นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. 2566 อยู่ที่ระดับ 96.2 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 93.9 สูงสุดในรอบ 47 เดือน นับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2562 จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการผลิตตามการ ฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ การบริโภคและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจนจากอานิสงส์การเปิดประเทศของจีน ประกอบกับการเร่ง เบิกจ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ ขณะที่ต้นทุนราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน

ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่หดตัว เศรษฐกิจโลกเข้าสู่สภาวะถดถอย โดยเฉพาะผลกระทบหลังธนาคารในสหรัฐ 3 แห่งปิดตัวลงในเวลาเพียง 1 สัปดาห์จะลุกลามหรือไม่ ปัญหาเงินเฟ้อสูง สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นความเสี่ยงต่อการค้าระหว่างประเทศของไทย อีกทั้งผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของภาคเอกชน

โดยดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 103.6 เพิ่มขึ้นจาก 101.1 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีทิศทางดีขึ้น มีแรงผลักดันจากภาคการท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศ และการลงทุน รวมถึงการจัดการเลือกตั้งในเดือนพ.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของจีนจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ โดยขอให้ภาครัฐเร่งการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนงานเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจหยุดชะงักในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เสนอให้ภาครัฐบูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (พีเอ็ม 2.5) ที่เกินค่ามาตรฐาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน