เปิดเซฟ‘ตู่’รวย130ล้านป้อมแค่89-นาฬิกา1เรือนเศรษฐาคิวงานตจว.แน่น

ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 2 ลุงพ้นตำแหน่ง ‘บิ๊กตู่’ นายกฯ9 ปี รวย 130 ล้าน ไม่มีหนี้สิน ‘บิ๊กป้อม’ แจ้งสถานะโสด มี 89 ล้าน หนี้ 757 บาท นาฬิกามีแค่เรือนเดียว ‘ทีดับเบิลยู สตีล’ ผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ช.เผยไม่หนักใจสอบ นายกฯ ปมตั๋วผกก. ชี้หากองค์ประกอบครบผิดทั้งผู้ขอ-ผู้ให้ ‘ภูมิธรรม’ ซัดฝ่ายค้านจ้องซักฟอก ทำรัฐบาลเสียเวลาแก้ปัญหาประชาชน ‘โรม’ ถามหาสปิริตนายกฯ ‘เสี่ยอ้วน’ ขอโทษเลขาฯ กฤษฎีกา ทำทัวร์ลงปมแจก 1 หมื่น ‘ปานปรีย์’ ลั่นเงินเดือนขรก.ขึ้นแน่ รอฟังครม. 28 พ.ย.นี้ นายกฯ ออนทัวร์ ‘เหนือ-อีสาน-ใต้’ แน่นเอี้ยด

ป.ป.ช.เปิดเซฟ-‘บิ๊กตู่’รวย 130 ล.

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กรณีพ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 และรัฐมนตรีที่เข้ารับตำแหน่งในรัฐบาลปัจจุบัน รวม 18 คนที่น่าสนใจ อาทิ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนาง นราพร คู่สมรสมีทรัพย์สินรวม 130,191,162 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ 98,663,683 บาท เป็นเงินฝากในบัญชี พล.อ.ประยุทธ์ 7 บัญชี 13,773,881 บาท เงินลงทุน 64,102,742 บาท ส่วนหนึ่งเป็นเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา มีที่ดินมรดก 2 แปลง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รวมมูลค่า 3,256,060 บาท บ้านที่ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับภรรยารวม 3.6 ล้าน รถยนต์ 4 คัน มูลค่ากว่า 10 ล้าน นาฬิกา 9 เรือน 3 ล้านบาท อาวุธปืน 9 กระบอก มีรายได้ต่อปี 2,849,888 บาท โดยเป็นเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 1,507,080 บาท มีรายจ่ายต่อปี 2,263,814 บาท

ส่วนนางนราพรมีทรัพย์สินรวม 31,527,479 บาท เงินฝาก 5 บัญชี 10,415,479 บาท ที่ดิน 4 แปลง ที่จ.เชียงใหม่ กรุงเทพฯ นครราชสีมา มีชุดเครื่องประดับแหวน ต่างหูและสร้อย 25 ชุดมูลค่า 10,820,000 บาท มีรายได้ต่อปี 453,351 บาท รายจ่ายต่อปีรวม 400,000 บาท

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ และนางนราพร เคยแจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อ 4 ก.ย.2557 ตอน พล.อ.ประยุทธ์ รับตำแหน่ง มีทรัพย์สินรวม 128,664,535 บาท หนี้สินรวม 654,745 บาท ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน หลังเป็นนายกฯ ยาว 9 ปี

‘บิ๊กป้อม’ 89 ล.-นาฬิกาหรู1เรือน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ระบุสถานะโสด มีทรัพย์สินรวม 89,214,637 บาท หนี้สินเงินเบิกเกินบัญชี 757.26 บาท ในส่วนทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 9 บัญชี 43,505,397 บาท ที่ดิน 3 แปลง 17 ล้านบาท รวมถึง ที่ดินเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ รวม 10 ล้านบาท บ้านในเขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10 ล้านบาท รถยนต์ 5 คัน 13.6 ล้านบาท รวมถึง Lexus 2 คัน, Jaguar, Mercedes Benz และ Volkswagen แหวน 9 วง นาฬิกา TW STEEL 1 เรือน มูลค่า 15,000 บาท ปืน 3 กระบอก มีรายได้ต่อปีรวม 2,348,316 บาท เป็นเงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ เงินช่วยค่าครองชีพ เงินเดือนรองนายกฯ เงินประจำตำแหน่ง 546,000 บาท และไม่แจ้งมีค่าใช้จ่ายต่อปี

นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ พร้อมภรรยามีทรัพย์สินรวม 137,061,019 บาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตรมว.คลัง กรณีพ้นตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 25,801,551 บาท เป็นทรัพย์สินของนายอาคม 17,541,002 บาท เป็นทรัพย์สินของคู่สมรส 8,260,549 บาท โดยนายอาคมมีหนี้สินทั้งสิ้น 2,802,320 บาท

นายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อม คู่สมรสมีทรัพย์สิน 209,119,351 บาท หนี้สิน 228,885 บาท

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตรมช.กลาโหม มีทรัพย์สินรวม 23,574,290 บาท สะสมพระบูชา พระเครื่อง ของขลัง ทองคำแท่ง 75 บาท มูลค่า 1,406,250 บาท

‘พิพัฒน์’อู้ฟู่ 1.5 พันล้าน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กรณีพ้นตำแหน่งรองประธานกรรมการการกีฬาฯ 1 ก.ย.2566 พร้อมนางนาที คู่สมรส มีทรัพย์สิน 1,572,623,591 บาท หนี้สิน 2,484,915 บาท สะสมพระเครื่องชื่อดัง 61 รายการ อาทิ สมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย พระนางพญา พระหลวงปู่ทวดหลายองค์ และปืน 5 กระบอก นางนาที มีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 9 หลัง มูลค่า 60,213,376 บาท ในจำนวนนี้เป็นอาคาร 3 ชั้นที่ Westow Hill England มูลค่า 23,744,000 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 34 ใบ มีทั้งยี่ห้อ Louis Vuitton Gucci Prada Chanel Hermes

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรมช.คมนาคม พร้อมนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกอบจ.นครราชสีมา คู่สมรส มีทรัพย์สิน 574,263,202 บาท เป็นเงินให้กู้ยืม 10 สัญญา

นายประภัตร โพธสุธน พ้นรมช.เกษตรและสหกรณ์ มีทรัพย์สิน 85,973,286 บาท ไม่มีหนี้สิน

นายนริศ ขำนุรักษ์ พ้นรมช.มหาดไทย คู่สมรสและบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 21,135,506 บาท

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช พ้นรมช.ศึกษาธิการ พร้อมคู่สมรส มีทรัพย์สิน 2,620,440,398 บาท หนี้สิน 148,368 บาท

ส่วนรัฐมนตรีที่เข้ารับตำแหน่ง เช่น นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รับตำแหน่งรมช.คลัง 5 ก.ย.2566 หลังลาออกจากปลัดกระทรวงการคลัง สถานะหย่าร้าง มีบุตร 4 คน มีทรัพย์สิน 73,458,483 บาท หนี้สิน 79,064 บาท

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รับตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม 5 ก.ย.2566 พร้อมนางระเบียบรัตน์ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 63,361,757 บาท

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เข้ารับตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ 5 ก.ย.2566 มีทรัพย์สินทั้งสิน 79,847,966 บาท หนี้สิน 268,961 บาท

‘ป๊อก’ยื่นแล้ว-รอเช็กเทคนิค

นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ ครม.นายเศรษฐา ทวีสินว่า ขณะนี้ครม.บางส่วนยื่นบัญชีทรัพย์สินเข้ามาตามกำหนด และตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว แต่มีบางส่วนขอขยายเวลายื่นออกไป 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 4 ธ.ค.นี้ อาทิ นายเศรษฐา เป็นต้น ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ บางส่วนยื่นมาตามกำหนด และตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว แต่หากคนไหนยังยื่นไม่ครบต้องยื่นขอขยายระยะเวลา ขณะที่ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต รมว.มหาดไทย ยื่นแสดงบัญชีมาแล้ว แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบทางเทคนิคซึ่งเป็นขั้นตอนปกติ

ผู้สื่อข่าวถามกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบพฤติการณ์การใช้อำนาจของนายเศรษฐา กรณีพูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา หลุดปากลักษณะมีการฝากตำแหน่งผู้กำกับ (ผกก.) ว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบ โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏตามสื่อว่า เข้าเงื่อนไขความผิดตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรามีกรอบเวลาดำเนินการอยู่ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สาธารณะให้ความสนใจจะจัดลำดับขึ้นมาดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่าคลิปที่นายกฯพูดในที่ประชุม สส.สามารถนำมาประกอบการพิจารณาได้หรือไม่ นายภูเทพกล่าวว่า ต้องรวบรวม ทั้งที่ปรากฏตามสื่อ ผู้หวังดีส่งให้ หรือข้อมูลนายศรีสุวรรณส่งมาให้ วันนี้จะนำมาประกอบทั้งหมด แต่อยู่ ภายใต้การดำเนินการของ ป.ป.ช. และเราสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

ไม่หนักใจสอบนายกฯหลุดตั๋วพท.

สำหรับบทลงโทษสูงสุด กรณี สส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ นายภูเทพกล่าวว่า มี 2 ส่วน ถ้าเป็นเรื่องฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมร้ายแรงจะเป็นการพ้นจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิ์ แต่ถ้าเป็นเรื่องการแทรกแซงข้าราชการฝ่ายประจำที่มีการแต่งตั้งถือว่าเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขใด

ต่อข้อถามว่าตามกฎหมายผิดทั้งคนขอและคนให้ใช่หรือไม่ นายภูเทพกล่าวว่า ถ้าครบเงื่อนไขทั้งหมด ผู้สื่อข่าวถามว่าอะไรจะเป็นพยานหลักฐานที่บ่งชี้ความผิดได้ นายภูเทพกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่ต้องดำเนินการว่าเรื่องที่ปรากฏออกมาตามสื่อมีที่มาที่ไปอย่างไร ต้องสอบสวนย้อนไป และขอข้อมูลไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เรื่องการแต่งตั้งระดับผู้กำกับได้ ต้องหาข้อเท็จจริงทั้งหมด 360 องศา ไม่ได้รับฟังแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อถามว่า ป.ป.ช.หนักใจหรือไม่ที่ต้องสอบนายกฯ นายภูเทพกล่าวว่า เป็นงานประจำของป.ป.ช.อยู่แล้ว ทำมาตั้งแต่ปี 2542 ตรวจสอบนายกฯ มาตั้งหลายคน รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ

‘ภูมิธรรม’ซัดฝ่ายค้านขยี้ตั๋วพท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุถึงการแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับ ในที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย ว่า สาระสำคัญไม่ได้เป็นเรื่องอย่างที่มีข่าวและวิพากษ์วิจารณ์ ประเด็นสำคัญที่พูดคือจะเอาตำรวจกับนายอำเภอ สองหน่วยงานมาร่วมกันทำงาน เพราะรู้หมดว่าในอำเภอมีคนที่ดูแลเรื่องหนี้นอกระบบอย่างไร นายกฯพูดถึงผู้กำกับการแต่ละที่ รวมทั้งนายอำเภอต้องเป็นกำลังหลักดำเนินการ การพูดในที่ประชุมสส.พรรค หัวใจสำคัญทั้งหมดอยู่ตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีการฝากตำรวจ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มี โดยอำนาจหน้าที่ทำไม่ได้ กฎหมายระบุไว้ชัดเจน ประเด็นที่คุยคือถ้าไม่มีคนที่ทำงานเข้าขากันก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่ง 28 พ.ย.นี้จะประกาศอย่างชัดเจน จะดีเดย์ เรื่องหนี้นอกระบบและมีวอร์รูม ติดตามทุกเขตอำเภอว่าสามารถทำงานประสบความสำเร็จแค่ไหน ผู้สื่อข่าวถามว่าหากฝ่ายค้านหยิบไปอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ รัฐบาลจะชี้แจงได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีปัญหา แต่มั่นใจหรือไม่ว่าเรื่องนี้มีประเด็นข้อเท็จจริงที่จะทำได้ อยากให้ ฝ่ายค้านทำงานบนพื้นฐานที่เข้าใจกันและแก้ไขปัญหาตามที่กฎหมายมี อย่าทำให้ เสียเวลาประชาชนในการแก้ปัญหา

ต่อข้อถามว่าจะเตือนนายกฯ เรื่องที่พูดตรงเพราะจะทำให้เกิดผลเสียตามมา หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ต้องเตือน นายกฯ เพราะไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น เมื่อฟังแล้วเข้าใจว่านายกฯอยากให้กระชับและอยากให้สส.ติดตามดูการแก้ทำงานปัญหาในพื้นที่ ผู้กำกับและนายอำเภอ ทำงานได้ดีมากน้อยแค่ไหน แม้จะได้ผู้กำกับใน พื้นที่แล้วแฮปปี้หรือไม่แฮปปี้ก็ตาม ความหมายคืออาจสมหวังหรือไม่สมหวังไม่ได้หมายความว่าต้องมาฝาก บางคนเจอผู้ว่าฯและผู้กำกับที่ทำงานด้วยดีก็สบายใจและสมหวัง แต่บางคนเจอคนที่ทำงานแล้วไม่สอดคล้องกัน อาจไม่สมหวัง สาระสำคัญของการพูดอยู่ตรงนั้น

‘โรม’ยันตั๋วการเมืองมีแน่

ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ แถลง Policy Watch ประเด็น “หยุดระบบตั๋วและปฏิรูปตำรวจไทย” ว่า ปัญหาตั๋วที่เกิดขึ้นยาวนาน ปัญหาที่เป็นต้นตอไม่ว่าจะการซื้อขายตำแหน่ง การใช้เส้นสาย เมื่อนายกฯ พูดออกมาอย่างชัดเจนในที่ประชุมพรรค นายเศรษฐาเคยกล่าวหาเสียงว่าระบบเส้นสายต้องถูกจัดการ แต่วันนี้พูดได้อย่างหน้าชื่นตาบาน พูดอย่างเป็นธรรมชาติเกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์ นี่คือเรื่องใหญ่ที่แสดงให้เห็นว่าระบบอุปถัมภ์ในองค์กรตำรวจไม่ได้หมดไป และออกมาจากปากของนายกฯ โดยไม่รู้สึกผิด คำชี้เแจงหรือคำอธิบายก็ไม่ได้สะท้อนถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี คนที่มีอำนาจอย่างนายกฯ ควรแก้ปัญหา ไม่ใช่เข้าร่วมกับปัญหา

นี่คือโอกาสที่จะพูดเรื่องนี้และปักหมุดทางความคิดด้วยกระดุมทั้ง 5 เม็ด ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจใน 5 ข้อ คือ เลือกผบ.ตร.จากความสามารถ กระจายอำนาจของตำรวจเพื่อให้จังหวัดและประชาชนเข้ามามีบทบาท นายกฯต้องไม่ทำให้ตำรวจหิว ต้องทำให้ตำรวจระดับล่างมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขั้นต่ำที่สุดคือการมีอุปกรณ์ที่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลต้องส่งเสริมให้ตำรวจชั้นประทวนมีการเติบโตที่มากขึ้น และรัฐบาลต้องเลิกให้ตำรวจทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น

ถ้าฟังจากนายเศรษฐาทั้งหมด ที่ตอนนี้ใช้วิธีเงียบ ขณะนี้ข้อมูลที่ตนได้รับค่อนข้างยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ตั๋วการเมือง’ มีแน่ เดี๋ยวคงจะได้เห็นกันว่ามีมากน้อยแค่ไหนหลังโผออกมา แต่ถ้าตอบคำถามว่า ‘ตั๋วเพื่อไทย’ จะเป็นไซซ์ไหน ขอจัดตั๋วเอาไว้ 5 ประเภท คือ ตั๋วช้าง, ตั๋วสร.1 หรือตั๋วนายกฯ, ตั๋วผบ.ตร., ตั๋วนาย และตั๋วอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถจัดประเภทชัดเจนได้ ประเด็นคือ ตั๋วสร.1 มากแค่ไหน ก็เกือบจะที่สุด เนื่องจากโดยมากแล้วเป็นสิ่งที่ถ้าขอก็มักจะได้ ขึ้นอยู่ว่า สร.1 จะเอาแค่ไหน ตนไม่รู้ว่าตั๋วเพื่อไทยรอบนี้นายกฯทำแบบไหน คงต้องติดตามกันในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะเชิญนายกฯ เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงฯ

ถามหาสปิริตนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการแสดงท่าทีต่อความรับผิดชอบของนายกฯ ควรมีมาตรฐานอย่างไรบ้าง บางฝ่ายเรียกร้องให้ลาออก นายรังสิมันต์กล่าวว่า คำพูดของนายกฯ ชัดเจนว่าหมายถึงเรื่องตั๋ว และตัวเองเกี่ยวข้องกับการฝากตั๋ว โดยที่อาจมาจาก สส.พรรค แบ่งได้ 2 ทาง คือ 1.คำพูดของนายกฯ น่าเชื่อถือ นายกฯ คงจะรู้ว่าใครสมหวัง หรือไม่สมหวังจึงพูดได้ และหากเป็นเช่นนั้นจริงคงเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

2.ถ้านายกฯประกาศต่อสังคมว่าโกหก ต้องการแค่อวดรู้ พูดส่งเดชไปอย่างนั้น อาจเอาผิดนายกฯไม่ได้ ถ้านายกฯบอกว่า ผมเป็นคนน่าเชื่อถือ พูดอะไรมา ต้องมี ข้อเท็จจริงก่อน มีสติสัมปชัญญะ เราไม่ได้มีคนวิกลจริตเป็นนายกฯ นายกฯก็ต้องรับผิดชอบ เพราะคำพูดนายกฯคือหลักฐานที่มัดตัวนายกฯ ซึ่งแน่นอนว่าต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ความผิดที่ชัดเจนแบบนี้ถ้าเป็นปกติของประเทศที่มีอารยะ เจออะไรที่เป็นความผิดมาก นายกฯ จะมีความรับผิดชอบทางการเมืองบางประเทศก็อาจลาออก ผิดกฎหมายหรือเปล่าไม่รู้ แต่กรณีนี้หนักที่เป็นกรณีระบบอุปถัมภ์ ขัดแย้งต่อสิ่งที่นายกฯ หาเสียง แล้วผิดกฎหมายด้วย คำถามคือ นายกฯ ยังมีสปิริต แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองที่จะลาออกไหม เป็นเรื่องของนายกฯ ที่ต้องตัดสินใจ

ผบ.ตร.ยันไม่มีตั๋วนายก-สส.

ทางด้านพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก.-สว.ที่มีกระแสข่าวว่ามีตั๋วจากนักการเมือง ว่า เป็นกระแสข่าวที่อยู่ในสังคม แต่ไม่ได้เกี่ยว ตั้งแต่ตนยืนอยู่ในตำแหน่งตรงนี้ ยังไม่มีใครเอาตั๋วมา นายกรัฐมนตรีไม่เคยโทรมา ไม่มียืนยัน ไม่มีสส.ไหนมาทั้งนั้น ตนเดินสายการเมืองมาหรือเปล่า เขาก็รู้ว่าขอตนไม่ได้ ไม่มีแน่นอน ให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ เดี๋ยวผลออกมาก็จะรู้ว่าตำแหน่งพวกนี้เป็นการเมืองหรือไม่ เพราะว่ากรอบของนายพล ตนตั้งหลักกรอบไว้ให้แล้ว ได้กำชับกับผู้บัญชาการไปแล้วว่าในระดับนายพลตนทำกรอบไว้ให้แล้ว ให้เป็นไปตามกฎหมายบังคับ ทำอะไรไม่ได้ กระแสมันไปแบบนั้น ยืนยันเสร็จตามกรอบเวลาภายในสิ้นเดือนนี้แน่นอน

‘อ้วน’เผยเปิดช่องให้สภาแก้ปมรธน.

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานความคืบหน้าหลายประเด็น ทั้งในส่วนของคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น ที่ดำเนินการไปพอสมควรแล้ว เหลือการรับฟังความเห็นอีก 2 ภาค คือ ภาคเหนือ ที่จ.เชียงใหม่ จากกลุ่มชาติพันธุ์และภาคใต้ ที่จ.สงขลา ที่จะรับฟังความเห็นจากชาวใต้และชาวมุสลิม และต้องรอเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อสอบถามความเห็นจากสว.และสส. เมื่อรับฟังหมดแล้วถือว่าครบถ้วน จากนั้นอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น จะทำข้อสรุปและบันทึกความเห็นที่แตกต่าง เพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ และที่ประชุมครม.เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ

ขณะที่คณะอนุกรรมการศึกษา แนวทางการทำประชามติ ยังมีความเห็นแตกต่างในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 มีการนำข้อกฎหมายต่างๆ มาพิจารณาเพื่อดูว่าจะจัดทำประชามติอย่างไร และมีวิธีการดำเนินการอย่างไร เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามที่ประชาชนอยากเห็นมากที่สุด และเป็นเครื่องมือไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ทันสมัยขึ้น

ที่ประชุมเห็นควรให้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อมาให้ความชัดเจนในข้อกฎหมายอีกครั้ง และทำให้การตัดสินใจของคณะกรรมการเกิดความชัดเจน นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีข้อเสนอว่าควรให้สภาผู้แทนราษฎร มีความเห็นเพื่อเสนอให้ประธานรัฐสภา เป็นผู้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากเกิดกรณีที่มีความเห็นขัดแย้งกัน โดยมอบหมายให้ตัวแทนพรรคการเมืองที่อยู่ในคณะกรรมการไปปรึกษาหารือกันในพรรคของตัวเอง โดยทั้งหมดนี้จะนำไปประมวลผลและคาดว่าคณะกรรมการชุดใหญ่จะมีข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้

ขอโทษกฤษฎีกาทำทัวร์ลง

นายภูมิธรรม กล่าวกรณีนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการะบุโดนด่าอยู่คนเดียวว่าทำงานล่าช้าจากกรณีการออกพ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท โดยที่กระทรวงการคลังยังไม่ส่งเรื่องมาสอบถามว่า ต้องขอโทษคณะกรรมการกฤษฎีกาที่การให้สัมภาษณ์ของตนทำให้เกิดความไม่เข้าใจและกระทบการทำงาน เป็นไปตามที่นายปกรณ์พูด ตนพูดว่าในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่กฤษฎีกานั่งอยู่ด้วย สาระสำคัญที่ตนตอบวันนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้คัดค้าน เพียงแต่บอกว่าถ้ายังมีความไม่ชัดเจนหรือความไม่สบายใจต้องรับผิดชอบร่วมกัน และกฤษฎีกาอาสาไปดูข้อกฎหมายว่ามีอะไรที่ผิดหรือไม่ผิด ที่ประชุมก็เห็นด้วยที่ให้กฤษฎีกาไปดู ที่ตนให้สัมภาษณ์หมายความว่าให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปดู และรับทราบแล้ว

“ผมไม่ได้หมายความไปถึงเรื่องเอกสารรายละเอียด จึงต้องขอโทษที่ทำให้ทัวร์ไปลงท่าน จริงๆ ท่านๆปรารถนาดีจะช่วยเราคิด ช่วยเราทำ และอยากให้ทุกคนสบายใจในการตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้ เสียงที่คัดค้านหรือเห็นต่างก็พยายามทำให้ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้เกิดความสบายใจ” นายภูมิธรรมกล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวก่อนเดินทางเข้าพบนายเศรษฐาที่ทำเนียบรัฐบาลถึงความคืบหน้าการส่งร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทไปถึงกฤษฎีกา เพื่อตีความทางกฎหมายว่า ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวยังอยู่กับกระทรวงการคลัง คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเกิดความชัดเจน

‘นิด’ลอยกระทงสุโขทัย-เชียงใหม่

วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวีตข้อความผ่าน X ว่า “สภาหอการค้าไทยเข้ามาเสนอแนวทางในการยกระดับการท่องเที่ยวไทย โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าร่วมรับฟังด้วย ตรงนี้ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก ทั้งภาคธุรกิจโรงแรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งวัฒนธรรม และอื่นๆ ซึ่งตนจะเปิดโปรเจ็กต์ใหม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองรองช่วงต้นปีหน้า ฝากติดตามกันด้วยนะครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอด 2 สัปดาห์นี้ นายเศรษฐามีภารกิจต่อเนื่อง เริ่มจากวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามความคืบหน้าพื้นที่ก่อสร้างอาคาร CIQ ของกรมศุลกากร, ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว

ช่วงเช้าวันที่ 27 พ.ย. ลงพื้นที่ด่านสะเดา จ.สงขลา และด่านบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซีย พบกับนายกฯมาเลเซีย ซึ่งมีการหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก และฟังรายงานความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย สถานการณ์การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดน นายกฯทั้งสองประเทศยังจะมอบนโยบาย และสำรวจจุดเชื่อมถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับ ด่านบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซีย

ช่วงเย็นวันที่ 27 พ.ย. นายเศรษฐาลง พื้นที่ตรวจราชการ และติดตามโครงการป้องกันอุทกภัย จ.สุโขทัย และร่วมพิธีเผาเทียน ชมการแสดง แสง เสียง ร่วมพิธีลอยพระประทีปพระราชทาน และชมการแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ย. นายกฯเป็นประธานการประชุมครม. ที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงค่ำไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ ร่วมพิธีลอยกระทงและชมการประกวดขบวนกระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทาน ที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 29 พ.ย.

ครม.สัญจรหนองบัวลำภู

วันที่ 30 พ.ย. นายเศรษฐาไปเยี่ยมชมโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของจังหวัด เช่น โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค, โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ เป็นต้น ณ ที่ว่าการอำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์

วันที่ 1 ธ.ค. นายเศรษฐาเยี่ยมชมโรงหล่อพระบูรณะไทย ที่จ.พิษณุโลก แล้วขึ้นเครื่องบินไปยังสนามบินนานาชาติ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นประธานเปิดศูนย์บริการด้านการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต

วันที่ 3 ธ.ค. ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานี และจ.หนองบัวลำภู

ส่วนช่วงเช้าวันที่ 4 ธ.ค. เป็นประธานการประชุมครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.หนองบัวลำภู จากนั้นนายกฯ พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่อ.ศรีบุญเรือง เพื่อรับฟังและติดตามปัญหาความยากจน

วันที่ 6 ธ.ค. นายเศรษฐาลาราชการ เพื่อเข้าร่วมประชุมสัมมนากับพรรคเพื่อไทย ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และพักค้างคืนด้วย จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 7 ธ.ค.ร่วมประชุมสัมมนากับพรรคเพื่อไทยเป็นวันที่สอง และช่วงบ่ายเดินทางกลับกทม.

ช่วงเช้าวันที่ 9 ธ.ค. นายกฯเดินทางไปจ.กาญจนบุรี เพื่อดูเส้นทางมอเตอร์เวย์, ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และการสร้างอุโมงค์ผันน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง

ทำเนียบพร้อม-นายกฯ นอนค้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายเศรษฐา มีดำริว่าจะนอนพักค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลหลังช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ล่าสุดกองสถานที่ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัย ทำเนียบรัฐบาล ได้นำเตียงนอนขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์เครื่องนอนเข้าไปจัดเตรียมห้องพักรับรองบนตึกไทยคู่ฟ้าไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในส่วนของระบบน้ำทางบริษัทเอกชนได้เข้ามาดำเนินการแล้วเช่นกัน จึงคาดว่านายกฯ จะเข้าพักค้างคืนได้ตามที่แสดงเจตจำนงไว้

นอกจากนี้ กองสถานที่ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัย ทำเนียบรัฐบาล ได้อัญเชิญรูปปั้นองค์นรสิงห์จำลอง ที่ตั้งสักการบูชาอยู่บริเวณระเบียงด้านหน้าชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ไปตั้งบูชาไว้ที่ชั้น 3 ตึกพระอาทิตย์ (แสงอาทิตย์) ซึ่งติดกับตึกนารีสโมสร โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล ซึ่งการอัญเชิญองค์นรสิงห์จำลองดังกล่าวได้ดำเนินการแบบเงียบๆ มาเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับองค์นรสิงห์จำลอง รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ตั้งแต่ต้นปี 2564 ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย โดยเฉพาะเชื้อโควิด-19 ที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกเป็นจำนวนมาก โดยองค์นรสิงห์จำลองดังกล่าวมีศิลปินที่เคารพนับถือพล.อ.ประยุทธ์ ให้โรงหล่อจัดทำขึ้นและนำมามอบให้เพื่อสักการบูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่บนตึกไทยคู่ฟ้าจะนำพวงมาลัยมาถวายทุกวัน

ส่วนองค์นรสิงห์ซึ่งเป็นของต้นตระกูลพึ่งบุญ ณ อยุธยา นั้น ปัจจุบันอยู่ในการดูแลเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ตำนานบ้านนรสิงห์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน