้นเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณพ่อได้ พ่อเตรียมเปิดพื้นที่ให้พี่น้องได้มาแลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง ให้ข้อเสนอแนะและร่วมกันหาทางออกให้ประเทศไทยกับการสื่อสาร ช่องทางใหม่ เตรียมพบกับ #THAKSIN OFFICIAL เร็วๆนี้” นายพานทองแท้ระบุ

ขณะที่ นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทั้งสอง โพสต์อินสตาแกรมพูดถึงนายทักษิณ เล่าเรื่องราวน่าสนใจในอดีตของนายทักษิณ พร้อมชวนติดตาม THAKSIN OFFICIAL

ทั้งนี้ นายทักษิณ เปิดเผยในคลับเฮาส์ว่า THAKSINOFFICIAL เป็นโปรเจ็กต์ของลูกทั้ง 3 คนที่จะทำเว็บไซต์ รวบรวมเรื่องราวให้กับโทนี่ ในช่วงโอกาสวันเกิด เพื่อให้เป็นความหวังในช่วงโควิด-19

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน