เอเอฟพีรายงานวันที่ 22 ธ.ค. ถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญในสาธารณรัฐเช็ก หลังจากนักศึกษาวัย 24 ปี เปิดฉากกราดยิงที่อาคารคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ใน กรุงปราก เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น พล.ต.อ.มาร์ติน วอนดราเสก ผู้บัญชาการตำรวจเช็ก ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 25 ราย ในจำนวนนี้ 10 ราย อาการสาหัส ส่วนมือปืนเสียชีวิตและคาดว่าเป็นการปลิดชีพตัวเอง ขณะที่ทางการระบุว่า เป็นเหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สาธารณรัฐเช็กเป็นรัฐเอกราชเมื่อปี 2536
พล.ต.อ.วอนดราเสกเปิดเผยว่า ชายหนุ่มสังหารพ่อของตัวเองที่บ้านพักทางตะวันตกของกรุงปราก จากนั้นหลบหนีไป ส่งผลให้ตำรวจระดมกำลังตรวจค้นอาคารของคณะศิลปศาสตร์เพราะคาดว่าผู้ก่อเหตุจะเข้ามาเรียนตามตาราง แต่ชายหนุ่มเดินทางไปที่อาคารหลักซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันก่อนก่อเหตุสยอง “เมื่อเวลา 13.59 น. ตามเวลาจีเอ็มที เราได้รับข้อมูลแรกเกี่ยวกับเหตุกราดยิงซึ่งหน่วยตอบสนองรวดเร็วรุดถึงจุดเกิดเหตุภายใน 12 นาที เมื่อเวลา 19.20 น. ตามเวลาจีเอ็มที เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแจ้งให้เราทราบว่าร่างของมือปืนรายนี้แน่นิ่งไปแล้ว” พล.ต.อ.วอนดราเสกกล่าว และว่ามีข้อมูล ที่ไม่ได้รับการยืนยันแสดงว่าผู้ก่อเหตุฆ่าตัวตาย
ด้านตำรวจระบุจากการสอบสวนข้อมูลบนเครือข่ายสังคมออนไลน์พบว่ามือปืนได้แรงบันดาลใจจากกรณีที่คล้ายกันในรัสเซีย ทั้งยังเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคนเดียวกันยังลงมือสังหารชายหนุ่มเคราะห์ร้ายอีก 1 รายและลูกสาววัย 2 เดือนซึ่งอยู่ระหว่างเดินเล่นในสวนทางตะวันออกของกรุงปราก เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมาด้วย
