นที่ 30 มิ.ย. นายสมจิตต์ รุจิรวรรณ์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขื่อนป่าสักสระบุรี พร้อมเกษตรกรชาวไร่อ้อยจำนวนหนึ่งยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผวจ.สระบุรี กับ กอ.รมน.สระบุรี ที่ศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี หลังเกษตรกรทำตามมติ ครม. ที่เคยให้ไว้กับกระทรวงอุตสาหกรรมว่า ให้เกษตรกรตัดอ้อยสดสะอาดเข้าสู่โรงงานน้ำตาล การตัดอ้อยสดสะอาดมีต้นทุนการผลิตสูง ทางรัฐบาลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายต้นทุน หลังจากที่ปิดหีบแล้วจะมีมูลค่าในการที่จะช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตันละ 120 บาท

แต่ปิดหีบตั้งแต่เดือนก.ย. มากว่า 3-4 เดือน ทุกสิ่งทุกอย่างยังเงียบอยู่ กระทรวงอุตสาหกรรมไม่เคยดำเนินการให้เลย เพราะฉะนั้น มติของ 4 องค์การชาวไร่อ้อยทั่วประเทศอยากจะให้สมาคมนั้นๆ แต่ละจังหวัดที่มีโรงงานอยู่ให้ยื่นกับผวจ.จังหวัด เพื่อส่งเข้าอุตสาหกรรมจังหวัด และเสนอในส่วนของรัฐบาลต่อไป

ม็อบอ้อย – เกษตรกรไร่อ้อยยื่นหนังสือถึงผวจ.กำแพงเพชร ช่วยทวงเงิน 120 บาท ต่อตัน ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับปากชดเชยต้นทุนตัดอ้อยสดแทนการเผาลดมลพิษ เช่นเดียวกับเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดอื่นๆ ที่รวมตัวร้องเรียนเรื่องเดียวกัน ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.

นายสมจิตต์กล่าวอีกว่า ถ้าหากว่า 120 บาท ไม่ได้รับการตอบรับตรงนี้หรือว่าในส่วนที่จะพูดตามสัญญาแล้ว ปีหน้าอย่างไรก็ตาม อ้อยสดคงไม่มี พี่น้องชาวไร่อ้อยอาจจะเผาอ้อยทั้งหมดเพื่อลดต้นทุนในการผลิตก็จะเป็นผลเสียในส่วนของค่า PM 2.5 หรืออะไรต่างๆ ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนได้รับฝุ่นพิษต่างๆ เรามาในวันนี้เรามาประสานแนวทางไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครทั้งสิ้น เรามาตามแนวนโยบาย เพื่อปากท้องพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยประมาณ 4,800 กว่าราย ต้องได้รับความเป็นธรรมอย่างชัดเจนภายใน 2 เดือนนี้ ถ้าไม่ขยับหรือไม่ได้รับความชัดเจนอาจจะต้องขยับเข้ากระทรวงอุตสาหกรรม

รายงานข่าวแจ้งว่า เกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศต่างพร้อมใจกันยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ในทุกจังหวัดที่เพาะปลูกอ้อย เช่น กำแพงเพชร, พิษณุโลก, ลพบุรี, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมุกดาหาร เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน