กมธ.ตำรวจดีเดย์บุกหา‘ทักษิณ’

12มค.นัดพิสูจน์‘ชั้น14’‘เฉลิมชัย’โวเลิกจำศีล3-6เดือนปชป.พลิกโฉม4วิปเคาะถกงบ3-5มค.

กมธ.ตำรวจนัด 12 ม.ค.67 ดีเดย์บุกพิสูจน์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ‘ทวี’ เผยรายงานหมอระบุ‘ทักษิณ’ป่วยจริง ‘ภูมิธรรม’ขอทุกคนใจกว้าง อย่าโยงสู่ความขัดแย้งอีก ‘เฉลิมชัย’ ประกาศพลิกโฉมปชป. ลั่นจะเอาหลักการของพรรคกลับมาให้ทุกคนดู ‘เดชอิศม์’ ขอ 3 เดือนมีสมาชิกตลอดชีพเพิ่มขึ้น 2 หมื่นคน นัดคุยก้าวไกลหลังปีใหม่ จัดเต็มซักฟอกรัฐบาล สภาฉลุยวาระแรกกม.สมรสเท่าเทียม นายกฯ ตกใจ จำนวนเด็กเกิดใหม่วิกฤต ลดต่ำสุดรอบ 71 ปี ชี้เป็นการบ้านรัฐบาลรีบดูแล 4 วิปเคาะวันถกร่างพ.ร.บ.งบ ปี 67 ตามกำหนดเดิม 3-5 ม.ค.

‘นิด’ตกใจเด็กเกิดใหม่ลดวูบ

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งอยู่ระหว่างลาพักผ่อน ทวีตข้อความแสดงความเห็นหลังมีการเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเรื่องอัตราการเกิดในปีที่แล้ว อยู่ในขั้นวิกฤต มีเด็กเกิดในประเทศไทยเพียง 502,000 คน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 700,000 คน ประมาณ 30% และเป็นอัตราการเกิดต่ำสุดในรอบ 71 ปี ว่า เห็นข้อมูลชุดนี้แล้วน่าตกใจ แม้ว่าปัญหาอัตราการเกิดของประเทศไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จากบทความในสื่อสารมวลชน จะเห็นว่าอัตราการเกิดปีที่ผ่านมาของไทยต่ำที่สุดในรอบ 71 ปี ซึ่งประเด็นนี้ละเอียดอ่อน

“ผมในฐานะนายกฯ และรัฐบาล ตระหนักในเรื่องสิทธิเหนือร่างกายและอำนาจของผู้หญิงที่พึงมีสิทธิ์เต็มที่ใน การตัดสินใจที่จะมีลูกหรือไม่มีลูก ขณะเดียวกันในฐานะนายกฯ ผมคิดว่าผมมี หน้าที่ในการทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่แล้วมีความสุข เศรษฐกิจดี มีความปลอดภัย ถ้าคนจะมีลูกก็มั่นใจว่าลูกหลานเขาจะได้รับการศึกษาที่ดี มีงานทำ ไม่มีเรื่องยาเสพติด ผู้หญิงมี work life balance ทำงานได้ มีลูกได้ เรื่องใหญ่ครับ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเอาไปทำการบ้าน”

‘ชัยธวัช’โวยรบ.กั๊กเอกสารงบ

เวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ก้าวไกล(ก.ก.) ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านยังไม่ได้เอกสาร ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จากรัฐบาล ฝ่ายค้านอยากขอ รายละเอียดเป็นแบบดิจิทัลก่อนเพื่อศึกษาว่า การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลสามารถตอบโจทย์กับนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชนหรือไม่ รวมถึงมีการฉวยโอกาสไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะบรรจุระเบียบวาระให้อภิปรายวันไหน เบื้องต้นจะบรรจุทันทีวันที่ 3-5 ม.ค. ซึ่งฝ่ายค้านมีข้อสังเกตว่า เป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหรือไม่ เนื่องจากจนถึงวันนี้ยังไม่ได้เอกสารเลย และแจ้งว่าจะได้รับเอกสาร เร็วสุด 26 ธ.ค. ซึ่งเหลือเวลาน้อยมากในการตรวจสอบข้อมูลและขอเอกสารเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ฝ่ายค้านจึงเสนอรัฐบาลให้เลื่อนไปพิจารณาช่วงวันที่ 9-11 ม.ค. ซึ่งอยู่ในกรอบเวลาตามกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อให้สภาทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะทำงานตรวจสอบอย่างเต็มที่ ส่วนการแบ่งประเด็นในการอภิปรายกับพรรคฝ่ายค้านอยู่ในระหว่างรอพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งเพิ่งประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ครั้งแรก วันนี้ และต้องรอเอกสารงบประมาณก่อน ช่วงนี้จึงเป็นการประสานงานภายใน และหลังจากปีใหม่จะมีการประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการ

4วิปเคาะวันถก3-5ม.ค.

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย(พท.) รองประธานคณะกรรมการประสานสภาผู้แทนราษฎร (วิป รัฐบาล) เปิดเผยผลการประชุมวิป 4 ฝ่ายว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา คนที่สอง ได้ประชุมตัวแทน 4 ฝ่าย ได้แก่ วิปฝ่ายค้าน วิปรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้าน และตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการกำหนดวันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระแรก ที่ประชุมมีมติพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณตามเดิม คือระหว่างวันที่ 3 -5 ม.ค.2567

โดยรัฐบาลจะส่งร่างให้สภา ภายในวันที่ 26 ธ.ค.ส่วนการแบ่งเวลาอภิปรายของแต่ละฝ่ายจะได้หารืออีกครั้งเพื่อกำหนดต่อไป

‘อ้วน’ขอใจกว้างปม‘ทักษิณ’

ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ารักษาตัวครบ 120 วัน ในโรงพยาบาลตำรวจของนายทักษิณ ชินวัตร ว่า หลังจากนี้แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์ ที่ดูแลคุมขังนักโทษ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจะลงความเห็นว่าจะสามารถรักษาตัวต่อได้ หรือไม่ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการและระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าสังคมกังขาว่าเป็นสองมาตรฐาน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องสองมาตรฐาน นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการเหมือนกับประชาชนทั่วไปที่เป็นนักโทษ และระเบียบดังกล่าวไม่ได้ออกมาเพื่อนายทักษิณ แต่ออกมาเพื่อประชาชน และการจัดระเบียบในเรือนจำที่มีความแออัด อยากให้เข้าไปดูว่า ตอนนี้จะสร้างมาเท่าไหร่ก็ ไม่พอ และกระบวนการของกรมราชทัณฑ์ มีระเบียบพิจารณาให้กับนักโทษที่อยู่นาน และมีความประพฤติดี เหลืออายุการต้องโทษอีกไม่มาก อยากให้มาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวตามหลักสากล โดยที่ต่างประเทศก็มีความคิดเช่นนี้ ประเทศไทยควรมีความคิดเหมือนกัน

“อยากให้นำเรื่องนี้ออกจากทางการเมือง หากนำทุกเรื่องไปยุ่งการเมือง ประเทศนี้จะเดินไปไม่ได้ ประเทศไม่สงบสุข เราหลุดพ้นจากความขัดแย้งมาเยอะแล้ว อยากให้ใจกว้าง อยากให้เชื่อมั่นในกระบวนการของแพทย์ ที่จะต้องวินิจฉัยอย่างดีที่สุด อยากให้หลีกห่างจากความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าได้” นายภูมิธรรมกล่าว

กุนซือแนะดึงสติ-วอนเห็นใจ

นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรอง นายกฯ (ภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ที่ถูกกระทำจากการยึดอำนาจ แล้วมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาเพื่อจัดการกับนายทักษิณโดยเฉพาะ กระบวนการยุติธรรมขั้นต้นเกิดจากการยึดอำนาจ จึงไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ต้น นำไปสู่คดีความที่ศาลตัดสินคดี วันนี้ทุกคนได้รู้แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นประเทศชาติไม่ได้เสียหาย จึงต้องขอความเป็นธรรมให้นายทักษิณด้วย

ตนอยากให้คนที่ออกมาวิจารณ์ ตั้งสติว่าสิ่งที่กระทำอยู่จะนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่เหมือนในอดีต ที่มีการปลุกระดมประชาชนให้ขัดแย้งแล้วนำไปสู่การยึดอำนาจในปี 2549 รวมถึงปี 2557 ที่ประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรมถูกใส่สีตีความ จนเกิดการยึดอำนาจถึง 2 ครั้งในเวลาไม่ถึง 10 ปี วันนี้ประเทศชาติอยู่ในรูปในรอย มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์ที่สุด แตกต่างจาก 9 ปีที่ผ่านมาอย่าง สิ้นเชิง จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันรักษา สิ่งนี้เอาไว้ ไม่พอใจอะไรก็ให้กระบวนการในสภาเดินไป อย่าขยายความขัดแย้งให้บานปลายจนประเทศกลับไปสู่วังวนเดิม

‘ทวี’เผยรายงานแพทย์ป่วยจริง

เวลา 11.20 น.ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของน.ส. ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรค ก้าวไกล ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ถึงความเป็นธรรมและการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ต้องขัง และกรมราชทัณฑ์ มีเกณฑ์พิจารณาการให้สิทธิ์ ผู้ต้องขังออกไปรับการรักษาพยาบาลด้านนอกอย่างไรเพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสงสัยโดยเฉพาะกรณีนายทักษิณ

ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงแทนนายเศรษฐาว่า กรณีนายทักษิณ ตนรับทราบจากอธิบดีราชทัณฑ์ว่า วันที่ 21 ธ.ค. จะส่งรายงานมายังตน และตนมีหน้าที่เพียงรับทราบ แต่ไม่ใช่ผู้อนุมัติ ตนทราบว่ามีตัวแทนของหมอโรงพยาบาลตำรวจเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ และตนได้พูดคุยว่า เรือนจำคือที่คุมขังผู้ต้องขัง และสิ่งที่ต่อเนื่องตามกฎหมายถือว่าออกไปไหนไม่ได้ และมีผู้ควบคุม ไม่มีใครเยี่ยมได้ ซึ่งเป็นระเบียบเดียวกับเรือนจำ ตนถามหมอตรงๆ ท่านยืนยันว่า นายทักษิณป่วยจริง มีหลักฐานตามที่ปรากฏจริงและจากรายงานจาก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำ พบว่าผู้ป่วยเป็นหลายโรค กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง และเป็นความเห็นของแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่ยืนยันว่าป่วยจริง

สำหรับระเบียบราชทัณฑ์เป็นเกณฑ์ปกติ ไม่ใช่เฉพาะนายทักษิณ ซึ่งออกระเบียบแล้วไม่ใช่จะจบเรื่อง เพราะต้องเข้าประชุมกรรมการราชทัณฑ์ ที่จะประชุมต้นเดือน ม.ค.2567 ที่มีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกร่วมด้วย และขณะนี้ตนเตรียมออกระเบียบอีกฉบับ ให้การคุมขังนอกเรือนจำครอบคลุมผู้ที่อยู่ระหว่างสอบสวนด้วย โดยให้ศาลพิจารณา

“ตามรายงานที่ปรากฏมาให้ผม ชั้น 14 ไม่ใช่ชั้นพิเศษ และผมยังพบผู้ใหญ่บางคนไปเยี่ยมญาติที่ชั้น 14 เหมือนกัน แต่เป็นคนละส่วนกัน แต่การรักษาความปลอดภัยมีตามระบบของราชทัณฑ์ ส่วนเอกสาร เกี่ยวกับสุขภาพ เรื่องอาการป่วย ไม่สามารถให้ได้ เพราะตามพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ จะต้องเป็นความลับ” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

กมธ.ตำรวจยันบุกรพ.12ม.ค.

ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เชิญ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้อำนวยการ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รักษาการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และฝ่ายกฎหมายทัณฑสถานเข้ามาชี้แจงต่อกมธ. เกี่ยวกับการควบคุมนักโทษที่เข้า รับการรักษาพยาบาลและพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลตำรวจ

ที่ประชุมได้ข้อสรุปดังนี้ 1.การวินิจฉัยให้นายทักษิณรักษาตัวที่โรงพยาบาลใดเป็นความเห็นของแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าป่วยไวรัสตับอักเสบบี และมีอาการแน่นหน้าอกช่วงกลางดึกจากที่เคยติดโควิดทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับปอด จึงส่งตัวไปรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ 2.เงินที่ใช้รักษาตัวนายทักษิณ เป็นการใช้สิทธิตามสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หากเกินสิทธิ์ผู้ต้องขังมีสิทธิจ่ายเงินส่วนต่างได้ จึงถามว่ามีระเบียบข้อไหนที่ระบุว่าทำเช่นนี้ได้ ขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งเอกสารมายัง กมธ.

