ปูพรมค้นบ้านคนดังทั่วนครปฐม 6 จุด โยงแก๊งฮั้วประมูลเครือข่าย ‘กำนันนก’ ทั้งสมาชิก อบจ.-เลขาฯนายกอบต. ‘ดีเอสไอ’ อายัดโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารเกี่ยวกับโครงการรับเหมาก่อสร้าง สมุดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปขยายผลเส้นทางการเงิน ‘สจ.เอดำ’ หนึ่งในเป้าหมายยอมรับรู้จักอดีตกำนันคนดังแต่ไม่ได้สนิทกัน ส่วนธุรกิจก่อสร้างเลิกกิจการไปตั้งแต่เข้าสู่เส้นทางการเมือง
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 17 พ.ย. ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีอเสไอ) นำทีมชุดสืบสวนกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล, กองบังคับการปราบปราม, เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบกลาง เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการฮั้วประมูลบริษัทของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก อดีตกำนันตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้ต้องหารายสำคัญเชื่อมโยงการเสียชีวิตของพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงก์ ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 1 กก.2 บก.ทล. จำนวน 6 จุด ในพื้นที่ จ.นครปฐม แบ่งเป็น อ.เมือง 4 จุด อ.กำแพงแสน 1 จุด และอ.สามพราน 1 จุด
โดยจุดสำคัญคือ บ้านของนายวิชาญ พรหมเอียด หรือสจ.เอดำ สมาชิกอบจ.นครปฐม เป็นบ้านพักภายในซอยวัดเกาะวังไทร อ.เมืองนครปฐม โดยนายวิชาญให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง อายัดโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารเกี่ยวกับโครงการรับเหมาก่อสร้าง สมุดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปขยายผลเส้นทางการเงิน
โยงกำนันนก – เจ้าหน้าที่ดีเอสไอลุยค้น 6 จุดทั่วเมืองนครปฐม หาหลักฐานเชื่อมโยงเครือข่ายกำนันนกคดีฮั้วประมูล หนึ่งในนั้นเป็นบ้านของนายวิชาญ พรหมเอียด หรือ สจ.เอดำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 17 พ.ย.
ร.ต.อ.วิษณุเผยว่า การเข้าค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการเข้าค้นเครือข่ายฮั้วประมูลกำนันนกครั้งที่แล้ว โดยขยายผลจากพยานบุคคล เส้นทางการเงิน หลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ และความสัมพันธ์ของบุคคลในเครือข่ายการจัดฮั้วประมูล และดีเอสไอมีข้อมูลในส่วนของผู้รับโครงการ ผู้จัดหางาน และคนกลาง ที่มีความเกี่ยวข้องกันชัดเจน ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ 19 โครงการจาก 2 บริษัทกำนันนก คือบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ จำกัด และ บริษัท ป.รวีกนก จำกัด ล่าสุดตำรวจกองบังคับการปราบปรามส่งข้อมูลโครงการการประมูลอีก 2 โครงการให้ดีเอสไอตรวจสอบ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ ทำให้คดีนี้มีตัวละครที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ต้องใช้เวลาตรวจสอบ
สำหรับความเชื่อมโยงระหว่าง นายวิชาญ และนายประวีณ ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหานายวิชาญ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ที่เข้าค้นวันนี้ ดีเอสไอเพียงเข้าค้นเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานนำไปประกอบสำนวนคดี หลักฐานทั้ง 6 จุด เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีทุกจุด และหลังจากนี้จะเชิญนายวิชาญพร้อมผู้เกี่ยวข้องทั้ง 6 พื้นที่เป้าหมายไปให้ข้อมูลที่ สภ.เมืองนครปฐม
ด้านนายวิชาญยอมรับว่า รู้จักกับกำนันนกจริง เพราะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น แต่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และงานเลี้ยงหรืองานวันเกิดของกำนันนกไม่เคยไป แม้ว่าเมื่อ 10 ปีก่อน เคยเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างใน จ.นครปฐม แต่เมื่อมาเล่นการเมืองท้องถิ่นไม่ได้ทำธุรกิจดังกล่าวแล้ว และการประมูลของบริษัทกำนันนกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็น เป็นเรื่องของบริษัทเอกชนที่จะสู้แข่งขันราคากัน ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ทำอะไรผิดหรือเกี่ยวข้องกับเครือข่ายกำนันนก และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเต็มที่
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ นายวิชาญ พรหมเอียด หรือสจ.เอดำ เมื่อปี 2559 เคยถูกเจ้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพัก พบอาวุธปืนจำนวนมาก จนถูกขึ้นบัญชีดำเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่การตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบเพียงปืนบีบีกัน 3 กระบอก ยังไม่เข้าข่ายความผิดในส่วนนี้ โดยเจ้าตัวอ้างว่านำมาใช้เพื่อไล่สัตว์ที่เข้ามาในบ้าน เพราะบ้านไม่มีรั้ว
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการตรวจค้นทั้ง 6 จุด ที่พบความสัมพันธ์กับเครือข่ายกำนันนก ประกอบด้วย อ.เมืองนครปฐม 4 จุด 1.บ้านพักของนายวิชาญ พรหมเอียด เลขที่ 4/117 ม.5 ต.สนามจันทร์ 2.บ้านพักของนายกรัณย์ชัย พฤฒิพานิช หรือเจี๊ยบ นครปฐม เลขที่ 398-400 ต.พระปฐมเจดีย์ 3.บ้านเลขที่ 83/2 ม.9 ต.หนองงูเหลือม 4.บ้านเลขที่ 7/7 ม.1 ต.ตาก้อง อ.สามพราน 1 จุด บ้านพักของนายเริงยุทธ์ เนียมเฟือง หรือยุทธ นครปฐม เลขที่ 55/5 ม.3 ต.ตลาดจินดา และ อ.กำแพงแสน 1 จุด บ้านพักของนายสุชาติ เคลียงาน หรือนายสุรชาติ คำจุ้ย เลขานุการนายกองค์อบต.ทุ่งขวาง เลขที่ 55/5 ม.5 ต.ทุ่งขวาง
