เปิดแถลงยืนยัน
ไลฟ์โค้ชโดนอีก
ร้อง‘ปอท.’เชือด
บ๊วยนัดชี้แจงปม
กังขาช่องส่องผี
ยืนยันโอนเงิน 1 แสนบาทให้ ‘ฌอน’ นำ ไปช่วยกิจกรรมดับไฟป่าเชียงใหม่จริง ‘โตโน่’ ภาคิน ดารานักร้องคนดังเปิดแถลง พร้อมโชว์สลิปออนไลน์ แนะออกมาชี้แจงโชว์หลักฐานรายรับ-รายจ่ายทั้งหมดจากการเปิดรับบริจาค ยันตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นเสียความรู้สึกอยากตัดเพื่อน ยอมรับหลังเกิดเรื่องอื้อฉาว
ได้คุยกันประมาณสองครั้ง แต่ไม่ได้พูดเรื่องเงิน โดนอีกดาบ‘ศรีสุวรรณ’รุดแจ้งปอท.เชือดทั้งหลอกลวง ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ ส่วนกรณีช่องส่องผีที่เริ่มถูกวิจารณ์นั้น ‘บ๊วย’ นัดชี้แจงวันจันทร์นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.ท.ทศพร ศรีสัจจา สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. แจ้งความเอาผิดนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง โดยเปิดเผยว่า จากกรณีที่สังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์
อย่างหนัก กรณีโพสต์ข้อความขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เงินไปกว่า 8 แสนบาท และต่อมาได้โพสต์แสดงรายการการใช้เงินบริจาค ดังกล่าว แต่ปรากฏว่ามิได้นำเงินบริจาคไปช่วยไฟป่าตามวัตถุประสงค์การขอรับทั้งหมด แต่กลับนำไปบริจาคช่วยโรงพยาบาลแก้ โควิด-19 และนำเงินไปผลิตสื่อเพื่อประโยชน์ส่วนตัวกว่า 2.5 แสนบาท อีกทั้งยังไม่มีการเปิดเผยยอด
บัญชีรายรับเงินบริจาคนั้น
นายศรีสุวรรณเปิดเผยต่อว่า การกระทำ ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา อาทิ ม.59 ประกอบ ม.341 และ ม.343 ฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม ม.14 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม 2560 และปรากฏโดยชัดแจ้งว่ามิได้ขออนุญาตจาก
นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ในการขอรับบริจาคด้วย จึงเข้าข่ายความผิดตาม ม.6 ม.17 ประกอบ ม.5 (3) แห่งพ.ร.บ.ควบคุมการ เรี่ยไร พ.ศ.2487 ด้วย ซึ่งมีอัตราโทษหลายกรรม รวมแล้วอาจถูกจำคุกไม่เกิน 8 ปี ปรับไม่เกิน 7.4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ บก.ปอท. เพื่อสอบสวนเอาผิดนายฌอนต่อไป
วันเดียวกัน นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ดับไฟป่าและมีทั้งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครลงพื้นที่ดับไฟป่าตลอดช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม เข้าให้ข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรม อำเภอแม่ริม เพื่อยืนยันว่าในช่วงภารกิจดับไฟป่าที่ผ่านมาไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือสนับสนุนจากฌอนแต่อย่างใด ซึ่ง
การให้ข้อมูลก็เพราะต้องการบอกความจริงกับสังคมเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบ และยังทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนทยอยเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะบางคนเพิ่งทราบข่าว เนื่องจากหลายคนไม่ได้ติดตามข่าวทางโซเชี่ยลมีเดีย
นายบุญญฤทธิ์กล่าวว่า หลังจากทนายชื่อดังเข้าแจ้งความที่ จ.นนทบุรี ได้รับการประสานจาก
พนักงานสอบสวนเจ้าของเรื่อง สอบถามมาในประเด็นการสนับสนุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครในพื้นที่ว่ามีจริงหรือไม่ ซึ่งอำเภอแม่ริมเป็นหนึ่งในพื้นที่เกิดไฟป่า รวมทั้งสอบถามในประเด็นการขออนุญาตเรี่ยไรและการนำเงินบริจาคไปใช้ หากได้รับหนังสือก็จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลรวมทั้งฌอนมาให้ข้อมูล เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย ก่อนที่จะสรุปรายงานผู้บังคับบัญชา
“นายฌอนควรออกมาให้ข้อมูลได้แล้ว จะที่ไหนก็ได้ เพราะประเด็นการเรี่ยไรบริจาคหากไม่ถูกต้องก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งการใช้จ่ายเงินบริจาคที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการเรี่ยไรที่อาจเข้าข่ายฉ้อโกงได้” นายบุญญฤทธิ์กล่าว
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผบก.ภ. เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่
ได้ตรวจสอบเรื่องการปลูกป่าที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ไปปลูกว่าในวันนั้นนายฌอนร่วมคณะไปได้อย่างไร ใครชักชวนไป หรือหน่วยงานที่ไหนจ้างไป ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบุคคลที่พาฌอนไปในวันนั้นคือ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สิน รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เป็นผู้นำไป ซึ่งไม่เกี่ยวกับทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และทางรัฐบาลแต่อย่างใด
ต่อมาพ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สิน รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้นำฌอน ไปร่วมปลูกป่ากับพล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า ตนไม่ได้เป็นคนนำนายฌอน ไปร่วมปลูกป่า กับท่านรองนายกฯแต่อย่างใด โดยนายฌอนไปกับบริษัทการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อติดที่เสื้อยืดที่ใส่ ตนนั้นเพียงแต่ไปเจอนายฌอน ในวันดังกล่าว แต่ไม่ได้เป็นผู้นำไปแต่อย่างใด ขอแก้ข่าวให้ตนด้วย
โตโน่โชว์สลิป1แสนให้‘ฌอน’
ที่อาคารมาลีนนท์ ถ.พระราม 4 นักร้องและนักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ แถลงข่าวกรณีร่วมบริจาคเงินให้นายฌอน เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าด้วย โดยบริจาคเป็นเงิน 1 แสนบาท และมีเพจดังปล่อยคลิปโตโน่ ภาคิน กับฌอน ว่า “เดี๋ยวผมโอนให้ 1 แสน เดี๋ยวผมช่วยแสนหนึ่ง ฌอนบอกเลขที่บัญชีมา”
โตโน่ ภาคิน แถลงว่า บางคนที่สงสัยว่าเราได้บริจาคช่วย 1 แสนบาทจริงหรือเปล่า ขอยืนยันว่าบริจาคจริง หลักฐานเดี๋ยวส่งให้ดู สำหรับสลิปที่เราโอนเข้าบัญชีส่วนตัวให้เพื่อนเรา ตอนนั้นถ้าทุกคนจำได้ สถานการณ์ไฟป่าที่เชียงใหม่ไม่หนักมาก ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง ดังนั้นเรามองว่าอะไรที่จะสามารถทำแล้ว ถึงเจ้าหน้าที่ถึงชาวบ้าน ที่เขาเดือดร้อนได้เร็วที่สุด เราต้องการที่จะทำเลย ความจริง
แล้วอยากจะไปด้วยตัวเอง แต่ติดช่วง โควิด-19 เดินทางข้ามจังหวัดไม่ได้ หลังจากว่ายน้ำเสร็จลงมาทำการบ้านเรื่องโควิด-19 มาทำการบ้านเรื่องไฟป่า ซึ่งเห็นว่าทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ แล้วนายฌอนก็ลงเรื่องไฟป่าที่เชียงใหม่ เราก็รู้จักและเห็นว่าให้เขานำไปทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์
“หลังจากที่ไลฟ์บอกว่าจะโอนผมก็โอนเลย และส่งสลิปไปให้ฌอน แต่ว่าไม่ได้โชว์สลิปให้ใครเห็นใน
ตอนนั้น ตอนแรกไม่คิดว่าจะให้ใครรู้ด้วย” โตโน่ ภาคินระบุ
เมื่อถามว่าตั้งแต่เกิดเรื่องได้คุยกับฌอนบ้างหรือไม่ โตโน่กล่าวว่า “คุยสองครั้งครับ แต่ว่าไม่ได้คุยเรื่องเงิน ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นเรื่องของเงิน แต่เป็นเรื่องที่เขาโพสต์ที่ไปปลูกต้นไม้ เราก็ได้คุย ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เป็นห่วงเขานะ ที่ไปยุ่งไปแตะเรื่องพวกนั้น ก็เป็นห่วงตามประสาเพื่อน ไม่ได้ไปสนใจเลย
เพราะเรื่องไฟป่าเชียงใหม่ก็จบไปสักระยะหนึ่งแล้ว ไม่ได้มาถามต่อว่าฌอนเอาเงินไปทำอะไร ในความเห็นของเรา เราช่วยแค่ไฟป่าเชียงใหม่ พอรู้ว่าไทยลำบากหรือตรงไหนที่เดือดร้อน อะไรที่เราต้องช่วยได้เราก็ช่วย ทางเราก็เชื่อมั่นว่าในทุกๆ ที่ที่เราช่วย จะสามารถเอาไปสร้างประโยชน์หรือบรรเทาความทุกข์ร้อน พ่อแม่พี่น้องเราได้ไม่มากก็น้อย ก็ขอให้ได้ช่วยเพราะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ”
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้จักกับฌอนเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วใช่ไหม โตโน่กล่าวว่า “รู้จัก เพราะว่าเมื่อประมาณปีที่แล้วผมทำโครงการเก็บรักษ์ เก็บขยะทั่วประเทศ ฌอนไดเร็กต์อินสตาแกรมมาหาเรา ว่าอยากจะมาช่วย เดี๋ยวพอดีมีช่วงจังหวะหนึ่ง ที่เราไปเก็บขยะที่จังหวัดเชียงใหม่ เลยไม่มีเพื่อน เพื่อน นักแสดงดาราหลายคนมาช่วย หนึ่งในนั้นก็คือฌอน ได้รู้จักกันในตอนที่ไปเก็บขยะในครั้งนั้น” เมื่อถามว่าโตโน่
ก็เคยให้สัมภาษณ์ในรายการของฌอนด้วยใช่หรือไม่ โตโน่กล่าวว่า “ใช่ครับ วันนั้นเลยพอเก็บขยะเสร็จ ก็ไปสัมภาษณ์กับฌอนต่อ เพื่อหวังจะให้คนได้รู้เยอะๆ เห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ความอันตรายของขยะพลาสติก เราต้องการให้เรื่องราวดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ให้คนได้รู้ ได้เห็นให้มากที่สุด”
เมื่อถามว่าเสียความรู้สึกไหมกับความตั้งใจที่ร่วมบริจาค แต่มีข่าวในทางไม่สู้ดีออกมา โตโน่ นิ่งเงียบ ก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าฌอนเอาหลักฐานมาชี้แจงแล้ว เงินที่เราจะเอาไปช่วยคนเชียงใหม่ กลายเป็นเอาไปทำเพื่อตัวเอง เอาไปใช้ส่วนตัว ไปซื้อรถไปซื้อบ้าน อันนี้ผมจะเสียความรู้สึก แต่ว่าตอนนี้ฌอนไม่ได้เอาหลักฐานมาให้พวกเราดู หรือออกมาชี้แจงเลย” เมื่อถามว่าวันนี้ก็ยังเชื่อใจฌอนอยู่หรือไม่ โตโน่
กล่าวว่า “ผมก็หวังว่าจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะว่าการช่วยเหลือกันในสังคมเป็นสิ่งสำคัญมาก น้ำใจเล็กๆ ของคนไทยที่มีต่อกันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เป็นสิ่งที่สวยงามมาก การที่เรามาทำเพื่อส่วนรวม เราเป็นแค่สะพานหรือตัวเชื่อมเล็กๆ การที่เราเอาเงินของพ่อแม่พี่น้องหลายๆ คน เอามาทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์ แค่ครั้งนี้พวกเราช่วยกันหลายครั้ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรคนไทยช่วยกันต่อกัน ดังนั้นผมไม่
อยากให้เกิดขึ้นเลยไม่อยากให้เกิดขึ้นจริงครับ”
เมื่อถามว่ามีอะไรฝากบอกกับนายฌอนหรือไม่ โตโน่กล่าว “ไม่ครับไม่มีอะไรฝากถึงเขา ผมคิดว่าทุกคนโตกันหมดแล้ว แล้วฌอนเขาก็ทำอะไรก็ว่ายังงั้นทำอะไรก็พูดอย่างนั้น แค่นั้นเอง”
บ๊วยนัดชี้แจงปมกังขาช่องส่องผี
สำหรับกรณีเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ออกมาแฉรายการ ช่องส่องผี ระบุมีรายการมีเนื้อหาบิดเบือนประวัติศาสตร์ พร้อมตั้งข้อสงสัยกรณีเปิดรับบริจาคเงินอ้างเพื่อทำบุญ แต่กลับเปิดรับบริจาคในนามบัญชีของพิธีกร ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันเดียวกัน เชษฐวุฒิ วัชรคุณ เปิดใจถึงประเด็นร้อนว่า “เรื่องที่เป็นข่าวผมทราบตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว คือเรื่องถูกบิดเบือนไปเยอะมาก จะขอพูดครั้งเดียวเลยในวันที่ 6 ก.ค. ทางรายการช่องส่องผี เราจะไปทำบุญเสริมสิริมงคลชีวิตและขอพรเนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2563 ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร”
บ๊วยกล่าวอีกว่า หมายนี้เรากำหนดไว้ก่อนที่จะมีข่าวนี้อีก แต่พอมีข่าวมา เราก็เลยถือโอกาสชวนทุกคนไปทำบุญด้วยกัน และตนจะพูดทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ว่า รายการของเราบิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะเราเองก็ได้รับข้อมูลที่บิดเบือนมาเหมือนกัน รวมถึงตัวเลขยอดบริจาคทั้งหมดที่ทุกคนข้องใจ เราจะมาชี้แจงพร้อมกันเลย
เมื่อถามว่า ความจริงแล้วจะกระทบเยอะหรือไม่ บ๊วยกล่าวว่า ตอนนี้ข่าวมาเยอะ พุ่งเป้ามาที่ตน สาเหตุนี้ตนถึงอยากที่จะพูดครั้งเดียวพร้อมกัน เพราะว่ายิ่งพูดเยอะ ก็ยิ่งไปใหญ่ และข่าวที่ออกมาว่าตนหนีนักข่าว อันนี้บอกเลยว่าไม่ได้หนี รับทุกสายที่นักข่าวโทร.มา และชี้แจงว่าขอพูดทีเดียวพร้อมกันในวันที่ 6 ก.ค.นี้