เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2565 เว็บไซต์ราชกิจจา นุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระเทพมหาเจติยาจารย์ เป็น พระธรรมวชิรเจติยาจารย์ สุวิธาน ศาสนกิจโกศล โสภณปริยัติดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นธรรมสถิต ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม มีฐานานุศักดิ์ ตั้งฐานานุกรมได้ 6 รูป

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2566 ประกาศ ณ วันที่ 28 มิ.ย.2566

“พระธรรมวชิรเจติยาจารย์” (ชัยวัฒน์ ปัญญาสิริ) พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นพระสังฆาธิการที่มีศีลาจารวัตรและวัตรปฏิบัติอันงดงาม ที่ชาวนครปฐมเคารพและศรัทธา

ปัจจุบัน สิริอายุ 81 ปี พรรษา 61 ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 และรองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

มีนามเดิม ชัยวัฒน์ พราหมณ์อนงค์ เกิดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2485 ปีมะเมีย บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 3 ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี บิดา-มารดาชื่อ นายชื้นและนางริ้ว พราหมณ์อนงค์

ช่วงวัยเยาว์ ศึกษาจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประชาบาลสามัคคีธรรม อ.บางแพ จ.ราชบุรี

บรรพชาเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2500 ที่วัดดอนหอคอย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดย มีพระครูอโศกสันติคุณ วัดดอนหอคอย เป็นพระอุปัชฌาย์

ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนพระปริยัติธรรม ที่สำนักเรียนวัดสร้อยทอง ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น พ.ศ.2505 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ








Advertisement

กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2505 ที่วัดสร้อยทอง โดยมีพระครูภาวนานุกูล วัดสร้อยทอง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิบูลย์โชติวัฒน์ วัดเวตวันธรรมาวาส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการประสาท สุปัณฑิโต วัดกลาง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2515 สอบได้เปรียญธรรม 9 สังกัดสำนักศาสนศึกษาวัดพระปฐมเจดีย์ สำนักเรียนคณะจังหวัดนครปฐม

มีความชำนาญในการแสดงพระธรรมเทศนา ปาฐกถาธรรม แต่งหนังสืออธิบายธรรมะ ทั้งแนวร้อยแก้วและแนวร้อยกรอง ได้แต่งหนังสือธรรมะไว้หลายเรื่อง

ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ในขณะนั้น มอบหมายภารกิจให้สนองงานทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และอื่นๆ อีกมากมาย

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2518 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม, เป็นเจ้าอาวาสวัดเสถียรรัตนาราม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และเป็นพระกรรมวาจาจารย์

พ.ศ.2519 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2536 ได้รับแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ให้เป็นหัวหน้าคณะ 3 พ.ศ.2537 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์

พ.ศ.2539 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ พ.ศ.2549 เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

พ.ศ.2565 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14

ผลงานด้านการศึกษา เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมประจำสำนักศาสนศึกษาวัดพระปฐมเจดีย์, เป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมสนามหลวง ที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม

ปัจจุบัน เป็นกรรมการตรวจข้อสอบบาลีสนามหลวง ชั้น ป.ธ.8 ที่วัดสามพระยา กรุงเทพฯ

พ.ศ.2547 ได้รับแต่งตั้งจากแม่กองบาลีสนามหลวง ให้เป็นกรรมการออกข้อสอบ

พ.ศ.2556 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่ พระศรีรัตนโมลี พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทาน เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชรัตนมุนี

พ.ศ.2556 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพมหาเจติยาจารย์

พ.ศ.2566 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมวชิรเจติยาจารย์

สำหรับในปี พ.ศ.2566 พระพรหมเวที (สุเทพ ผุสสธัมโม) เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ได้มอบหมายให้คอยดูแลความเรียบร้อยงานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.จนถึงวันที่ 2 ธ.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน