เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ “พระเทพสิทธาจารย์” เป็น “พระธรรมวัชราจารย์ สุวิธานปริยัตีคุณ วิบุลสิทธินายกดิลกศาสนภารธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” พระราชาคณะชั้นธรรม สถิต ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง จ.มหาสารคาม มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 6 รูป

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2565 ประกาศ ณ วันที่ 28 มิ.ย.2565

พระธรรมวัชราจารย์ เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปของมหาสารคาม ได้รับการยกย่องว่าเคร่งครัดระเบียบวินัย จนได้รับการยกย่องว่า มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา

ปัจจุบัน สิริอายุ 79 ปี พรรษา 59 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าอาวาส วัดมหาชัย พระอารามหลวง จ.มหาสารคาม

มีนามเดิม น้อย อุทัยสา เกิดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 1 บ้านหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม บิดา-มารดาชื่อ นายอุ้ยและนางสา อุทัยสา

เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาธรรม อายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2507 ที่พัทธสีมาวัดหัวหนอง ต.ดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม มีพระครูนิมมานกิตติวัฒน์ วัดเจริญผล เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิสุทธิสังฆคุณ วัดหนองหล่ม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการทองสุข วัดบ้านโคก เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายานามว่า ญาณวุฑโฒ แปลว่า “ผู้เจริญแล้วด้วยญาณ”








Advertisement

มุมานะศึกษาพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี โท และเอก ตามลำดับ

ด้วยความเป็นพระปฏิบัติ มีความรับผิดชอบสูง จึงได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ ดำรงตำแหน่งทางปกครองมาอย่างต่อเนื่อง

พ.ศ.2531 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2531 เป็นเจ้าคณะอำเภออำเภอแกดำ พ.ศ.2542 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ.2552 เป็นเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง

พ.ศ.2555 เป็นเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

มุ่งมั่นส่งเสริมการศึกษาคณะสงฆ์ สนับสนุนให้ พระภิกษุ+สามเณรศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม แผนกบาลี แผนกสามัญศึกษา จนกระทั่งศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ผลงานที่ประจักษ์ในการส่งเสริมการศึกษาคือ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ผลักดันให้เกิดวิทยาลัยสงฆ์ที่มหาสารคามจนประสบผลสำเร็จ มีการเปิดการเรียนการสอนไปแล้ว และยังจัดหาทุนการศึกษามอบแด่พระภิกษุ-สามเณร ที่มีจิตใจใฝ่การศึกษาแต่มีฐานะยากจน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2521 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูปัญญาภิสาร และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโท ชั้นเอก และชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2544 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระบวรปริยัติกิจ

พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัตยาทร พ.ศ.2555 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสิทธาจารย์

ล่าสุด วันที่ 28 มิ.ย.2566 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวัชราจารย์

ด้วยความเป็นพระเถระที่มีวัตรปฏิบัติดำรงตนอยู่ในพระธรรมวินัย ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา มีผลงานปรากฏเป็นที่ประจักษ์ จึงได้รับการยกย่องเชิดชูมากมาย อาทิ

ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับโล่สนับสนุนโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก รับรางวัลนาคราชผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม รับโล่ยกย่องเป็นคนดีศรีมหาสารคาม ครบ 150 ปีเมืองมหาสารคาม

อีกทั้งได้รับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้รับประทานปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้รับรางวัลพระราชทานพระธาตุนาดูนทองคำ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประเภทบุคคลดีเด่น สาขาบำเพ็ญประโยชน์ ปี 2562 เป็นต้น

วัตรปฏิบัติที่น่ายกย่อง จะบริจาคปัจจัยช่วยเหลือคณะสงฆ์ และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ อาทิ ไฟไหม้ น้ำท่วม โรคโควิดแพร่ระบาด เป็นต้น จะช่วยเหลืองานศพที่ยากไร้ โดยจะมอบผ้าไตรให้ 1 ไตร และปัจจัย 1,000 บาทให้ทุกงานที่แจ้งเข้ามา

ในแต่ละปีจึงมีผู้เข้ามาขอความอนุเคราะห์เป็นจำนวนมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน