ให้ผู้ว่า-นายอำเภอ-กทม.ร่วมดูแลนายกฯย้ำไม่มีตั๋วแต่งตั้งผู้กำกับโพลหอการค้า-เชียร์แจกหมื่น

มหาดไทยตั้งศูนย์แก้หนี้สินทั่วประเทศ ให้ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ-กทม.รับผิดชอบดูแลดีเดย์ 1 ธ.ค.เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ‘เศรษฐา’ ตรวจราชการ จ.สระแก้ว 25 พ.ย.นี้ ชี้ออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านเข้าสภาหวังโปร่งใส-ชอบธรรม ย้ำต้องแจก 1 หมื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โพลหอการค้าเผยคนแห่หนุนเงินดิจิทัล นายกฯ ระบุว่าไปตามขั้นตอนหลังกมธ.ตำรวจเชิญชี้แจงตั๋วตั้งผู้กำกับ ด้านกมธ.ความมั่นคงฯ จ่อเชิญเข้าแจง 7 ธ.ค.เช่นกัน ‘วิโรจน์’ ลุยขุดบัญชีสมหวัง-แห้วโยงสส.คนไหน

‘เศรษฐา’ลั่นทวงคืนศักดิ์ศรีไทย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM หัวข้อ “FUTURE READY THAILAND เศรษฐกิจไทยในอนาคตแห่งความเปลี่ยนแปลง” โดยมี นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมงานด้วย

นายเศรษฐากล่าวว่า ในช่วงทศวรรษ ที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียโอกาสเยอะมากในเวทีโลก ไม่มีตัวตน ไม่มีความภาคภูมิใจ ศักยภาพในการทำมาค้าขายมีน้อยมาก ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาภายในประเทศ ที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาต้องจัดการปัญหาในเรื่องอื่นๆ ไปก่อน แต่รัฐบาลปัจจุบันจะเร่งคืนศักดิ์ศรีให้คนไทยในเวทีโลก ให้คนไทยหัวใจฟู สามารถสู้กับประเทศเพื่อนบ้านได้ ดึงนักลงทุนผ่านการทูตเชิงรุก

ที่ผ่านมาได้เดินทางไปหลายประเทศ เพื่อแนะนำตัวให้กับผู้นำประเทศทั่วโลก พยายามที่จะนัดพบ เชิญนักธุกิจ หาโอกาสการทำธุรกิจ เช่น พบกับบริษัท ไมโครซอฟท์ กูเกิ้ล แอมะซอน โดยออกไปเชื้อเชิญว่าไทยมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว เป็นรัฐบาลพลเรือน ที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน และมาตรการสนับสนุนการลงทุนที่ไม่ด้อยกว่าประเทศอื่น

การดึงองค์กรใหญ่ๆ เข้ามาในประเทศได้ จะต้องได้รับการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง ที่ผ่านมาได้หารือกับเอกอัครราชทูต และทูตพาณิชย์ทุกประเทศ สั่งการให้ทำการทูตเชิงรุก ต้องมีความรู้ในการไปขายจุดแข็งของประเทศ และรู้ความต้องการแต่ละประเทศ มองหาว่ามีเอกชนไหนใดแข็งแกร่ง ที่พร้อมลงทุนในประเทศไทย โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดใหม่ (KPI) มอบให้กระทรวงพาณิชย์ ทูตพาณิชย์ และเอกอัครราชทูต ต้องทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อเป็นโอกาสขยายการลงทุนในต่างประเทศ ขณะเดียวกันมีภาคเอกชนในประเทศใดบ้าง ที่อยากออกไปทำธุรกิจต่างประเทศก็ต้องสนับสนุน

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง จะพาเอกชนไปด้วยและมีการจัดเสวนาก่อน ไปล่วงหน้าให้บีโอไอ สถานทูต จัดพบปะนักลงทุนก่อน ยินดีให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการไปหาธุรกิจกลับเข้ามา รัฐบาลจะทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อม ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร








Advertisement

ย้ำศก.ไทยไม่ดี-ลุยแก้ปัญหาหนี้

“อย่างที่ทราบดี ปัจจุบันมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า เศรษฐกิจดีหรือไม่ดี และเป็นข้อถกเถียงระหว่างผมกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯ ธปท. แต่ผมมั่นใจว่าทุกคนเห็นด้วยว่าเศรษฐกิจไม่ดีในช่วงนี้ ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้เข้ามาช่วยลดค่าไฟ พักหนี้ เป็นเรื่องเร่งด่วน มีมาตรการดึง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ให้ฟรีวีซ่า แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะตัวเลขยังออกมาไม่ดี จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประะทศ”

ขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดี เวลา เดินทางมาไทยก็ต้องคิด จากช่วงโควิด สายการบินต่างๆ ลดเที่ยวบินลง เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น การเดินทางเข้ามาใหม่เครื่องบินก็ไม่พอ แต่ความต้องการเพิ่ม ราคาขึ้น ทำให้การใช้จ่ายนักท่องเที่ยวลดลง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลกว่าจำนวน นักท่องเที่ยว จึงต้องเชื้อเชิญให้เห็นว่าไทย เป็นประเทศที่คุ้มค่าที่สุดที่จะเข้ามา

ส่วนปัญหาหนี้สินของประชาชน ทั้งในระบบและนอกระบบ รัฐบาลกำหนดให้การแก้หนี้นอกระบบ เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะมีฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการคลัง ทำงานและแถลงร่วมกัน ขณะที่ปัญหาหนี้ในระบบ วันที่ 12 ธ.ค. จะมีแถลงการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และจะพยายามให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน

สำหรับการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร จะเร่งเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี ซึ่งไม่อยากให้เป็นแค่วาทกรรม สามารถทำได้จริง หลังจากวาระรัฐบาลนี้จบลง น้ำต้องไม่ท่วมไม่แล้ง คาดว่าประมาณกลาง ก.พ.2567 จะมีการแถลงใหญ่ มีขั้นตอนชัดเจน น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง เพิ่มรายได้ เช่น ปัญหาลักลอบการนำสินค้าเถื่อนเข้ามา หมู เนื้อ ยางพาราเถื่อน ต้องเอาตัวการใหญ่ออกมาให้ได้ นอกจากนี้ ต้องเพิ่มรายได้เกษตรกร ต้องดูแลครอบคลุมหลายพืชพรรณ

โยนสภาผ่านพรบ.กู้-ชอบธรรม

นายเศรษฐากล่าวว่า นโยบายหลักรัฐบาลยังเห็นว่าจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เป็นที่มาของดิจิทัล วอลเล็ต แม้ตอนแรกจะบอกว่าไม่ต้องกู้ แต่เมื่อรับฟังความเห็นจากส่วนต่างๆ ก็ต้องทำให้ถูกต้อง โปร่งใส ตามหลักนิติรัฐ สำหรับพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ถ้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นด้วย หมายถึงตัวแทนสส. ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชน ให้ความเห็นด้วย และกระบวนการทางกฎหมาย หากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นด้วย ก็ถูกกฎหมาย

เมื่อกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ถือว่ามีความชอบธรรม จึงเป็นกระบวนการที่ผ่านการตรวจสอบทุกภาคส่วน คอยให้ขั้นตอนดำเนินไป อาจจะช้าบ้าง แต่เป็นขั้นตอนที่ชอบธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้จากทุกภาคส่วน การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท อยากให้ผ่านทุกขั้นตอนแม้อาจล่าช้าไปบ้างแต่เป็นเรื่องโปร่งใสและตรวจสอบได้

ผู้สื่อข่าวถามว่านายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุยังไม่ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงการออก พ.ร.บ.กู้เงิน นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องถามนายจุลพันธ์ว่ามีขั้นตอนอย่างไร แต่ตนได้พูดคุยกับกฤษฎีกา ท่านบอกว่าให้ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งเป็นครั้งเดียวที่ได้พูดคุยกับกฤษฎีกา เมื่อถามว่าจะทำให้กรอบระยะเวลาล่าช้าออกไปหรือไม่ เพราะเดิมวางว่าจะเริ่มโครงการช่วงเดือน พ.ค.2567 นายเศรษฐากล่าวว่า คงอีกไม่กี่วันเดี๋ยวก็คงจะส่งแล้ว ยืนยันว่ายังอยู่ในไทม์ไลน์เดิม

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) นายเศรษฐาเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอ เรื่อง ประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก มีกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดย นายกฯ เห็นด้วยถึงเป้าหมายที่สำคัญของประเทศโดยเฉพาะเรื่อง 7C คือ Common Goal, Customer Centricity, Co-Creation, Cooperation, Connectivity, Care สุดท้าย ทัศนคติ “Can Do“

และอยากเห็นกระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงเกรดเอ ช่วยผลักดันและเอื้อให้การปฏิบัติหน้าที่ในเวทีโลกทำงานได้อย่างสมบูรณ์ และกำชับทูตไทย ทูตพาณิชย์ บีโอไอ ชูศักยภาพเศรษฐกิจไทยต่อนานาชาติ

วันเกิด – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เข้าอวยพรคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุ 67 ปี ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค กทม. วันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา

ย้ำไม่มีตั๋วพท.-‘อิ๊ง’ชิ่งแจง

นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเชิญไปชี้แจงในวันที่ 7 ธ.ค. กรณีพูดกับสส.ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย (พท.)เรื่องการขอตำแหน่งผู้กำกับ (ผกก.) ว่า ตนชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้มีการก้าวก่าย ถ้ามีการเรียกมาก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน

ส่วนกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) และอดีตผบ.ตร. ระบุสิ่งที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์เท่ากับเป็นใบเสร็จ และเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยนายกฯ นิ่งและยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนบอกว่า “ขอคำถามต่อไป”

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการที่สส.พรรคเพื่อไทยฝากเรื่องแต่งตั้งผู้กำกับ “นายกฯ ออกมาพูดแล้วนี่” ส่วนกรณีที่นายเศรษฐาเข้าอวยพรวันเกิดครบ 67 ปี คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “แวะไปแป๊บเดียว ไม่ถึง 5 นาที”

จากนั้น น.ส.แพทองธาร เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรม และคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสร็จแล้วเข้าพบนายเศรษฐา โดยมีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ เดินตามขึ้นไปในเวลาไล่เลี่ยกัน

ต่อมาเวลา 15.55 น. นายเศรษฐาออกมาสูดอากาศ จิบกาแฟอเมริกาโน่ หน้าตึกไทยคู่ฟ้าอย่างอารมณ์ดี เนื่องจากได้ประชุมหลายวงต่อเนื่อง โดยบอกกับคณะทำงานว่าขอสูดอากาศสักหน่อย รวมทั้งเสนอแนวคิดว่าช่วงใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวเป็นไปได้หรือไม่จะจัดกิจกรรมที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ในช่วงเทศกาลปีใหม่

โฆษกเพื่อไทยโดดป้อง

นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค เพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ เข้าร่วมประชุมสส.พรรคเพื่อไทยเป็นประจำ โดยที่ประชุมสส.ทุกครั้งแม้นายกฯ อยู่หรือไม่อยู่ จะมีการนำปัญหาในพื้นที่มาพูดคุยในที่ประชุม ว่าแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร เช่น เรื่องหนี้นอกระบบที่นายกฯ จะคิกออฟวันที่ 28 พ.ย. เรื่องนี้เกิดจากการประชุมสส.ที่มีการยกประเด็นขึ้นมา โดยสส.อีสานยกเรื่องหัวปิงปอง ที่เป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์เก็บดอกรายวันกับชาวบ้าน โดยต้นไม่ลด นายกฯ เลยถามอยากให้ทำอย่างไร จนมีการระดมความคิดให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่กับนายอำเภอเรียกเจ้าหนี้ลูกหนี้มาคุยกัน เพื่อไกล่เกลี่ยตามสิ่งที่ควรจะเป็น

เรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นทำนองเดียวกัน มีคนยกมือถามในที่ประชุมว่า ยาเสพติดเต็มเมือง พนันออนไลน์อาละวาดเยอะมาก มีการยกประเด็นกันว่าผู้กำกับในพื้นที่หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจรู้เห็นกับการกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้ นายกฯ รับเรื่องไปว่าจะส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าผู้กำกับหรือ เจ้าหน้าที่คนไหนเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมายบ้าง ถ้ามีให้ดำเนินการสอบสวนหรือโยกย้ายก็ว่ากันไป ซึ่งนายกฯ รับเรื่องนี้ไป ในการประชุมสส.วันที่ 21 พ.ย. ท่านกลับมาบอกว่า ส่งเรื่องไปหมดแล้ว ส่วนจะสมหวังหรือผิดหวังนั้นท่านไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เพราะนายกฯ มีอำนาจเพียงเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนเดียวเท่านั้นเอง สิ่งที่นายกฯ พูดมาไม่ใช่ตัวบุคคล เป็นเรื่องของเนื้อหา เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

กมธ.มั่นคงเรียก‘นิด’แจง7ธ.ค.

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ. มีมติเตรียมเชิญนายเศรษฐา เข้าชี้แจงเรื่องตั๋วตำรวจต่อ กมธ.ความมั่นคงฯ ในวันที่ 7 ธ.ค. โดยจะใช้เวลาในการทำหนังสือเทียบเชิญ 2 สัปดาห์ รวมทั้งเป็นการให้เวลาแก่นายกฯ ในการเตรียมตัวเพื่อตอบข้อซักถามต่อ กมธ.ความมั่นคงฯ ต่อไป หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ และเป็นโอกาสดีที่นายกฯ จะได้ใช้พื้นที่ กมธ. ในการอธิบายชี้แจงเรื่องดังกล่าว

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีนายเศรษฐาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับการ แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผู้กำกับว่า ชัดเจนว่านายกฯพูดถึงการแก้หนี้นอกระบบและมีการพูดถึงนายอำเภอ ผู้การจังหวัด เมื่อเปิดสมัยประชุมฝ่ายค้านต้องกระทู้ถามเรื่องนี้ว่า ที่นายกฯบอกคนขอมาเยอะเหลือเกินคือใคร ท่านพูดอีกว่ามีคนผิดหวังมากกว่าสมหวัง แต่สมหวัง ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย แสดงว่ามีการฝากกันจริง ต้องยอมรับกันตรงๆ อย่าบิดพลิ้วเลย ท่านหลุดปากพูดแล้วมาอีกวันก็มาแก้ตัว

“ยอมรับสภาพเถอะ วันก่อนหน้าเป็นการสารภาพของคนเป็นนายกฯ แล้วที่เคยพูดหาเสียงว่าจะขจัดสังคมเส้นสาย พูดไว้เสียงเข้ม แต่หลังหลังหาเสียงก็ลืมหมดแล้ว ตกลงเศรษฐาที่ประชุมพรรคเพื่อไทย กับเศรษฐาที่มาพูดอีกวันคือคนเดียวกันหรือเปล่า ก่อนเปิดสมัยประชุมคงใช้การทำงานของกมธ.จัดการก่อน เปิดสมัยประชุมนายกฯต้องมาชี้แจง ไม่ใช่วันรุ่งขึ้นมาบอกว่าไม่ได้หมายความแบบนั้น อยากเอายาไปทาสีข้างให้ คงอักเสบพอสมควร” นายวิโรจน์ กล่าว

‘วิโรจน์’ขุดบัญชีสมหวัง-แห้ว

จริงๆ ไม่ได้ยากเกินวิสัย เพราะผู้กำกับมีการโยกย้าย มีใหม่อยู่จำนวนหนึ่ง ตนจะไปหาทางโยงว่าผู้กำกับที่เพิ่งได้รับการ แต่งตั้งจาก พ.ต.ท. เป็น พ.ต.อ. และเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้กำกับใหม่ เป็นใคร อยู่ในจังหวัดไหน สถานีตำรวจใด มี เครือข่ายความสัมพันธ์โยงใย เครือข่าย กับสส.คนไหน แล้วค่อยไปถามนายกฯเรียงคนว่า คนนี้อยู่ในบัญชีฝากหรือไม่ สมหวังหรือผิดหวัง

เมื่อถามว่าจากคำพูดของนายกฯในที่ประชุมสส. ตามกฎหมายดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายวิโรจน์ กล่าวว่า จริงๆ ความผิดต่อสังคมเกิดขึ้นแล้ว แต่ต้องหาหลักฐานเพิ่ม เพราะการสารภาพของผู้ต้องหายังไม่ใช่หลักฐาน แต่เดี๋ยวก็รู้เพราะผู้กำกับใหม่มีไม่กี่คน โดยเฉพาะพื้นที่สส.เพื่อไทยชนะ หาชื่อนามสกุลก็รู้แล้วว่าคนไหนอยู่บัญชีสมหวังหรือบัญชีแห้ว เข้าใจว่าท่านอยู่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์บางรายจะรู้สึกว่าการติดสินบน การฝาก การใช้เส้นสายเป็นเรื่องปกติ แต่หวังว่า นายกฯที่ยืนยันตัวเองว่าอยากยืนอยู่ในสังคมที่ถูกต้องและทำธุรกิจมาอย่างถูกต้องตลอดจะไม่มีพฤติกรรม เช่นนี้

มท.เปิดลงทะเบียนแก้หนี้1ธ.ค.

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ได้สั่งการไปยังผู้ว่าฯ และนายอำเภอเร่งตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ” ให้แล้วเสร็จ และให้ประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้นอกระบบที่ประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ หรือให้ทางราชการแก้ไขปัญหา ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2566 เป็นต้นไป

โดยลงทะเบียนด้วยตนเองที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th หรือในส่วนภูมิภาค ณ ที่ว่าการอำเภอ หากอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ลงทะเบียนที่สำนักงานเขตทุกแห่ง หรือผ่านช่องทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากประสบปัญหาถูกข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ขอรับความช่วยเหลือได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง หรือสำนักงานเขตทุกเขต หรือโทร.สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567

โพลเผยคนแห่หนุนเงินดิจิทัล

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผช.ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจ “ทัศนคติประชาชนเกี่ยวกับนโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต” ว่า คนส่วนใหญ่ 77.3% เห็นด้วย ส่วนอีก 22.7% ไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ คนที่มีสิทธิ์ตามเงื่อนไขส่วนใหญ่ 71.6% พร้อมลงทะเบียน แต่อีก 28.4% จะไม่ลงทะเบียน โดยกลุ่มไม่ลงทะเบียนให้เหตุผลว่า ไม่สะดวกกับการใช้ในพื้นที่ตามทะเบียนบ้าน, ไม่อยากใช้เงินกู้เพราะจะทำให้เป็นหนี้กับลูกหลาน, เงินส่วนใหญ่จะกลับไปสู่ผู้ประกอบการรายใหญ่ และกังวลข้อมูลรั่วไหลเป็นต้น

ส่วนการออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินมาใช้ในมาตรการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทนั้น คนส่วนใหญ่ 50.6% ไม่เห็นด้วย และอีก 49.4% เห็นด้วย โดยคนที่เห็นด้วยมองว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยคนมีรายได้น้อยและช่วยเพิ่มกำลังซื้อ ส่วนคนไม่เห็นด้วยมองว่าจะเป็นหนี้ระยะยาว เป็นภาระให้คนรุ่นหลัง และมีการคอร์รัปชั่นได้ง่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน