เร่งล้างกู้นอกระบบตร.ตามรวบแล้วทันที‘นายทุน-สมุน’พังร้านสรุป7วัน-พุ่ง3.8พันล.

‘เศรษฐา’ ลั่นกลองรบวันนี้ มอบนโยบายวาระแห่งชาติ สั่งทุกกลไกของรัฐ ‘มท.-ตร.-คลัง’ ลุยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบส่วนเคสแก๊งเงินกู้บุกพังร้านส้มตำที่ชัยนาท เหตุไม่พอใจไปลงทะเบียนขอความช่วยเหลือของรัฐบาล โดนรวบแล้วยกทีมหลังนายกฯ ออกคำสั่งแค่วันเดียว ทั้งนายทุน-2 ลูกสมุน ผลลงทะเบียนครบ 1 สัปดาห์ ลงทะเบียน 7.5 หมื่นราย มูลหนี้พุ่ง 3.8 พันล้าน

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาลว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ประกาศ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ ให้บูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย (มท.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดระบบลงทะเบียนรับความช่วยเหลือแก้ไขหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมามีประชาชนทั้ง ลูกหนี้เจ้าหนี้มาลงทะเบียนจำนวนมาก เป็นไปในทิศทางที่ดี

แต่มีบางราย ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ “ลูกหนี้ผวาถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบบุกพังร้านกลางดึกหลังลงทะเบียนแก้หนี้” เหตุเกิดที่ร้านส้มตำครกแตก ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ของเช้ามืดวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.30 น. พื้นที่ สภ.สรรคบุรี หลังเกิดเหตุจึงสั่งการไปยัง พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภาค 1 จัดชุดสืบสวนลงตรวจสอบจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

แก๊งกู้โหด – พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภาค 1 ร่วมสอบปากคำนายไตรภพ กาฬภักดี และนายนิรุต เอี่ยมศรี แก๊งเงินกู้บุกพัง ร้านส้มตำ ก่อนขยายผลจับกุมนายทุนเจ้าหนี้คนสั่งการ ที่สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.

เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า สาเหตุเกิดจาก น.ส.ปิยธิดาเจ้าของร้านกู้ยืมเงินจากนายธีระศักดิ์ หรือ แมว วีระนน นายทุนเงินกู้นอกระบบจำนวน 30,000 บาท โดยนายธีระศักดิ์ คิดอกเบี้ยแบบลอย คือชำระดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะนำเงินต้นทั้งหมดมาคืน น.ส.ปิยธิดาต้องชำระดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนวันละ 850 บาท เป็นอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และชำระมาแล้ว 18 วัน

ต่อมา น.ส.ปิยธิดายื่นคำร้องเพื่อขอ ไกล่เกลี่ยที่อำเภอสรรคบุรี จนเจ้าหนี้ ไม่พอใจ ทำให้นายไตรภพ หรือ อ้น กาฬภักดี อายุ 28 ปี และ นายนิรุต หรือ แน็ต เอี่ยมศรี อายุ 24 ปี ไปทำลายทรัพย์สินภายในร้านได้รับความเสียหาย ตำรวจ สภ.สรรคบุรี รวบรวมหลักฐานออกหมายจับและติดตามจับกุมทั้ง 2 ราย ในผิดฐาน ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายได้มาเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จริง

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เปิดเผยต่อว่า ได้สั่ง การให้ขยายผลไปยังนายธีระศักดิ์เป็นนายทุนเงินกู้ รวมทั้งผู้ร่วมกระทำผิด รายอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ตร.รับไม่ได้ คนร้ายไม่เกรงกลัวกฎหมาย และกำชับไปยังทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง หากพบใครฝ่าฝืนกฎหมายให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและจริงจัง

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.00 น. พล.ต.ท.จิรสันต์ พร้อม พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.ชัยนาท นายวิทยา ชพานนท์ ปลัดจังหวัดชัยนาท และ ผู้เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมผู้ก่อเหตุ 2 ราย ซึ่งเป็นการมามอบตัว ได้แก่ นายไตรภพและนายนิรุต พร้อมรถ จักรยานยนต์ฮอนด้าสีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้าย 1 คัน เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ และหมวกกันน็อกสีดำ 1 ใบ

พล.ต.ท.จิรสันต์กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ ถือเป็นเคสนโยบายและเป็นสิ่งที่สังคมรับไม่ได้ นายกฯ ให้ความสำคัญและกำชับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 1 ว่ารัฐบาลมีนโยบายในการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ผบ.ตร.กำชับการปฏิบัติ โดยตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท เร่งสืบสวนติดตามเหตุเกิด 04.30 น. สืบทราบตัวเวลา 10.00 น. และได้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยทั้งสองคนรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง

เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย 1.ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน 2.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด และ 3.ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ จากการสืบสวนขยายผลพบนายธีระศักดิ์เป็นนายทุน ผู้อยู่เบื้องหลังจึงจับกุมตัว แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ 1.ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และ 2.ประกอบกิจการจัดหามาซึ่งเงินทุนแล้วให้ผู้อื่นกู้เงินนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต

“กรณีหนี้นอกระบบถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อสามารถครองชีพได้ ไม่เกิดความเดือดร้อน ไม่ก่ออาชญากรรม หรือกระทำความผิดต่างๆ จึงขอให้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ให้ความร่วมมือ โดยฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเป็นคนกลาง เข้ามาช่วยกันเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อให้สมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” ผบช.ภาค 1 กล่าว

ด้านนายวิทยากล่าวว่า มีผู้มาลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 394 ราย มูลค่าหนี้กว่า 13 ล้านบาท เคสที่เกิดเหตุมาลงทะเบียนในวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันแรกของการลงทะเบียน ให้ทางอำเภอช่วยเจรจาแก้ปัญหาหนี้ โดยมีเจ้าหนี้อยู่ 3 ราย สามารถตกลงกันได้ 2 ราย ส่วนรายนี้โทรศัพท์ไม่รับสาย ไม่เข้ามาไกล่เกลี่ย สำหรับแนวทางที่จะช่วยทางด้านของเจ้าหน้าที่ กรณีลูกหนี้ไม่จ่าย อาจมีการให้ทางปกครองเป็นตัวกลางรับชำระหนี้ให้ หากลูกหนี้ไม่จ่ายจะให้ทางหน่วยงานปกครองทวงให้

วันเดียวกัน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการเปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวันที่ 7 ครบ 1 สัปดาห์ โดยจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.30 น. พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งสิ้น จำนวน 75,199 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 68,951 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 6,248 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 47,174 ราย มีมูลหนี้รวม 3,820.36 ล้านบาท โดยมีพื้นที่/จังหวัด 5 ลำดับแรก คือ 1.กรุงเทพฯ มีผู้ลงทะเบียน 4,876 ราย เจ้าหนี้ 3,689 ราย มูลหนี้ 318.611 ล้านบาท 2.นครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 3,142 ราย เจ้าหนี้ 2,281 ราย มูลหนี้ 159.402 ล้านบาท 3.สงขลา มีผู้ลงทะเบียน 3,127 ราย เจ้าหนี้ 1,978 ราย มูลหนี้ 176.632 ล้านบาท 4.นครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 2,965 ราย เจ้าหนี้ 1,617 ราย มูลหนี้ 191.803 ล้านบาท 5.ขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน 1,901 ราย เจ้าหนี้ 1,310 ราย มูลหนี้ 116.219 ล้านบาท

ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. แม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 100 ราย เจ้าหนี้ 59 ราย มูลหนี้ 3.612 ล้านบาท 2.ระนอง มีผู้ลงทะเบียน 152 ราย เจ้าหนี้ 96 ราย มูลหนี้ 9.023 ล้านบาท 3.สมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 215 ราย เจ้าหนี้ 149 ราย มูลหนี้ 6.471 ล้านบาท 4.ตราด มีผู้ลงทะเบียน 229 ราย เจ้าหนี้ 107 ราย มูลหนี้ 6.176 ล้านบาท และ 5.พังงา มีผู้ลงทะเบียน 276 ราย เจ้าหนี้ 153 ราย มูลหนี้ 9.311 ล้านบาท

“ในวันที่ 8 ธ.ค.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ จะเป็นประธานมอบนโยบายวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้กำกับการสถานีตำรวจ ตลอดจนกลไกของรัฐทุกกลไก โดยกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง จะได้นำนโยบายของนายกฯ มาแปลงสู่แนวทางการปฏิบัติ และชี้แจงแนวทางให้กับผู้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อร่วมกันกำหนดวิธีการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบต่อไป” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยยังคงเปิดรับลงทะเบียนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบต่อไป ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือลงทะเบียนได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขต ทั่วประเทศ โดยสามารถสามารถสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน