คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ยังไม่คุ้มกันหมู่

รัฐบาลมั่นใจควบคุมสถานการณ์โควิดได้ในระดับน่าพอใจ ผู้ติดเชื้อลดลงต่ำกว่าหมื่นคนต่อวัน ผู้เสียชีวิตลดลงเช่นกัน รวมทั้งวัคซีนที่มากขึ้น ทั้งบริจาคจากต่างประเทศ และจัดซื้อเอง

ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขระบุภาพรวมยังไม่นิ่งสนิท มีโอกาสแกว่งไปมา หลายจังหวัดติดเชื้อยังสูง เกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆ เนื่องจากความจำเป็น ต้องเปิดประเทศ เปิดเรียน ปลดล็อก ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

ขณะที่การฉีดวัคซีนสะสมแล้วประมาณ 90 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มแรกเกือบ 50 ล้านคน คิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์ประชากร เข็มสองราว 40 ล้านคน ยังไม่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และเข็มสามยังไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์

ดังที่ทราบ หากจะป้องกันติดเชื้อได้ ต้องฉีดครบโดสสองเข็มครอบคลุม 70-80 เปอร์เซ็นต์ประชากร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

นายกรัฐมนตรียืนยันมีวัคซีนเพียงพอให้คน ทั้งประเทศ รัฐบาลจะฉีดให้ครบ 100 ล้านโดสภายในเดือนพ.ย. จากนั้นเดือนธ.ค.ฉีดอีก 20 ล้านโดส เมื่อถึงสิ้นปีครบ 120 ล้านโดส

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขสั่ง นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัดให้เร่งรัดฉีด ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ติดเตียง หญิงตั้งครรภ์

รวมถึงกลุ่มแรงงานข้ามชาติด้วย ทั้งที่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้ขึ้นทะเบียน พร้อมกับกำหนดจัดสัปดาห์ฉีดวัคซีนสู่เป้าหมาย 100 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. ถึงวันที่ 5 ธ.ค.

การเร่งรัดในช่วงนี้ เพราะที่ผ่านมาติดปัญหาการกระจายวัคซีนให้รวดเร็ว ครอบคลุม ทุกพื้นที่ หรือขั้นตอนลงทะเบียนที่ยุ่งยาก เกินไปหรือไม่

ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับยอดสะสมรวมวัคซีนทุกเข็ม ทั้งที่การป้องกันติดเชื้อได้ดีต้องวัคซีนครบโดสสองเข็ม ซึ่งขณะนี้ยังห่างจากภูมิคุ้มกันหมู่

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนฉีดครบสองเข็มแล้ว แต่เป็นวัคซีนเชื้อตาย ประสิทธิภาพไม่สูง มีกลุ่มนี้หลายล้านคน จึงจำเป็นที่รัฐบาลต้องเร่งบูสเตอร์เข็มสามอย่างเร่งด่วน

แม้กรมควบคุมโรคกำหนดแผนวัคซีนปีหน้า คาดหลังปีใหม่จะเร่งบูสเตอร์ แต่คำถามคือช้าเกินไปหรือไม่ ประกอบกับกลุ่มสถานบันเทิงเรียกร้องให้ร่นเปิดในเดือนธ.ค. รวมทั้งรัฐบาลก็เตรียมขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มอีก 16 จังหวัด

ดังนั้นถ้าการฉีดวัคซีนครบโดสและเข็มสาม ยังไม่ถึงภูมิคุ้มกันหมู่ภายในสิ้นปี ท่ามกลางการผ่อนมาตรการที่มากขึ้น สังคมจึงกังวล โควิดจะกลับมาระบาดหนักอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน