‘แม่ธนาธร’แจงซื้อที่ดินถูกต้อง

‘บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก’ ยันไปคลองโอ่งอ่าง ไม่เกี่ยวช่วยหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่ไปรับฟังปัญหาเดือดร้อนของชาวบ้าน ปชป.โนคอมเมนต์ นายกฯ ช่วย ‘อัศวิน’ หรือไม่ เพื่อไทยแซะขยันผิดวิสัย ‘นพดล’ ซัดนักวิจารณ์ อย่าด้อยค่า ‘อุ๊งอิ๊ง’ ‘วรวัจน์’ ปูดจับแกนนำพรรคร่วม ส่งสัญญาณรัฐบาลแตกคอ อยู่ไม่ครบเทอมแน่ โฆษกรัฐบาลสวนฝ่ายค้านเสี้ยมให้แตกคอ รายวัน ทั้งที่สัมพันธ์เหนียวแน่น ‘แม่ธนาธร’ ออกคลิป โต้ข้อหารุกป่าราชบุรี ยันซื้อที่ดินมาถูกต้อง ผ่านมา 30 ปีไม่มีปัญหา พอลูกชายเล่นการเมือง โดนข้อหาสารพัด ‘บิ๊กตู่’ชมโอ่งอ่างไม่เกี่ยวชิงกทม.

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า นึกอยู่แล้วว่าสื่อมวลชนจะต้องถามเรื่องนี้ นายกฯคิดว่า วันไหนว่างก็จะไป นึกออกว่าวันนี้อยากจะไปไหนก็จะไป ส่วนจะไปไหนบ้างมันเรื่องของตน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง ตรงกับวันรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับตน ตนไปเกี่ยวอะไรกับเขา พวกคุณวิเคราะห์กันไปเอง วิเคราะห์แบบนี้ทั้งนั้น ถ้าแบบนี้ตนคงไม่ต้องไป ไหนเลย นั่งอยู่แต่ทำเนียบรัฐบาลก็แล้วกัน ความเดือดร้อนมันเกิดขึ้นเฉพาะช่วงนี้เสียที่ไหน มันเกิดขึ้นทุกวัน ตนก็อยากจะไปดู ทุกวัน แต่มีติดราชการบ้างอะไรบ้าง บางทีก็ไม่สะดวก ไปแล้วก็เกิดปัญหาวุ่นวายการจราจรติดขัด นายกฯ ไปไหนแต่ละทีก็เลยไปเล็กๆ

ต่อข้อถามว่าจากนี้อาจต้องไปแถวปริมณฑลด้วยไม่เพียงเฉพาะในเขตกทม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็มีแผนทำงานอยู่แล้ว ที่ตนไปคลองโอ่งอ่าง เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าตนเป็นคนสนับสนุนโครงการนี้ขึ้นมา คลองสวยน้ำใส และคูคลองในกทม.จะต้องได้รับการพัฒนา ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล และเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่ทำเรื่องที่เกี่ยวกับคูคลอง

ฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้ทำอีกหลายโครงการด้วยกัน ไม่ว่าจะโครงการบ้านริมคลอง คลองเปรมประชากร คลองผดุงกรุงเกษม กทม.มีทั้งหมด 120 กว่าคลอง ต้องดูว่าทำอย่างไรน้ำจะไม่ดำ ตนได้ปรึกษา พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระหว่างลงพื้นที่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่เราทำเรื่องน้ำไม่ดำคือปิดรูระบายน้ำที่จะลงคลองนี้ให้หมด และหาทางชักน้ำไปเข้าโรงบำบัดน้ำเสียทางอื่น นั่นแหละคือสิ่งที่ท่านจะทำให้ได้มากที่สุด ดีที่สุด ทุกๆคนที่พูดมาก็ขอให้ทำสำเร็จก็แล้วกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพบปะชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาอะไรโดยตรงกับนายกฯ บ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สะท้อนว่าเข้าใจรัฐบาล เข้าใจถึงภาระความจำเป็น เข้าใจสถานการณ์โรคโควิด-19 เข้าใจสถานการณ์โลก เมื่อเขาเข้าใจนายกฯ ก็พูดกับเขาดีๆ ว่าเข้าใจใช่ไหมกับสถานการณ์ที่มันเกิด เขาก็บอกว่าเข้าใจ แต่สถานการณ์มันก็แย่ไปทั้งหมด ขอให้อดทนกันนิดนึงก่อน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ทำกันอย่างนี้สิ จึงจะไปข้างหน้าได้ เข้าใจไหม

“มันไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูกทั้งหมด ไม่มีอะไรดีทั้งหมด ฉะนั้นตนจึงไม่อยากให้ย้อนกลับไปที่เดิม ไม่อยากให้บ้านเมืองกลับไปที่เก่า ไม่อยากให้กทม.กลับไปที่เดิม ไร้ระเบียบรกรุงรัง ซึ่งมันก็ดีขึ้นมาตั้งเยอะแล้วไม่ใช่หรือ ก็ทำกันต่อไป ใครจะทำก็ทำเถอะ ทำให้ได้จริงก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว








Advertisement

‘บิ๊กป๊อก’ปัดหาเสียงเลือกตั้ง
ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีหลายฝ่ายมองว่าการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างของ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะพล.อ.ประยุทธ์มีความเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า หากมองด้วยความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคนใดลงพื้นที่น่าจะเป็นผลดีต่อการทำงาน อย่างน้อยได้พบปะประชาชน รับฟังปัญหา เช่น การระบายน้ำในคลองโอ่งอ่าง ถ้าระบายมากยุงก็จะน้อยลง นายกฯ ก็สั่งการเรื่องนี้ คนที่มาเที่ยวก็จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เศรษฐกิจก็ดีขึ้น

การลงพื้นที่ไม่ว่าจะได้รับคำชม คำบ่น หรือข้อเสนอแนะ ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น ไม่ได้คิดเป็นเรื่องอื่น ส่วนจะลงพื้นที่อื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่การลงพื้นที่ต่างจังหวัดขณะนี้ยังไม่มี แต่หากไปจังหวัดใดจะได้ประสานกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปร่วมลงพื้นที่ด้วย เช่น กระทรวงคมนาคม เรื่องการเปิดถนน การไฟฟ้า หรือเรื่องชลประทานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ที่เริ่มถี่ช่วงนี้ เป็นสัญญาณว่าจะใกล้ถึงการเลือกตั้งใหญ่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เท่าที่ได้ยินในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าจะตั้งใจทำงานและจะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ไปจนครบวาระ ตนทราบเพียงเท่านั้น ส่วนจะยุบสภาหรือไม่เป็นอำนาจของนายกฯ

พปชร.ก็ยันแค่สำรวจปัญหา
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายกฯ เป็นห่วงประชาชน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้า ที่ขณะนี้มีปัญหาเศรษฐกิจ บางรายค้าขายไม่ดี มีปัญหาต่างๆ จึงต้องการลงพื้นที่เพื่อรับฟังจากประชาชนโดยตรง ที่สำคัญยังได้สำรวจ บ้านเมืองของเราว่าพัฒนาอย่างไรบ้าง มีสิ่งดีๆ อะไรเกิดขึ้นบ้าง หรือยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขหรือไม่ มีบางฝ่ายพยายามโจมตีการลงพื้นที่ของนายกฯ ตนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อย่าไปกลัว ไม่ควรตีตนไปก่อนไข้ การลงพื้นที่ถือเป็นเรื่องที่ดีจะได้ใกล้ชิดประชาชน ไปรับฟังเสียงประชาชน ไม่ได้ไปหาเสียงให้กับใคร

ตนยังเชื่อมั่นในคะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐว่า ยังดีอยู่ เพราะรัฐบาลมีผลงานช่วยเหลือประชาชนที่เป็นรูปธรรม ส่วนกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคที่เป็นพรรคใหญ่ และเป็นแกนนำรัฐบาล เป็นธรรมดาที่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่ยอมรับว่าส่งผลให้ทำกิจกรรมทางการเมือง การประชาสัมพันธ์ ไม่ได้เต็มที่ จึงมีการเสนอว่า ต้องเดินหน้าประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับประชาชน และลงพื้นที่เพื่อรับฟังความต้องการของประชาชน รวมทั้งผลักดันการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ทำมาตลอดให้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อว่าหลังจากประชุมใหญ่ 3 เม.ย.นี้ และมีการปรับโครงสร้างพรรค ก็จะมีความชัดเจน มีความเข้มแข็งมากขึ้น

ประชาธิปัตย์โนคอมเมนต์
ด้านนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง แล้วชื่นชมว่าเป็นความสำเร็จในการพัฒนาคูคลอง ของกทม. จนถูกมองว่าเป็นการช่วยหาเสียงให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัครในนามอิสระว่า ไม่ขอแสดงความ คิดเห็น นายกฯทราบดีว่าทำอะไรอยู่ และคลองโอ่งอ่างก็เป็นผลงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร สมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งเป็นผลงานที่ดีชิ้นหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไว้ในกทม. ซึ่งนายกฯก็รู้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ อาจกระทบต่อเสียงที่สนับสนุนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ได้ นายปริญญ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้โฟกัสคู่แข่ง เราโฟกัสตัวเราเองทำงานให้ดีที่สุด เชื่อว่านายสุชัชวีร์เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนเดียวที่มีผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ เช่น การบริหารงานที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.)

เวลา 07.30 น. ที่ตลาดเคหะสุขสวัสดิ์ 38 เขตราษฎร์บูรณะ กทม. นายสุชัชวีร์กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงว่า ไม่ขอออกความคิดเห็นเรื่องพล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ แต่ขอฝาก พี่น้องประชาชนในกทม.ทุกเขต ตนและทีมส.ก.ทั้ง 50 เขต ตั้งใจพร้อมเปลี่ยนกทม. ซึ่ง วันนี้กทม.มีปัญหามากมายหลายอย่างหนักกว่าที่คิดไว้มาก จึงอยากขอกำลังใจและแรงสนับสนุน ขอสัญญาว่าหากเลือกตนและพรรคประชาธิปัตย์ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

เพื่อไทยแซะขยันผิดวิสัย
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล(ก.ก.) ผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรค กล่าวว่า คงทราบกันดีว่าผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ท่านใดมีความใกล้ชิดกับรัฐบาล คงเป็นสิ่งที่คนกทม.จะต้องตัดสินใจเองว่าต้องการได้ผู้ว่าฯ กทม.ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลหรือไม่ ผลงานบริหารกทม.ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจมา 8 ปี ลงพื้นที่น้อยมาก โดยเฉพาะในกทม. แต่พอมีการ หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กลับขยันผิดวิสัย ถ้าประชาชนสามารถสะท้อนปัญหาได้อย่างตรงไปตรงมา คงอยากขอให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้านนอน ไม่ต้องห่วงว่าประชาชนจะเลือก ผู้ว่าฯ กทม.ของตัวเองไม่ได้ ไม่ต้องกังวลว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่ ใครจะจัดการประชุม เอเปก ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาสไป 8 ปี วันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 22 พ.ค.นี้ ครบรอบ 8 ปีรัฐประหาร ประชาชนตัดสินใจไปแล้วว่าจะเลือกใคร

“การลงพื้นที่ชั่วครั้งชั่วคราวแบบเสียมิได้ ประชาชนรู้ดีถึงเจตนาและหวังผลอะไร แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของประชาชน ที่ส่วนใหญ่ตัดสินใจและรู้แล้วว่าถ้าเลือกผิดชีวิตจะเป็นอย่างไร” นายอนุสรณ์กล่าว

สมัครผู้ว่าฯกทม.เพิ่ม-รวม25คน
เวลา 11.30 น. ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลาง อิสลามฯ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงกับพี่น้องมุสลิม โดยมีนายสามารถ มะลุลีม ประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลาง ผู้สมัคร ส.ก. เขตสวนหลวง หมายเลข 6 และประชาชนในพื้นที่ต้อนรับจำนวนมาก

เวลา 16.30 น. ที่ศาลาว่าการกทม. 2 (ดินแดง) นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร สรุปการรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. และส.ก. เป็นวันที่สองว่า วันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สวมชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือชุดพีพีอี มาสมัครลงเลือกตั้งส.ก. เขตปทุมวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่และเจ้าหน้าที่รับสมัคร ที่ด้านหลังของพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ โดยแยกออกมาจากผู้สมัครคนอื่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันทั้งหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ เฟซชีลด์ เพื่อป้องกันตัวเอง ทั้งนี้ผู้ป่วยโควิด-19 สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายห้ามไว้ แต่จะต้องมีการป้องกันตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น

สำหรับการรับสมัครวันที่สอง มีผู้มาสมัครผู้ว่าฯ กทม. 5 คน ทำให้มียอดรวมทั้ง 2 วัน 25 คน ส่วน ส.ก.มีผู้มาสมัคร รวม 13 คน ใน 9 เขต ทำให้มียอดรวมสมัครทั้ง 2 วัน 356 คน

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยาวันที่สองเงียบเหงา ยังไม่มีผู้สมัครเพิ่มเติมจากวันแรกที่มีผู้สมัคร 4 คน

‘นพดล’อัดอย่าด้อยค่า‘อุ๊งอิ๊ง’
นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่หลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นต่อการเข้ามาทำงานการเมืองของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง และลามไปถึงบิดาและพรรค เพื่อไทยว่า น.ส.แพทองธารจัดการกับการวิพากษ์วิจารณ์ได้นิ่ง ไม่ตอบโต้ และเสียงของผู้นำการเมืองหลายคน หลายพรรคมีความเป็นผู้ใหญ่ มีเมตตาต่อกัน ซึ่งน่าชื่นชม อาจมีคำวิจารณ์ที่มีอคติ คาดการณ์ในทางร้าย บางคนกล่าวหาล่วงหน้า ซึ่งคนพูดมีทัศนคติทางการเมืองเช่นไร คนส่วนใหญ่ก็รู้ แม้คนพวกเดียวกันจะเชื่อ แต่คนจำนวนมากไม่เห็นด้วย ดังนั้นปริมาณและคุณภาพของความเห็นเป็นคนละเรื่องกัน

ตนเห็นว่าคนทำงานการเมืองหน้าใหม่ เช่น น.ส.แพทองธารใช้สิทธิเข้าสู่การเมืองตามรัฐธรรมนูญที่ตนไม่ได้ร่าง และต้องแข่งภายใต้กติกาที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อตน เราควรเปิดพื้นที่ว่าพวกเขามีแนวทางแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์อย่างไร มีกึ๋นแค่ไหน ประชาชนจะให้คำตอบในวันเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นเรื่องเกมแห่งอำนาจ แต่เป็นการเข้าสู่อำนาจตามครรลองประชาธิปไตย

การออกมาด้อยค่าและคำวิจารณ์ที่อบอวลด้วยอคตินั้นไม่มีใครได้ประโยชน์ และยังไม่รู้เลยว่าน.ส.แพทองธารจะลงสมัคร ส.ส.หรือเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย หรือไม่ พรรคเพื่อไทยจะจัดขบวนและสร้างพรรคให้เป็นปึกแผ่นอย่างไร จะนำเสนอสาระนโยบายอะไรในการเลือกตั้ง และโดนใจไหม ทั้งหมดล้วนเป็นความท้าทาย ขอนักวิจารณ์ อย่าใจเร็วด่วนสรุป

ปูดมีสัญญาณรบ.ไม่ครบเทอม
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการทำงานในพื้นที่ภาคใต้ พบว่าประชาชนในพื้นที่ให้การตอบรับพรรคเพื่อไทยอย่างอบอุ่นและล้นหลาม ต้องการให้พรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก เพราะมองว่าหลายปีที่ผ่านมาถูกทอดทิ้ง ไร้การเหลียวแลจากรัฐบาล นอกจากนี้พบเสียงสะท้อนประชาชนหลายจังหวัด สิ้นหวังกับรัฐบาลปัจจุบัน ต้องการเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว

สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น พรรค เพื่อไทยตั้งเป้าส่งผู้สมัครส.ส.ทุกเขตเลือกตั้ง เชื่อมั่นว่าด้วยนโยบายและความตั้งใจจริงของพรรคจะโดนใจคนในพื้นที่ รวมทั้งมี ส.ส.ใหม่ในหลายจังหวัดทางภาคใต้อย่างแน่นอน และมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่น่าจะอยู่ครบเทอม เพราะพบมีการใช้อำนาจจับกุมแกนนำคนสำคัญของพรรคการเมือง ที่ร่วมรัฐบาลเดียวกันในภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจต่อกันในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน เชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่จริงใจต่อกันในรัฐบาล จะส่งผลให้รัฐบาลล่มได้ตลอดเวลา

‘ธนกร’สวนกลับ‘วรวัจน์’
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้นายวรวัจน์ ว่า ไม่แน่ใจว่านายวรวัจน์ไปถามคนใต้จากที่ไหนมา เพราะตนก็เป็นคนใต้ และลงพื้นที่ภาคใต้ สอบถามความเห็นจากคนในพื้นที่หลายครั้ง ไม่เห็นว่ามีคนใต้พูดอย่างที่นาย วรวัจน์อ้าง คนใต้เป็นคนจริงใจ รักใครรักจริง ไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทย แทบไม่เคยปักธงในภาคใต้ได้ เพราะนิสัยแอบอ้าง เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่นแบบนี้คนใต้เขารังเกียจ ขนาดจะหาแม่ทัพคุมพื้นที่ภาคใต้ ยังไม่มีใครอาสา ต้องเอาอดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.ภาคเหนือ ที่เกือบจะจำผลงานไม่ได้แล้วมาคุมทัพแทน ยืนยันว่า นโยบายของรัฐบาลยังได้รับการตอบรับจากประชาชนทุกภาคเป็นอย่างดี เพราะสามารถปฏิบัติได้จริง และเข้าถึงประชาชนในระดับรากหญ้า

“มั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ครบเทอมแน่นอน วันนี้การทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปด้วยความราบรื่น สัมพันธ์เหนียวแน่น ถึงขนาดฝ่ายค้านต้องออกโรงสลับหน้ากันเสี้ยมให้แตกคอรายวัน ตรงกันข้ามกับนายวรวัจน์ ที่วันนี้หาความจริงใจจากคนในพรรคเดียวกันเองให้ได้ก่อนยังลำบาก ทางที่ดี หาข้อแก้ตัวเตรียมไว้เลยก็ได้ เพราะวันนี้เอาพี่น้องคนใต้มาอ้างไว้เยอะ การเลือกตั้งสมัยหน้าจะได้ไม่ขายหน้ามากไปกว่านี้ คนใต้รอให้บทเรียนนายวรวัจน์และพรรคเพื่อไทยอยู่” นายธนกรกล่าว

ฝ่ายค้านกล่อมใช้บัตรเบอร์เดียว
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการสู้ต่อ หลังฝ่ายค้านแพ้โหวตเรื่องบัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกันทั้งประเทศในชั้นกมธ. ว่า จะมีการสงวนความเห็นเมื่อมีการนำเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในวาระ 2 เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อย หากถามว่าโอกาสที่จะใช้บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกันทั้งประเทศมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น ก็มีโอกาสเป็นไปได้

ถ้าสมาชิกเห็นว่ามีสิ่งที่สามารถอำนวยความสะดวกกับประชาชนได้ แล้วจะไปทำให้ยุ่งยากทำไม เขาก็อาจจะเห็นด้วยกับเรา อย่าพะวงว่าพรรคใหญ่จะได้เปรียบ และพรรคเล็กจะเสียเปรียบ ทุกพรรคเริ่มต้นเท่ากันและเริ่มนับหนึ่งเหมือนกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะประชาชนเป็นคนเลือก แต่หากมีคนแย้งว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญนั้น ยืนยันว่าไม่ขัดอยู่แล้ว

“พรรคเพื่อไทยไม่ได้หวาดหวั่นกับบัตรเลือกตั้งคนละเบอร์ เราผ่านมาหมดแล้วทั้งเบอร์เดียวกันทั้งประเทศหรือต่างเบอร์ เราก็ชนะมาแล้ว ยืนยันว่าการใช้บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการเลือกตั้งให้แก่ประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับ กมธ.ที่สงวนความเห็นแล้ว เพื่อเตรียมอภิปรายโน้มน้าวให้สมาชิกเห็นด้วยกับเรา ส่วนผลจะออกมาอย่างไร เราก็ต้องเคารพเสียงข้างมากอยู่ดี” นายสมคิดกล่าว

‘แม่ธนาธร’โต้รุกป่าราชบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะก้าวหน้าได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โดยนางสมพรระบุกรณีกรมที่ดินมีคำสั่ง เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) ในจ.ราชบุรี 2,111 ไร่ ของตน น.ส. ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร เนื่องจากพบเป็นที่ป่าไม้ถาวรว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากที่สังคมและสื่อต่างๆ ไปพาดหัวว่าตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจรุกที่ป่า กินป่า เพราะเป็นข้อหาที่ร้ายแรงสำหรับตนและครอบครัว ที่ทำมาหากินสุจริต และตั้งใจช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มกำลังมาตลอด และขอโอกาสชี้แจงเพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม

นางสมพรกล่าวว่า ตนไม่ใช่ผู้ซื้อมือแรก เอกสารสิทธิที่ดินออกตั้งแต่ปี 2521 โดยกรมที่ดินมีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองถูกต้องทุกอย่าง ต่อมาปี 2533 ตนได้รับการแนะนำจากนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งสมัยนั้นเป็นนักการเมืองสำคัญในบ้านเมือง ให้มาซื้อที่ดินจากบริษัท มิตรผล ที่เป็นเจ้าของที่ดิน นายกมล ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท มิตรผล ก็เป็น นักธุรกิจใหญ่ รู้จักกันดี เมื่อทั้งเจ้าของและ ผู้แนะนำให้ซื้อเป็นคนที่น่าเชื่อถือ จึงไม่คิดเลยว่าที่ดังกล่าวจะผิดกฎหมาย

โวย 30 ปีไม่มีปัญหา-ถ้าผิดยินดีคืน
“ดิฉันยืนยันว่าครอบครัวเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. ตอนที่ซื้อก็มีเอกสารสิทธิรับรองถูกต้องตามกฎหมาย ซื้อขายมาหลายทอดแล้ว และดิฉันก็ไม่มีอำนาจบารมีไปบังคับ ข่มขู่ ให้เจ้าหน้าที่ออกเอกสารสิทธิให้ ที่ดินก็เป็นที่ของบริษัทใหญ่ มีเครดิตดี คนแนะนำเป็นนักการเมืองใหญ่ เอกสารสิทธิก็มีเรียบร้อย จึงไม่คิดเลยว่าจะมีปัญหาอะไรทางกฎหมาย” นางสมพรกล่าว

