แม้ฟุตบอลจะเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่ที่ผ่านมาความสำเร็จและความมั่งคั่งมักวนเวียนอยู่แค่ในทวีปยุโรปและอเมริกาใต้ โดยแทบไม่มีพื้นที่ให้ชาติจากทวีปอื่นแทรกแซงมากเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังมานี้สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงในโลกลูกหนังเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ นอกจากการได้เห็นลีกใหญ่ๆ เปิดรับนักเตะจากทั่วโลกมากขึ้นแล้ว ผลงานของทีมชาติก็เริ่มมีทีมนอกสายตามาแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับทีมเต็งที่ถูกเขี่ยพ้นทางทัวร์นาเมนต์ใหญ่แต่หัววัน
ตัวอย่างเช่นในฟุตบอลชาย ใครจะไปคิดว่าโมร็อกโกจะก้าวมาถึงขั้นคว้าที่ 4 ฟุตบอลโลก 2022 ส่วนอดีตแชมป์โลกอย่างเยอรมนี, บราซิล, สเปน เข้าไม่ถึงรอบตัดเชือก และอิตาลีไม่ได้มาเล่นรอบสุดท้ายด้วยซ้ำ
ขณะที่ฟุตบอลหญิง ในศึกฟุตบอลโลก 2023 ที่กำลังแข่งกันอยู่ อดีตแชมป์โลกอย่างสหรัฐอเมริกา, นอร์เวย์ และเยอรมนี หรือแม้แต่ทีมดังอย่างบราซิล ล้วนถูกเขี่ยตกรอบไปหมดแล้ว
หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ ไอซ์แลนด์ที่ทั้งประเทศมีประชากรไม่ถึง 400,000 คน และไร้ชื่อชั้นทางฟุตบอลมาตลอด กลับผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโร 2016 และเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018
ลาร์ส ลาเกอร์บัก อดีตกุนซือทีมชาติไอซ์แลนด์ ผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาฟุตบอลของประเทศแห่งนี้ มองว่าองค์ประกอบสำคัญอยู่ที่การผสมผสานระหว่างการฝึกสอนที่ดีตั้งแต่รุ่นเด็ก, การมีผู้เล่นไปแจ้งเกิดในลีกยักษ์ใหญ่ต่างแดน, ความร่วมมือทั้งในและนอกสนาม และความสามารถของนักเตะในยุคนั้นๆ
จากนั้นเป็นเรื่องของการค้นหาสไตล์การเล่นเพื่อต่อกรกับเหล่าทีมใหญ่ และการฝึกซ้อมในช่วงที่นักเตะไม่ได้แข่งขัน ซึ่งลาเกอร์บักชี้ว่าถ้าทุกอย่างทำได้แบบลงตัว ทีมเล็กๆ ก็จะมีโอกาสเข้าสู่รอบสุดท้ายทัวร์นาเมนต์ใหญ่มากขึ้น
Advertisement
ทวีปแอฟริกาเป็นหนึ่งในดินแดนแห่งทรัพยากรนักเตะ มีผู้เล่นหลายรายที่โชว์ฝีเท้าโดดเด่นจนมีชื่อเสียงระดับโลก แต่ผลงานทีมชาติกลับไม่ได้ออกมาดีนัก กระทั่งโมร็อกโกเข้าถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลโลกได้สำเร็จ
ลาเกอร์บักที่เคยคุมไนจีเรียในช่วงสั้นๆ มองว่าฟุตบอลแอฟริกามีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นยักษ์หลับ ถ้ามีการจัดการที่ดีกว่าอีกสักหน่อยก็อาจมีชาติที่ทำผลงานชวนฮือฮาไม่แพ้โมร็อกโกได้เลย
ส่วนสหรัฐอเมริกาที่เป็นมหาอำนาจในหลายชนิดกีฬา แม้จะโดดเด่นกับฟุตบอลหญิงที่ได้แชมป์โลกมาแล้วถึง 4 สมัย แต่ฟุตบอลชายก็กำลังได้รับการปลุกกระแสในประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ใช่แค่การดึงนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์มาค้าแข้งในเมเจอร์ลีกเท่านั้น ตอนนี้นักเตะอเมริกันหลายรายก็ยังได้โลดแล่นในลีกใหญ่ยุโรป และด้วยความที่สหรัฐอเมริกาจะเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลก 2026 แผนการพัฒนาทีมจึงยิ่งจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ
ซินดี พาร์โลว์ โคน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐอเมริกา บอกว่ารู้สึกมั่นใจในศักยภาพของนักเตะทีมชาติชุดปัจจุบัน และตอนนี้แต่ละคนก็อายุไม่มากนัก เมื่อฟุตบอลโลกหนต่อไปมาถึง แต่ละคนก็น่าจะสุกงอมได้ที่และมีลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ในทัวร์นาเมนต์ได้
ฟากเอเชียอย่างที่ทราบกันว่าญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้มีนักเตะไปค้าแข้งในยุโรปหลายรายแล้ว แต่ชาติที่มั่งคั่งในตะวันออกกลางอย่างซาอุดีอาระเบียตอนนี้สามารถใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะระดับโลกมาร่วมลีกในประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นย่อมส่งผลดีต่อการพัฒนาฟุตบอลของชาติไม่มากก็น้อย
ขณะที่เหล่าสโมสรดังในยุโรปเองก็ต้องทำการค้า และหลีกเลี่ยงการเปิดตลาดในภูมิภาคเอเชียไม่ได้เป็นอันขาด ทุกกิจกรรมที่สโมสรมาจัดที่เอเชีย อาทิ ฟุตบอลอุ่นเครื่อง, คลินิกสอนฟุตบอล ก็จะกระตุ้นการพัฒนาฟุตบอลในพื้นที่นี้ได้เช่นกัน
โดยสรุปแล้วอาจพูดได้ว่าด้วยความที่โลกเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น มีการเปิดกว้างในทุกด้านมากขึ้น ย่อมทำให้ชาติที่เคยเป็นรองในโลกฟุตบอลมีโอกาสเจริญเติบโต ซึ่งถ้าชาติที่ได้ชื่อว่ายักษ์ใหญ่ไม่รู้เท่าทันและไม่เร่งพัฒนาตัวเองเช่นกัน ก็อาจถูกเขี่ยตกกระป๋องได้ง่ายๆ
