วันที่ 17 ม.ค.รอยเตอร์รายงานความคืบหน้าเหตุเครื่องบินตกในประเทศเนปาลว่า ทีมค้นหาใช้โดรนและโรยตัวบริเวณช่องเขาที่ความลึกลงไป 200 เมตรเพื่อหาผู้โดยสาร 2 คนสุดท้ายที่ยังไม่ทราบชะตากรรม ในเหตุเครื่องบินเยติแอร์ไลน์ตกคร่าอย่างน้อย 70 ชีวิตใกล้เมืองโปขระเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. นับเป็นเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ร้ายแรงที่สุดของเนปาลในรอบ 30 ปี
จากภูมิประเทศที่ยากลำบากและสภาพอากาศรุนแรง ขัดขวางความพยายามในการช่วยชีวิต “ขณะนี้พื้นที่มีหมอกหนา เรากำลังส่ง เจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยชีวิตโดยใช้เชือกโรยตัวสู่ช่องเขาตรงบริเวณที่เครื่องบินตกและลุกไหม้” เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองโปขระกล่าว และว่ามีเด็กเล็กรวมอยู่ด้วยในบรรดาผู้โดยสารอื่นๆ จำนวนหนึ่งอาจถูกเพลิงไหม้และเสียชีวิต รวมถึงอาจค้นไม่เจอ เราจะยังคงค้นหาพวกเขาต่อไป
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ศพ และต้องหยุดภารกิจค้นหาเนื่องจากเริ่มไม่มีแสงสว่าง ด้านสถานีโทรทัศน์แพร่ภาพญาติของเหยื่อร้องไห้ขณะกำลังรอศพบริเวณด้านนอกโรงพยาบาล สำหรับความคืบหน้าการสืบหาสาเหตุการตก ทีมค้นหาพบกล่องดำซึ่งบันทึกเสียงในห้องนักบินและบันทึกข้อมูลการบิน กล่องดำทั้งสองอยู่ในสภาพดี ซึ่งการค้นพบกล่องดำดังกล่าวมีแนวโน้มอาจช่วยให้ทีมสอบสวนระบุสาเหตุเครื่องบินตกได้ เครื่องบินลำนี้ผลิตโดยบริษัทเอทีอาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในฝรั่งเศส ส่วนตัวเครื่องยนต์ผลิตในแคนาดา ทีมสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศฝรั่งเศสและแคนาดาจึงมีแผนเข้ามาร่วมสอบสวนด้วย