3.ให้กรมราชทัณฑ์ส่งเอกสารข้อมูล ภาพถ่ายผู้คุมที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่นายทักษิณออกจากเรือนจำกรุงเทพฯ และ โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงการผลัดเปลี่ยนเวรต่างๆ ว่ามีจำนวนผู้คุมเท่าไร 4.ทางกรมราชทัณฑ์ชี้แจงกับกมธ.ว่า ให้ดูใบกรอกประวัติอิเล็กทรอนิกส์ ว่านายทักษิณได้กรอกข้อมูลเบื้องต้น ก่อนเข้ารับโทษ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อย่างถูกต้องเรียบร้อย แต่ผู้ร้องระบุให้นำใบกรอกกระดาษ รท.101 มาด้วย ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะรวบรวมส่งเอกสารให้ต่อไป

5.กมธ.มีมติว่าจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ในเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ม.ค.2567 ก่อนวันเด็กแห่งชาติเพียง 1 วัน แต่หากในวันนั้นตรงกับการประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ต้องเลื่อนออกไปก่อน จะไปดูทั้งการ รักษาตัว การปฏิบัติต่อผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขัง ของโรงพยาบาลตำรวจ และมีขั้นตอนมาตรการควบคุมผู้ต้องขังอย่างไร เมื่อถามว่าจะไปชั้น 14 ด้วยหรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ไปทุกชั้นที่มีผู้ต้องขังอยู่เพราะเราไปศึกษาดูงาน

ปชป.เตือนระวังเป็นจุดจบรบ.

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่านายทักษิณ เข้าเกณฑ์ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ว่า สิ่งที่รอง นายกฯ ให้สัมภาษณ์ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของสังคม ที่ทราบข้อเท็จจริงรายละเอียดดีว่า นายทักษิณจะได้รับประโยชน์จากระเบียบนี้ด้วย ส่วนใครจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นการดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ ก็มีสิทธิพูดได้ แต่กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา คือการกระทำที่แสดงออกมาภายนอก เป็นเครื่องชี้ถึงสภาพจิตใจของผู้กระทำทุกคนว่าที่ร่วมกันมีเจตนาทำ เพื่อใคร

“เรื่องนายทักษิณ เห็นชัดว่าคือความ อยุติธรรมในรัฐบาลนี้ ทุจริตคอร์รัปชั่น วันเวลาติดคุก อ้างหลักนิติธรรมจอมปลอม แล้วประชาชนจะไปหวังอะไร ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาในการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเรื่องนี้นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรี ธรรมราช ประธานกมธ.การตำรวจ ได้ติดตามตรวจสอบอยู่เช่นกัน การที่รัฐบาลใดใช้อำนาจตามอำเภอใจ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ไม่สนใจไยดีต่อหลักความถูกต้องของบ้านเมือง จะเป็นจุดเปลี่ยนและจุดจบของรัฐบาลเช่นกัน” นายราเมศกล่าว

ทสท.ห่วงกระทบนักโทษอื่น

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า การควบคุมในสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจำไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ เพราะถูกใช้ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2550 ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89/1 และ 89/2 โดยให้ศาลเป็นผู้ออกคำสั่งให้ผู้ต้องขังไปคุมขังในสถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจำได้ กรมราชทัณฑ์เพิ่งออกระเบียบเพื่อใช้หลักเกณฑ์นี้หลังจากที่ศาลใช้มาแล้วถึง 16 ปี เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากลมากขึ้น ระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่ออกมาเป็นเพียงเพื่อแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ และกฎกระทรวงได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้แล้วตั้งแต่ปี 2560 และ 2563 ตามลำดับ มิได้สร้างหลักเกณฑ์ขึ้นมาใหม่เพื่อเอื้อผู้หนึ่ง ผู้ใดทั้งสิ้น

ที่ติดตามเรื่องนี้เพราะเห็นว่า มีความพยายามโยงเรื่องให้เป็นประเด็นการเมืองในกรณีของนายทักษิณ จนอาจส่งผลให้กฎหมาย และระเบียบที่ปรับปรุงให้มีความทันสมัย และเป็นไปตามหลักสากล จะ ไม่ได้ถูกใช้ตรงตามเจตนารมณ์ กระทบ ผู้ต้องโทษคนอื่นๆ ที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพิจารณาตามระเบียบที่อาจจะเสียสิทธิในส่วนนี้ไปด้วย เท่าที่ทราบ กรมราชทัณฑ์ ส่งหนังสือแจ้งรายละเอียด และแนวทางปฏิบัติไปยังเรือนจำและทัณฑสถาน 144 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้คณะกรรมการในแต่ละเรือนจำได้พิจารณาผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ และรวบรวมรายชื่อ เสนอมายังกรมราชทัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2566 แต่ถึงขณะนี้การดำเนินการยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เพราะถูกวิจารณ์อย่างหนัก

