นักการเมืองดังพาเหรด ‘จุรินทร์-จุติ-คารม’ร่วมโหวต ‘โพลมติชน-เดลินิวส์’ด้วย ‘อู๊ดด้า’ชี้แก้การเมืองกับเศรษฐกิจมีความสำคัญเท่ากัน ชื่นชมสองสื่อยักษ์จัดโพลช่วยสะท้อนปัญหาชาวบ้าน อีกทั้งเป็นประโยชน์กับฝ่ายค้านด้วยเช่นกัน ‘จุติ’ ชูแก้ปากท้องก่อนแล้วทุกอย่างจะลงตัวเอง รวมทั้งปัญหาความไม่เท่าเทียมทางกฎหมายด้วย รองโฆษกรัฐบาลขอเชิญชวนทุกคนร่วมโหวตผ่านโพลออนไลน์ของ 2 สื่อใหญ่ ระบุโดยหลักแล้วจำเป็นจะต้องช่วยกันคิดและช่วยกันแก้ ด้านเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในจ.สงขลา เสนอรัฐบาลแก้ปัญหาเลี้ยงกุ้ง ระบุต้นทุนสูง
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคึกคักของการทำกิจกรรมระหว่างสื่อในเครือมติชนและเดลินิวส์ ทำโพลมติชนxเดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร เริ่มเปิดโหวตเมื่อวันที่ 1-31 ต.ค. โดยกองบรรณาธิการเครือมติชนและเดลินิวส์ ได้ประมวลชุดคำถาม รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร? แล้วนำมาเปิดให้ประชาชนโหวต ผ่านทาง คิวอาร์โค้ดที่อยู่ในสื่อทั้ง 2 เครือทั้งหนังสือพิมพ์ 4 เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์), ยูทูบ, อินสตาแกรม และติ๊กต็อก
คำถามมี 2 หัวข้อใหญ่ คือ 1.เร่งแก้ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม ประกอบด้วย 1.1 แก้รัฐธรรมนูญ, 1.2 ปฏิรูปกองทัพ, 1.3กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น, 1.4 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, 1.5 รัฐสวัสดิการ และ 1.6 ปัญหาอื่นๆ และ 2.เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ประกอบด้วย 2.1 แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท, 2.2 “แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ, 2.3 แก้ปัญหาการเกษตร, 2.4 เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนปริญญาตรี, 2.5 ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าน้ำมัน และ 2.6 ปัญหาอื่นๆ
วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมทำโพล มติชนxเดลินิวส์ สอบถามประชาชนว่าอยากให้รัฐบาลเศรษฐา แก้ปัญหาอะไรก่อนระหว่างเศรษฐกิจ และการเมือง ว่า ความจริงทั้งการเมือง ทั้งเศรษฐกิจ สำคัญเหมือนกัน และไม่ว่าใคร จะเป็นรัฐบาลก็มีหน้าที่ทำควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง ส่วนความเห็นประชาชนจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอฟังผลโพลว่าเป็นอย่างไร แต่ในฐานะเป็นผู้ที่อยู่ในภาคปฏิบัติมาก่อน แม้ขณะนี้จะมาทำหน้าที่ฝ่านค้านก็ถือว่าเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงของการที่จะต้องเป็นผู้ปฏิบัติ ไม่ว่าฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติก็ตาม ตนจึงคิดว่าสองปัญหานี้ต้องทำควบคู่กันไป เพราะทั้งสองส่วนนี้สัมพันธ์กัน ถ้าการเมืองไม่ดี เดินหน้าไม่ได้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ยากที่จะสำเร็จ และจะมุ่งแก้เศรษฐกิจอย่างเดียว แต่การเมืองมีปัญหาก็ไปยาก ดังนั้น จึงต้องไปด้วยกัน
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ตนต้องชื่นชมทั้งมติชนและเดลินิวส์ ที่ได้จัดทำผลสำรวจนี้ออกมา คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะรัฐบาล เพราะจะเป็นประโยชน์กับฝ่ายค้านด้วย ในการที่จะติดตามว่าประชาชนให้ความสำคัญกับเรื่องไหน และในฐานะฝ่ายค้านก็จะได้ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน หรือร่วมกันผลักดันเรื่องนั้นๆ ที่ประชาชนต้องการต่อไป
ด้านนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมโหวตโพล มติชนxเดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐา ควรแก้ปัญหาอะไร?” ซึ่งเปิดโหวตเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค.นี้ ผ่านทาง “คิวอาร์โค้ด” ที่อยู่ในหนังสือพิมพ์ รวมไปถึงโหวตผ่านคิวอาร์โค้ด และลิงก์ในช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์), ยูทูบ, อินสตาแกรม และติ๊กต็อก ของสื่อในเครือมติชน และเดลินิวส์
นายคารมกล่าวว่า การทำโพลเป็นสิ่งที่ดีเพราะแต่ละคำถาม ก็จะมีคำตอบ มีมุมมองที่ต่างกันออกไป โดยเฉพาะในเรื่องปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมืองปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งวันนี้ถ้าถามว่าอยากจะสะท้อนสิ่งใดก็น่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นสิ่งที่ควรจะทำก่อน แต่หากไปถามบางคนหรือถามในส่วนที่เป็นพรรคการเมืองก็อาจจะเป็นเรื่องของการปฏิรูปสังคมต่างๆ หรือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“วันนี้ผมขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ร่วมโหวตผ่านโพลออนไลน์ที่สื่อของมติชน และจัดทำร่วมกัน โดยหลักแล้วบ้านเราจำเป็นจะต้องช่วยกันคิดและช่วยกันแก้ ดังนั้น การที่มติชน-เดลินิวส์ ทำโพลเพื่อมาสอบถามว่าบ้านเมืองควรจะไปอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไรโครงสร้างสังคม เศรษฐกิจต่างๆ หรือมุมมองความคิดเห็นต่างๆ จึงอยากขอเชิญชวนทุกคน เสียสละเวลาร่วมกันทำโพลในครั้งนี้ ซึ่งข้อมูลต่างๆ ก็จะสะท้อนไปถึงรัฐบาล ซึ่งเมื่อรัฐบาลเห็น ก็จะจะต้องรับฟังเสียงของประชาชน จะได้รู้ถึงปัญหาหรือเรียกว่าเกาถูกที่กันจะได้แก้ปัญหาได้ถูกจุด บ้านเราจะได้น่าอยู่และวันนี้ก็ต้องบอกว่าบ้านเรานั้นน่าอยู่ที่สุด ร่วมมือกันนะครับในฐานะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ช่วยกันนะครับ
นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เห็นเห็นว่ารัฐบาลต้องแก้ปัญหาปากท้องประชาชน หนี้สินประชาชน และแก้ปัญหาความยากจนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด รวมทั้งปัญหาความไม่เท่าเทียมทางกฎหมาย ตนคิดว่าถ้าจัดการเรื่องเหล่านี้ได้ทุกอย่าง จะลงตัว
“ขอเชิญชวนประชาชนมาใช้สิทธิ์โหวตโพลมติชนxเดลินิวส์ เพื่อบอกไปถึงรัฐบาลว่าท่านต้องการอะไร” นายจุติกล่าว
นายปรีชา สุขเกษม เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ในจ.สงขลา กล่าวว่า ได้เข้าไปตอบคำถามในโพลของมติชนxเดลินิวส์ รู้สึกยินดีที่มีโพลจากสำนักข่าวที่มีคุณภาพเป็นแนวทางให้รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายตามความต้องการของประชาชน ในส่วนของเกษตรกรนั้น มองว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญในเรื่องราคาสินค้าเกษตร ให้สามารถแข่งขันกับตลาด ต่างประเทศได้ ปัญหาของเกษตรกรคือต้นทุนสูง ไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ไม่ว่าปาล์ม ยางพารา ข้าว และกุ้ง เหตุที่แข่งขันไม่ได้เพราะต้นทุนเราสูงกว่า เนื่องจากค่าแรงที่สูง เกษตรกรต้องอาศัยการจ้างแรงงานก็เดือดร้อน ค่าพลังงาน ไฟฟ้าและค่าขนส่งก็ปรับเพิ่มขึ้นล้วนเป็นภาระตุ้นทุน ทำให้เกษตรกรอ่อนแอลง นโยบายรัฐที่ถูกต้องควรจะช่วยให้เกษตรกรเข้มแข็ง อาจจะด้วยการดูแลเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกร เพื่อสามารถปรับเทคโนโลยี เครื่องไม้เครื่องให้ทันสมัยมีประสิทธิภาพ ผลิตได้เยอะต้นทุนน้อย สามารถแข่งขันได้ ไม่ว่าคุณภาพของสินค้าและปริมาณ
“รัฐควรเพิ่มช่องทางการตลาด โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง การไปเจรจากับอียูและตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศที่ต้องการกุ้งไทย ส่วนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งยังได้รับการดูแลน้อยไปจากนโยบายรัฐ กรมประมงไม่สามารถมอบองค์ความรู้ให้เกษตรกรได้มากพอ ควรสนับสนุนให้เกษตรกรเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้ จะเกิดความเข้มแข็งในเศรษฐกิจฐานรากซึ่งเป็นเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประเทศ
นายจิตรธรรม บุญญาธิการ ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า รัฐบาลควรแก้ปัญหาเรื่องปากท้องเป็นอันดับแรก ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีงานทำ มีเงินใช้เลี้ยงดูครอบครัว รวมทั้งภาคเกษตรกรรมเป็นกลุ่มคนที่มีความลำบากมากที่สุด จึงเข้ามาดูแลเรื่องสินค้าตามลำดับ เพราะหากพัฒนาสิ่งอื่นๆ คงทำไม่ทัน
“นายกฯ ควรเร่งมือแล้วก็ประชาสัมพันธ์พร้อมๆ กันให้ชาวบ้านได้รู้ว่าทำอะไร ไม่ใช่ทำแบบงุบงิบๆ วันนี้โซเชี่ยลไปไกล ชาวบ้านก็ควรต้องรู้ว่านายกฯ กำลังช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไร ส่วนในระยะสั้นต้องทำให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ พออยู่ได้ท่ามกลางสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ แล้วค่อยพัฒนาระยะกลางและ ระยะยาวต่อไป ประเทศไทยไม่ใช่โครงการก่อสร้างบ้านเพื่อขาย แค่ประเทศไทยคือครอบครัวใหญ่ที่คนเป็นพ่อบ้านจะต้องบริหารว่าแต่ละครัวเรือนจะกิน จะอยู่อย่างไร รวมไปถึงจะแก้ปัญหาอย่างไรให้มีเงินเพื่อพัฒนาบ้านเมืองได้
