รับจ้างหญิงไทยจัดทีมปล้นอ้างคนตายซุกเงินธุรกิจเทาตร.ล่าอีก2‘สาว-ฝรั่งผิวขาว’

ทีมฆ่าหนุ่มไต้หวันหมกโรงแรมดังย่านอุดมสุข จนมุมแล้ว 2 ตร.รวบหนุ่มพม่า-แคเมอรูน ที่ปรากฏตัวในภาพวงจรปิดโรงแรมที่เกิดเหตุบุกเข้าห้องผู้ตาย หนุ่มพม่าให้การภาคเสธอ้างสมัครงานออนไลน์เป็นคนสอดแนม-สะกดรอยจากสาวไทยรายหนึ่ง นัดสุมหัววางแผนที่ร้านกาแฟในห้างย่านฝั่งธนฯ นายจ้างสาวอ้างเหยื่อทำงานผิดกฎหมายมีเงินซุกไว้มาก สุดท้ายได้เพียงโน้ตบุ๊กและโทรศัพท์เท่านั้น

จากกรณีพบศพนายชู เชียงเฉิน อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน ภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยอุดมสุข เขตบางนา กรุงเทพฯ สภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ ที่ปากถูกปิดด้วยสก๊อตเทปใสหลายรอบ มือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกฟางและสก๊อตเทปใสคาดด้วยเข็มขัดมัดรอบตัว หน้าแข้งถูกรัดด้วยเข็มขัด ข้อเท้าถูกมัดด้วยสก๊อตเทปใสหลายรอบ เหนือคิ้วขวาถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือด และมีผ้าขนหนูเปื้อนเลือดที่พื้นอีก 2 ผืน ส่วนภายในห้องพบตู้เซฟขนาดย่อม 2 ตู้ วางอยู่บนพื้น กระเป๋าเดินทาง 2 ใบ

คลี่ฆ่าไต้หวัน – ตร.บางนาสอบปากคำนายจอห์น อักบอร์ ชาวแคเมอรูน ร่วมกับหนุ่มเมียนมาและหนุ่มต่างชาติอีกราย (ภาพเล็ก) ฆ่าหนุ่มไต้หวันหมกโรงแรม เบื้องต้นยังปฏิเสธ อ้างเป็นแค่ครูสอนภาษา เมื่อวันที่ 17 พ.ย.

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รรท.ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหา ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ประกอบด้วย นายซเว ลิน ปแย อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.696/2566 ลงวันที่ 17 พ.ย.2566 จับกุมตัวที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ริมถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ และนายจอห์น อักบอร์ อายุ 40 ปี สัญชาติแคเมอรูน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.697/2566 ลงวันที่ 17 พ.ย.2566 โดยจับกุมทั้งคู่บริเวณริมถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตบางนา กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมที่เกิดเหตุ พบว่ามี นายซเว ผู้ต้องหาที่ 1 ไปเคาะประตูห้องพักห้องเลขที่ 618 ของผู้ตาย ก่อนบุกเข้าไปพร้อมบุคคลอื่นด้วย โดยมีพฤติการณ์เข้าเดินเข้า-ออกระหว่างห้องเลขที่ 618 ชั้น 6 กับห้อง เลขที่ 507 ชั้น 5 เจ้าหน้าที่แกะรอยสืบสวนกระทั่งพบว่าผู้ต้องหาอาศัยที่อพาร์ตเมนต์ย่านราชเทวี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมเชิญตัวไปสอบปากคำที่ สน.บางนา

เบื้องต้นนายซเวให้การภาคเสธ อ้างว่าสมัครงานผ่านทางออนไลน์ที่โพสต์หาคนสนใจทำงานสอดแนม สะกดรอย ถ่ายรูป จากหญิงไทยรายหนึ่ง โดยนัดหมายกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี โดยร่วมก่อเหตุกับนายจอห์นผู้ต้องหาที่ 2 และชายชาวยุโรปผิวขาว รวม 3 คน เป้าหมายเพื่อเอาทรัพย์สินของผู้ตาย เนื่องจากหญิงไทยผู้สั่งการแจ้งว่าผู้ตายมีทรัพย์สินจำนวนมากและมีประวัติอาชญากรรม








Advertisement

ต่อมากลุ่มนายซเวเปิดห้องพักโรงแรมที่เกิดเหตุ เพื่อเฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ตาย กระทั่งวันที่ 16 พ.ย. เวลาประมาณ 01.00 น. บุกเข้าไปในห้องพักของผู้ตาย โดยชายชาวตะวันตกเป็นผู้จับผู้ตาย นายซเวเป็นผู้จับมัดด้วยเทปและเข็มขัดกับผู้ตาย ส่วนนายจอห์นผู้ต้องหาที่ 2 มีหน้าที่ดูต้นทางด้านหน้าประตู จากนั้นรื้อค้นหาทรัพย์สิน แต่ไม่พบเงินจึงนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป พร้อมยืนยันว่าก่อนออกจากห้อง ผู้ตายยังไม่เสียชีวิตแต่อย่างใด

ส่วนนายจอห์นผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ให้การว่าเป็นเพียงครูสอนภาษาเท่านั้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.บางนา รวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาพระโขนงออกหมายจับหญิงไทยที่ถูกพาดพิง และชายชาวต่างชาติผิวขาวที่ร่วมขบวนการ เพื่อตามจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนของ เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ตายเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 14 พ.ย. จากนั้นพบเข้าพักโรงแรมที่เกิดเหตุในเวลา 12.43 น. โดยช่วงระยะเวลาที่หายไปนานกว่า 10 ชั่วโมงนั้นพบว่าไปพักที่บ้านเพื่อนในพื้นที่ จ.นนทบุรี จากการสอบปากคำเพื่อนทราบว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ตายเคยเดินทางเข้ามาในไทย และได้ฝากตู้เซฟจำนวน 2 ตู้ไว้ โดยครั้งนี้ที่ผู้ตายไปหาเพื่อนเพื่อไปนำเซฟกลับ แต่อีกฝ่ายเงียบหายไปหลังเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวจึงโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่โรงแรมเข้าไปตรวจสอบ กระทั่งพบเป็นศพถูกฆาตกรรมคาห้องพัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน