ร่างกฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” สะท้อนความต่อเนื่องจาก “ไทยรักไทย” ถึง “ก้าวไกล”
ต้องยอมรับว่าหลังการเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544 ความคิดในเรื่องชายรักชาย หญิงรักหญิง ไปปรากฏขึ้นเป็นจุดเล็กๆ ในกระทรวงมหาดไทย
เป็นกระทรวงมหาดไทยยุค ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์
โดยสถานะของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ที่เป็นรุ่นพี่ซึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร ให้ความเคารพ เชื่อมั่น เส้นทางนี้น่าจะดำเนินไปราบรื่น
แต่ก็ต้องยอมรับว่าสภาพในแบบเพลง “ประเทือง” ทำให้ต้องหยุด
การเกิดขึ้นของ “กลุ่มอัญจารี” สะท้อนความพยายามที่จะเดินหน้าเรื่อง “หญิงรักหญิง”
ด้วยความแข็งขันของ “อัญชนา” อาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลักดันให้ความคิดในเรื่องนี้เสนอไปยังพรรคเพื่อไทย
แต่เรื่องนี้ก็ต้องหยุดลงอีกจากสถานการณ์ “รัฐประหาร”
ต่อเมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่เข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ความคิดในเรื่อง “สมรสเท่าเทียม” จึงปรากฏขึ้นจนมาถึงปัจจุบัน
พรรคก้าวไกลเสนอสู่ “รัฐสภา” ได้ในเดือนมิถุนายน 2563
หากมองอย่างเห็น “พัฒนาการ” ก็ย่อมสัมผัสได้ในความต่อเนื่องและยึดโยงกันและกัน
ความคิดนี้ก่อรูปผ่านพรรคการเมืองจากยุคพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย แต่ด้วยปราการแห่ง “รัฐประหาร” ทำให้มีอันต้องงันชะงักลงไปชั่วคราว
ที่สุดก็ตกมาถึงมือ พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล
หลังการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 สถานการณ์ของ “สมรสเท่าเทียม” คึกคักและชี้ทิศทางแห่งความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เมื่อพรรคเพื่อไทยประสานพลังร่วมกับพรรค ก้าวไกล
ภายในความร่วมมือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลก็ใช่จะราบรื่นเรียบร้อย
อย่างน้อยการเบียดขบระหว่างกันและกันก็มีขึ้น กลายเป็นเรื่องธรรมดาอย่างปกติยิ่งของความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
มีความจำเป็นต้อง “ต่อสู้” และ “แข่งขัน” กัน
