หนุ่มสายตำรวจโผล่เข้ามอบตัว หลังถูกออกหมายจับคดีร่วมกับ 7 ตร.ชุดสืบจังหวัดปทุมธานี อุ้มรีดพีอาร์สาว 3 แสน และข่มขืน ให้การปฏิเสธบางข้อหา ก่อนนำตัวไปชี้ตู้เอทีเอ็มจุดกดเงิน และโรงแรมจุดเกิดเหตุข่มขืน ขณะเดียวกันตร.ตามยึดรถเก๋งใช้ก่อเหตุ พร้อมเงินสดกว่า 2.8 แสน
จากกรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาสาวพีอาร์ ผู้เสียหายพร้อมแฟนหนุ่มเดินทางเข้าร้องทุกข์กับร.ต.อ.ประพันธ์ เรืองสุวรรณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดชาย จำนวน 7 คน อ้างเป็นตำรวจสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี จับครอบครองยาเคตามีนเพื่อเสพ แล้วพาไปที่กก.สืบสวน ตำรวจภ.จว.ปทุมธานี จับแยกสอบสวน ก่อนยื่นข้อเสนอเงินจำนวน 360,000 บาทเพื่อแลกกับการเปลี่ยนข้อหาจากครอบครองยาเสพติด เป็นเสพยาเสพติด พร้อมทั้งพาหญิงสาวผู้เสียหายเข้าโรงแรม โดยอ้างเป็นการเคลียร์กับนายเพื่อปล่อยตัว หลังจากได้ประกันตัวที่ชั้นศาลมาแล้ว จึงเข้าร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด ต่อมาพล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 มีคำสั่งย้ายตำรวจชุดสืบที่จับกุมทั้งหมด ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและอาญา พร้อมให้สอบขยายผลผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
คืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่ห้องสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬากรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายศักรินทร์ หรือแว่น รอดแรม อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 3 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสายของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจ.ปทุมธานี พร้อมนายวัชระ หรือทนายแบงค์ ทนายความ เข้ามอบตัวกับร.ต.อ.ประพันธ์ เรืองสุวรรณ พนักงานสอบสวนสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่า นายศักรินทร์ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มพีอาร์สาวไปตระเวนกดเงิน 3 แสนบาท และพาผู้เสียหายเข้าโรงแรมย่านรังสิต ก่อนปล่อยตัว ได้เอาเงินไปอีก 3 หมื่นบาท
ภายหลังถูกหมายจับจากศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 945/2566 ลงวันที่ 14 ธ.ค. 2566 ข้อหากระทำความผิด ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานสนับสนุนให้ เจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ, สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น, ข่มขืนใจ ผู้อื่นให้กระทำการหรือจำยอมต่อ สิ่งใด
นายวัชระ เปิดเผยว่า วันนี้นายศักรินทร์ติดต่อไปหาตนเพื่อให้พามามอบตัวกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ หลังรู้ว่าตนเองถูกออกหมายจับ โดยให้การปฏิเสธบางข้อหา และเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานีทั้ง 7 นายเดินทางมาให้ปากคำกับร.ต.อ.ประพันธ์ เรืองสุววรณ ครบทุกนายแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์นำตัวนาย ศักรินทร์ไปเอาเสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุ จากนั้นไปชี้ตู้เอทีเอ็มจุดกดเงินที่หน้าปากซอยรังสิต-นครนายก ซอย 8 ตู้เอทีเอ็ม ย่านลาดหลุมแก้ว และโรงแรมย่านหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี
ด้านพล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า สำหรับ 7 นายตำรวจที่ไปอุ้มรีดเงินผู้เสียหายและนำผู้เสียหายไปกระทำชำเราภายในโรงแรมแห่งหนึ่งนั้น วันนี้ทำหนังสือให้ตำรวจทั้ง 7 นายไปช่วยราชการที่ศปก.ภาค 1 แล้ว
เมื่อเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์นำตัวนายศักรินทร์กลับเข้าห้องขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่นายศักรินทร์ไม่ยอมตอบ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถเก๋ง โตโยต้าโคโรลลา สีบรอนซ์-เทา หมายเลขทะเบียน กจ 2157 ปทุมธานี ซึ่งผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ พร้อมยึดเงินสดจำนวน 280,500 บาทอีกด้วย