นามสกุลดังลวงเหยื่อตุ๋นเงินค่าบริการวีไอพี

รวบตัวหนุ่มสกุลดัง อ้างสำนักพระราชวัง ลวงเหยื่อเจ้าของธุรกิจ ขอเก็บเงินค่าพาวีไอพี มาใช้บริการ ผู้เสียหายกว่า 15 ราย สูญเงินกว่า 1 ล้านบาท กองปราบฯ ตามล็อกตัวคาสนามบินสุวรรณภูมิ เช็กประวัติมีคดีหลอกลวงเหยื่ออีก 3 คดี ด้าน ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ รับแค่แอบอ้างจริง แต่ไม่ได้รับเงินจากใคร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงศ์ ผกก.2 บก.ป. ร่วมกันแถลงจับกุม นายจุฬาธิปก ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1692/2566 ลงวันที่ 31 พ.ค. 2566 ข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ทุจริตหรือหลอกลวงโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง นาฬิกา 1 เรือน กระเป๋าสตางค์ บัตรเครดิตอีกหลายรายการ หลังจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า นายจุฬาธิปกมีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง เข้าไปตีสนิทเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ พร้อมอ้างว่าจะพาบุคคลระดับสูงไปใช้บริการที่ร้าน ก่อนเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าภาพถ่าย, ค่าเข็มที่ระลึก ฯลฯ โดยพบว่าระหว่างปี 2564-2566 มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมากกว่า 15 ราย เสียหายกว่า 1 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมส่งกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่าหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีข้ามไปยังประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงประสานขอความร่วมมือจนมีการแจ้งเบาะแสกลับมาว่า นายจุฬาธิปกกำลังเดินทางกลับมายังประเทศไทย จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวดังกล่าว

สอบสวนนายจุฬาธิปกให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงว่ามีการแอบอ้างจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้รับเงินจากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบประวัติพบมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันติดตัวอีก 3 คดี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน