นายวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ หรือบ้านจัดสรร ในปี 2566 ติดลบราว 10-12% เกือบทุกด้าน ตั้งแต่ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ และยอดขาย
ขณะที่การซื้อบ้านต้องใช้เงินกู้ซึ่งเป็นการก่อหนี้ระยะยาว 15-20 ปี อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือ ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งกระทบตลาดคอนโดมิเนียมโดยตรง ทำให้ยอดการถูกปฏิเสธสินเชื่อพุ่งถึง 50% จากปกติอยู่ในระดับ 15%
“ตลาดบ้านแนวราบเป็นตลาดที่มีความจำเป็นในการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ดังนั้นมั่นใจว่าภาพรวมตลาดบ้านจัดสรรปี 2567 จะเติบโตดีขึ้น แต่ในส่วนของมาตรการแอลทีวี ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงไม่ผ่อนคลาย แม้ว่าสถานการณ์การเก็งกำไร น่าจะหมดไปจากตลาดแล้วก็ตาม ซึ่งมองว่าภาครัฐควรจะผ่อนคลาย รวมถึงการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราเต็ม 100% ในจังหวะที่ประชาชนมีภาระค่าครองชีพสูง แต่รายได้คงที่ ซึ่งประเด็นนี้มองว่าเป็นปัจจัยภายในที่ภาครัฐสามารถควบคุมและผ่อนคลาย เพื่อให้ภาพรวมตลาดเติบโตดีขึ้นได้”