‘เดชอิศม์’ยันเป็นฝ่ายค้าน100%

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.) พรรคชุดใหม่นัดแรก ว่า เป็นการระดมความคิดจากทุกตำแหน่ง ถึงแนวทางการปรับเปลี่ยนพรรคให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น จากนั้นอาจมีการแบ่งกลุ่มตามหน้าที่รับผิดชอบ มั่นใจว่าพรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในเร็ววันอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกำหนดเวลา หรือแนวทางพิสูจน์ตัวเอง นายเดชอิศม์กล่าวว่า คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน คงต้องทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจ ไม่เปลี่ยนแบบ 360 องศา แต่อย่างน้อยสัก 90 องศา น่าจะเริ่มมองเห็น คาดว่าต้องมีสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้น เป็น 1-2 หมื่นคน ภายในเวลา 3 เดือน โดยเป็นสมาชิกแบบตลอดชีพ

ต่อข้อถามว่า มีการจับตาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล นายเดชอิศม์กล่าวว่า วันนี้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในอนาคตตนจะไปพูดแทน สส. และกก.บห.ไม่ได้ จะเห็นได้ว่าในปี 2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ไปพูดแทนทั้ง สส. และกก.บห. สุดท้ายพอมีประชุมร่วมสส.และกก.บห. กลายเป็นว่ามีมติร่วมรัฐบาล ฉะนั้นวันนี้จะเร็วเกินไปที่ตนจะพูดว่าค้าน หรือเข้าร่วม เพราะต้องคำนึงถึงสองส่วนนี้

สำหรับการทำงานร่วมกับพรรค ก้าวไกลนั้น นายเดชอิศม์กล่าวว่า ต้องคุยกัน เพราะเราเพิ่งได้หัวหน้าพรรค ก่อนหน้านี้เราไม่รู้จะส่งใครไปคุย แต่วันนี้หัวหน้าพรรคก้าวไกลยกหูมาคุยกับตนแล้ว ซึ่งตนบอกว่า เดี๋ยวจะนัดคุยกันในทุกบทบาท ในฐานะฝ่ายค้านด้วยกัน และการอภิปราย ไม่ไว้วางใจช่วงหลังปีใหม่ “มั่นใจว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้พรรคประชา ธิปัตย์จะมีบทบาทสำคัญอย่างแน่นอน ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างต้องมานั่งคุยกัน เพราะผมได้ให้การบ้าน สส.ไปแล้วว่าใครถนัดเรื่องอะไร แล้วแบ่งออกเป็นกรุ๊ปๆ”

‘เสี่ยต่อ’โวมีเอกภาพ-แจกการบ้าน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมกก.บห.ว่า ตนได้แจ้งให้กก.บห.ทราบว่าแนวทางขับเคลื่อนพรรค 3-6 เดือนแรกจะขับเคลื่อนรูปแบบไหน สิ่งที่เราพูดคุยกันในที่ประชุมคือในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ประมาณ เดือนเม.ย. 2567 จะต้องสร้างและทำให้คนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เช่น ข้อบังคับพรรคที่บอกว่าล้าสมัย ไม่เปิดโอกาสให้คนนอกมีส่วนร่วม คนใหม่ๆ มีส่วนร่วมได้น้อย จึงมอบให้ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ ไปดูแลเรื่องการแก้ไขข้อบังคับพรรคในทุกประเด็นให้สมบูรณ์ที่สุด แล้วนำเสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี เดือนเม.ย.

นอกจากนี้จะตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร โซเชี่ยล เทคโนโลยี นวัตกรรม โดยใช้พื้นที่ในพรรค เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกับสื่อมวลชน มีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคภาคกทม. รับผิดชอบ หลังปีใหม่สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะต้องปรากฏชัดเจนเป็นอันดับแรก และที่ประชุมมอบหมายให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคเป็นผู้ไปดำเนินการ ขับเคลื่อนพรรค ส่วนในแต่ละภูมิภาคได้มอบหมายให้รองหัวหน้าแต่ละภาคไปดำเนินการวันนี้ตนจะทำงานในหลักการของประชา ธิปัตย์อย่างแท้จริง จะเอาหลักการกลับมาให้ทุกคนดู

“การขับเคลื่อนพรรค พลังอันดับแรกคือความมีเอกภาพ เมื่อวันนี้เราหาเอกภาพได้แล้ว การดำเนินกิจกรรมของพรรคทุกอย่างก็ขับเคลื่อนอยู่แล้ว ดังนั้นขอโอกาส และขอให้พวกเราช่วยกันจับตาดู หลังจากตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ขึ้นมาสามารถส่งความคิดเห็น ให้คำแนะนำมาที่ศูนย์ของเรา โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาต่อไป การ ขับเคลื่อนของพรรคจากนี้ จะเป็นการ ขับเคลื่อนโดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมากขึ้น ศูนย์ดังกล่าวจะอยู่เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ซึ่งดร.เอ้จะต้องทำแผนงานขึ้นมาว่าเป็นอย่างไร นี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่เราให้ความสำคัญกับ เรื่องนี้” นายเฉลิมชัยกล่าว

สภาถกกม.สมรสเท่าเทียม

เวลา 13.15 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้นำร่าง พ.ร.บ.ทำนองเดียวกันอีก 3 ฉบับ พิจารณารวมกัน ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ที่นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับคณะเป็นผู้เสนอ, ร่างพ.ร.บ.ที่ น.ส.อรรณว์ ชุมาพร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 11,611 คน เป็นผู้เสนอ และร่างพ.ร.บ.ที่นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งมีการอนุญาตให้นำธงสีรุ้งเข้ามาภายในห้องประชุมด้วย

มีสาระสำคัญคือ การกำหนดให้บุคคลสองคนไม่ว่าเพศใดสามารถหมั้นหรือสมรสกันได้ รวมถึงแก้ไขคำว่า ชาย หญิง สามี ภริยา และสามีภริยา เป็น บุคคล ผู้หมั้น ผู้รับหมั้นและคู่สมรส เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมคู่หมั้นหรือคู่สมรสไม่ว่าจะเป็นเพศใด

โดยสส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านต่างอภิปรายสนับสนุนร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมไปแนวทางเดียวกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลไม่ว่าจะเป็นเพศใด มีเพียงสส.พรรคประชา ชาติ (ปช.) เท่านั้น ที่อภิปรายไม่เห็นด้วย

ฉลุยลงมติรับหลักการ

นายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า จะลงมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมทั้ง 4 ฉบับ เพราะขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับกลุ่มหลากหลายทางเพศ แต่ไม่สบายใจการแก้ไขเรื่องคู่ชีวิตให้เป็นเพศเดียวกันได้ เพราะในคัมภีร์อัลกุรอานระบุคู่สมรสต้องเป็นเพศชายและหญิงเท่านั้น ตนเห็นว่ามองเรื่องโลกเสรี แต่อย่าลืมมองเรื่องศีลธรรมด้วย

ด้านนายวรวิทย์ บารู สส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ขอให้สส.คำนึงถึงสิทธิของผู้ที่นับถือและปฏิบัติตามความเชื่อศาสนาที่รัฐธรรมนูญรับรองด้วย ไม่ใช่คำนึงถึงสิทธิทางเพศสภาพเท่านั้น หากในสภาปรากฏว่าเรามีความอิสระ เป็นไปตามลักษณะที่แสวงหา วันข้างหน้าจะหาคนที่เกิดใหม่ได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นจริง เพราะความพยายามของมนุษย์ไม่ได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง แม้จะแสวงหาสิ่งที่ถูกต้องตามความคิด แต่มีสิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ กรณีตัวอย่างการละเมิดทางเพศเด็กต่ำกว่า 18 ปี พบว่ามีปล่อยปละละเลยต่อศีลธรรมในสังคม พรรคประชาชาติไม่ได้หาเสียง แต่เชื่อว่าจะถูกตั้งคำถามจากคนในพื้นที่ที่จะกระทบวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ในสังคมมุสลิม

หลังสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นเสร็จสิ้น ที่ประชุมลงมติรับหลักการของร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ทั้ง 4 ฉบับ ด้วยคะแนน 369 เสียง ไม่รับหลักการ 10 เสียง งดออกเสียง 0 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 39 คน แปรญัตติ 15 วัน โดยใช้ร่างของครม.เป็นร่างหลัก

เวลา 19.20 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังทวีตข้อความว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับพี่น้อง LGBTQIA+ ทุกท่านที่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ได้ผ่านการโหวตวาระที่หนึ่งด้วยคะแนนท่วมท้น วันนี้ ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นแล้วครับ”