กรณีสื่อบางสำนักเสนอข่าวตน เคยมีบันทึกกับกรมที่ดินว่ารับทราบอยู่แล้วว่าที่ผืนนี้เป็นที่ป่านั้น เอกสารฉบับนี้เนื้อหาระบุแค่ว่าตนรับทราบว่าที่ดินแปลงนี้อาจเป็นหรือไม่เป็นที่ ป่าไม้ถาวรก็ได้ บันทึกถ้อยคำดังกล่าวสำนักงานที่ดินทำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนฟ้องถ้ามีการเพิกถอนสิทธิในภายหลัง ซึ่งกรณีนี้กรมที่ดินก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่า หรือไม่ ตนเป็นราษฎรธรรมดาจะทราบได้อย่างไร

“ดิฉันมีที่ดินผืนนี้มา 30 ปีไม่เคยมีปัญหาอะไร จนกระทั่งลูกชายมาทำงานการเมือง ลูกก็โดนข้อหาคดีร้ายแรงสารพัด ส่วนดิฉันเองก็โดนร้องเรียนว่ารุกป่า กินป่า เป็นเรื่องเป็นราวเป็นคดีใหญ่โต ยืนยันว่าที่ผืนนี้ซื้อมาถูกกฎหมายทุกประการ มีเอกสารสิทธิเรียบร้อย แต่อยู่มาวันหนึ่งรัฐบอกว่าผิด จะเพิกถอน ดิฉันไม่มีปัญหา แต่ต้องไปพิสูจน์ถูกผิดกันตามกฎหมาย ถ้าออกมาว่าเป็นป่าจริงดิฉันยินดีคืนที่ให้ แต่อย่ามากล่าวหาว่าครอบครัวดิฉันโกงบ้านโกงเมืองเด็ดขาด” นางสมพรกล่าว

มท.130 ปี – นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำข้าราชการร่วมพิธีวางพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันสถาปนากระทรวงมหาดไทย ครบ 130 ปี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.

วันระลึกกระทรวงมหาดไทย 130 ปี
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 1 เม.ย.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีวางพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทย ครบ 130 ปี โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมในพิธี ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงต่างๆ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมวางพุ่มดอกไม้ โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำอุปนายกสมาคม คณะกรรมการบริหารสมาคม และสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมวางพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เนื่องด้วยวันที่ 1 เม.ย. 2565 เป็นวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทยครบรอบ 130 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดให้มีพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติทองคำ ใบประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินช่วยเหลือสงเคราะห์พลเมืองดี เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติพลเมืองดีผู้กระทำคุณงามความดี ด้วยคุณธรรมและเป็นที่ประจักษ์แก่สังคม โดยในปี 2564 มีผู้กระทำความดีเข้าข่ายเป็นพลเมืองดี จำนวน 20 ราย แบ่งเป็น 1.กรณีพลเมืองดีที่เสียชีวิต 3 ราย ได้แก่ นายศุภลักษณ์ มหารัตน์สกุล นายน้อย อุ่นศิล นายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ 2.กรณีพลเมืองดีที่ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ได้แก่ นายสท้าน ทระคำหาร นายเลียม ดาศรี นายสมพจน์ พวงสุวรรณ์ นายอนุชา ศรีจริยา นายวิเชียร คงทน และ 3.พลเมืองดีที่ไม่ได้รับผลกระทบ 12 ราย ได้แก่ นายรุ่งชัย วัยแสน นายอภิรัตน์ รักศรี นายอาทิตย์ โพธิ์ทอง นายอาดำ หมัดหนัก นางกาญจนา สัมฤทธิ์ นายอาทิตย์ นันทะสังข์ เด็กหญิงนรภัทร เส็งมา เด็กชายสุขวัฒน์ แก้วเจริญ เด็กชายสุพจน์ แซ่เตียว นายจำนงค์ ศรีราชพัฒน์ นายเสาร์ บุญยอ นายสมเกียรติ บุญรังสี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน