ยังคงคำถามเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลายต่อหลายข้อ ด้วยความที่เป็นโครงการใหญ่ ใช้เงินมากถึง 5 แสนล้านบาท ถ้าแจกได้จริงจะมีคนถึง 50 ล้านคนที่จะได้ประโยชน์ และเมื่อสุดท้ายต้องใช้วิธีการกู้เงินมาดำเนินการ จึงเป็นจุดที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
คำถามที่ยังมีคนถามไม่เลิกคือ ทำไมไม่เป็นเงินสด ซึ่งมีการอธิบายไปหลายครั้งแล้วว่า ต้องเป็นเงินดิจิทัล เพื่อให้ใช้เฉพาะซื้อขายสินค้า เพราะหากเป็นเงินสดก็จะนำเงินไปใช้ด้านอื่น เช่น ใช้หนี้สิน ซึ่งไม่ตรงเป้าหมายให้เกิดการจับจ่ายสินค้าเพื่อเกิดเงินหมุนเวียนครั้งใหญ่
ที่สำคัญโครงการนี้เป็นการปูทางเพื่อยกระดับสังคมไทยไปสู่สังคมไม่ใช้เงินสด เมื่อเป็นระบบนี้ จะทำให้ทุกการจับจ่าย ทุกธุรกรรมจะเป็นไปอย่างเปิดเผย
สังคมเงินดิจิทัล คือ การขจัดเงินใต้โต๊ะ เงินสีเทา นั่นเอง
คำถามต่อมา ซึ่งก็ยังมีการนำมาโจมตีรัฐบาลไม่เลิก นั่นคือ ไม่ทำตามที่พูดไว้ ทำไมต้องลดเป้าหมายจากจ่ายคน 16 ปีขึ้นไปถ้วนหน้า กลายเป็นจ่ายเฉพาะคนเงินเดือนไม่เกิน 7 หมื่นบาท และมีเงินฝากในธนาคารไม่เกิน 5 แสนบาท
คำตอบจากนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องย้ำว่า รัฐบาลต้องการแจกถ้วนหน้า 56 ล้านคน แต่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติที่เน้นวินัยทางการเงินการคลังย้ำว่าต้องลดเป้าหมายการแจก!
เช่นเดียวกับการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ก็เป็นไปตามข้อหารือของผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ
เพราะไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะนำงบประมาณรายจ่ายมาใช้ในโครงการนี้
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเป็นพ.ร.บ.เงินกู้ ต้องรอกฤษฎีกาตีความข้อกฎหมายก่อน!?
ถ้าหากผ่านกฤษฎีกาได้ ต้องนำเข้าพิจารณาในรัฐสภาอีกด่าน
ดังนั้นเสียงวิจารณ์เรื่องการกู้ ประการหนึ่งต้องรู้ว่ามาจากข้อแนะนำของใคร ประการต่อมายังต้องผ่านการ กรองอีก 2 ด่านสำคัญ!
ถ้าผ่าน 2 ด่านนี้ได้ จะเป็นการยืนยันว่าถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอน
เพียงแต่ชั้นนี้รัฐบาลได้มีคำอธิบายหวังให้ทั้ง 2 ด่าน เห็นชอบ
เช่น จำเป็นเร่งด่วน เพราะเศรษฐกิจประเทศในรอบ 10 ปีโตแค่ 1.8% จึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
หรือการกู้ครั้งนี้จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 64% ยังไม่เกินเพดาน
อีกจุดที่รัฐบาลหวังจะอธิบายความชอบธรรมของโครงการนี้มากที่สุด คือ เป็นการนำเงินลงชุมชน ลงชนบท อย่าง เป็นจริง
ดังที่กำหนดการให้ใช้ในเขตอำเภอ ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
ทำให้ไม่ใช้จ่ายแต่ในกทม.เท่านั้น ทุกคนจะต้องกลับไปใช้ในบ้านเกิด กระจายไปทุกจังหวัด
เดิมทีกำหนดรัศมี 4 กิโลเมตร รัฐบาลหวังจะให้รถพุ่มพวงนั่นแหละได้รับประโยชน์เต็มๆ
แน่นอนยังมีอีกหลายคำถาม ซึ่งรัฐบาลยังจะต้องอธิบายรายละเอียดอีกมาก
เพียงแต่คงต้องรอผ่านด่านกลั่นกรองให้ได้ก่อน!