ทิ้งตำนาน‘จอมมโน’
อดีตนักร้องดังสิ้นใจ
เรื้อรังมานาน-กำ เริบ
‘อ.ยิ่งศักดิ์’รู้ข่าว-ช็อก
ขอทุกคนจดจำภาพดี

ปิดตำนาน – นาธาน โอมาน ดาราและนักร้องชื่อดัง วัย 45 ปี เสียชีวิตแล้ว ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ที่ร.พ.สมุทรสาคร ญาตินำร่างไปประกอบพิธีตามหลักศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดในเขตทุ่งครุ กทม. เมื่อ 4 ก.ค.

‘นาธาน โอมาน’ อดีตนักร้อง- นักแสดงชื่อดัง เสียชีวิตแล้วในวัย 45 ปี อาการป่วยด้วยโรคโลหิตจาง ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หลังอาการทรุดหามส่ง โรงพยาบาลได้แค่ 2 วัน ผู้จัดการส่วนตัวเผย นาธานป่วยเรื้อรังมานาน ‘อ.ยิ่งศักดิ์’ ขอทุกคนจำภาพนาธานเป็นศิลปินคนหนึ่ง ไม่อยากให้ใช้คำว่าจอมลวงโลกอีก

เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 4 ก.ค. นายสุธัญ โอมานันท์ หรือ นายนาธาน โอมาน อดีต นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง เสียชีวิตในวัย 45 ปี ที่ร.พ.สมุทรสาคร หลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคโลหิตจาง ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด โดยญาติเคลื่อนร่างไปประกอบพิธีตามหลักศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดอัลอิสติกอมะห์ ถ.ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ในเวลา 15.00 น.

นพ.อนุกูล ไทยถานันท์ ผู้อำนวยการ ร.พ.สมุทรสาคร เผยว่า นาธานเข้ามารับการรักษาตัวที่ ร.พ.สมุทรสาคร เมื่อเช้าวันที่ 2 ก.ค. ด้วยอาการเหนื่อยหอบ และมีโรคประจำตัวหลายโรค แพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างดีที่สุด โดยให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึก อายุรกรรมชาย จนกระทั่งเมื่อเช้าของวันนี้ ปรากฏว่า อาการทรุดหนักและหยุดหายใจไปชั่วขณะ แพทย์ต้องทำการฟื้นคืนชีพอยู่ 2 ครั้ง แต่

ในที่สุดเสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคโลหิตจาง และมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

ด้านผู้จัดการส่วนตัวของนาธาน เผยว่า นาธานป่วยมานานแล้ว มีอาการไข้ตัวร้อนและไอ ไปหาหมอตามปกติ ตอนหลังเริ่มเป็นมากไม่มีแรงจะเดินไข้ขึ้นสูงมากจึงไปโรงพยาบาล พบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ จากนั้นรักษาตามอาการมาตลอด กินอะไรไม่ได้เลย ทำให้ น้ำหนักลดลง แล้วพอได้น้ำเกลือดีขึ้นและ

กลับมาบ้าน แต่ผ่านไปอาทิตย์หนึ่งก็เป็นอีก เมื่อเห็นว่าเป็นมากและร่างกายซูบผอม จึงพาให้หมอตรวจเช็กให้ละเอียดเพราะตอนนั้นอยู่ในช่วงโควิด-19 พอเข้าเครื่องสแกนตรวจครบทุกสิ่งอย่างไม่พบเชื้อโควิด แต่หมอบอกว่าเขาเป็นไข้หวัดใหญ่โรคเดิมที่เป็นตั้งแต่ต้น พร้อมแนะนำว่าให้นาธานไปฟื้นฟูตัวเอง ด้วย การกินยากินอาหารให้ตรงเวลา แต่พออยู่ได้อาทิตย์หนึ่งก็เป็นอีก เรียกว่าเข้า-ออก

โรงพยาบาลมาเรื่อยๆ 7-8 เดือนแล้ว แต่ที่มาหนักสุดๆ คือช่วงหลัง จนล่าสุดหมอบอกว่าไม่ดีขึ้นและให้แอดมิตอยู่โรงพยาบาล 3 เดือน

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. เขาอาการไม่ดีเลยแอดมิต จนเมื่อเช้านี้หมอโทรศัพท์มาแจ้งว่านาธาน เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากร่างกายเขาไม่ไหวจริงๆ อวัยวะภายในถูกกินไปหมด ทีแรกก็สงสัยว่าเขาเป็นมะเร็งหรือเปล่า

เป็นวัณโรคหรือเปล่า เพราะเขาไอมาตลอด แต่พอตรวจเช็กแล้วไม่พบว่าเป็น จุดเริ่มต้นคือมาจากการเป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วพอภูมิในร่างกายมันไม่ดีเลยพาให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ อย่างที่บอกว่าเขานอนน้อย นอนดึกตื่นเช้า ประกอบกับเร่งทำวิทยานิพนธ์เพราะใกล้จะจบปริญญาโทในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้เอง เขาคงหักโหมเยอะ แต่สุดท้ายก็ไม่ทันได้รับใบปริญญาโทตามที่ตัวเองทุ่มเทและตั้งใจ

“ทุกวันนี้นาธานทำงานที่โรงงานพลาสติกที่ทำกับคนจีน โดยทำตำแหน่งผู้จัดการ ดูแล ทุกภาคส่วน หน้าที่การงานกำลังไปได้ดี มาติดช่วงโควิดไประยะหนึ่ง แต่ว่าโรงงานกำลังจะเปิดแล้ว เราก็ไม่นึกว่าเขาจะจากไปเร็วขนาดนี้ ที่ผ่านมาเวลามีปัญหาอะไรก็จะพูดคุยปรึกษากันตลอด คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และสัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน ส่วนตัวเสียดายอนาคตที่วางกันเอาไว้ เพราะปีหน้าเขาก็จะไปอยู่

เมืองนอก แต่เขาก็คงใช้หนี้กรรมของทุกคนหมดแล้ว ถือว่าไปสบาย เขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเจ็บปวดอีก ไม่มีห่วงอะไรนอกจากเรื่องเรียน เพราะน้องเขาเป็นฝั่งเป็นฝาแต่งงานไปแล้วอยู่ที่ต่างประเทศ” ผู้จัดการส่วนตัวของนาธานกล่าว

ด้าน อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ผู้ใหญ่ที่นาธานเคารพนับถือ เผยความรู้สึกหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของศิลปินหนุ่ม ว่า ทราบข่าวเมื่อช่วงบ่าย 2 พอดีเปิดเฟซบุ๊กแล้วเห็นคนโพสต์ อ่านเสร็จยังไม่ทันหายตกใจ พชร์ อานนท์ ก็โทร.มาบอก ทราบว่าหลายคนกำลังเดินทางไปที่ จ.สมุทรสาคร ส่วนตัวเสียใจมาก นาธานเรียกตนว่าแม่ทุกครั้งและช่วยงานมาตลอด แล้วก็ดีใจกับเขาที่กำลังจะประสบความ

สำเร็จเรียนจบปริญญาโท รวมถึงเล่าให้ฟังตลอดถึงเรื่องความเจริญก้าวหน้าของการติดต่อของเขากับประเทศจีน เขาชำนาญภาษาจีน เรียนรู้ทุกอย่างมากขึ้น แล้วยังบอกด้วยว่าตั้งแต่นี้ต่อไปเขาจะไม่ลำบากอีก เพราะเขาจะมาสายของคนทำงานและเป็นนักธุรกิจ

“จุดเริ่มต้นที่ทำให้อาจารย์กับน้องนาธานสนิทกันได้ ตอนนั้นเราทำรายการทีวีและได้สัมภาษณ์เขา

พอออกรายการทีวีเสร็จเกิดวิกฤตมีคนเข้าใจและไม่เข้าใจ เขาจะเป็นคนเดียวที่มานั่งเล่าและพูดความจริงให้เราฟังทั้งหมด เราจะปลอบและบอกเขาว่าให้นับหนึ่งใหม่ เขาเพิ่งจะไลน์คุยกับเราเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมานี้เอง ตอนที่คุยกันก็ไม่ทราบเลยว่าเขาป่วย เขาเองไม่ได้บอกด้วย คุยกันตามปกติ ในไลน์ยังบอกด้วยว่า เสร็จธุระแล้วจะรีบมาหาจะมาช่วยทำงาน เขากำลังวุ่นวายกับการเคลียร์งานที่โรงงาน

ที่สมุทรสาคร ที่ผ่านมามันทำให้เขาไม่มีงานทำในวงการบันเทิงเท่าไหร่เลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองได้คือต้องทำงานอะไรก็ได้ นาธานเป็นคนไม่เลือกงานเพราะเขารู้ตัวว่าตัวเองเดินทางมาผิด แต่ในความเป็นจริงเราอยากจะขอพูดว่า รู้สึกเสียใจ นาธานเป็นกรณีศึกษาให้กับเยาวชนไทยเลยว่า การก้าวเข้ามาสู่ในแวดวงบันเทิงที่ต้องคล้อยไปตามทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ชื่อ

เสียง เรตติ้ง เงินทอง บางทีโอกาสที่จะพลาดก็เป็นไปได้ อาจารย์ว่า นาธานเกิดมาเพื่อเป็นตัวอย่างให้ทุกคนได้เห็นว่า การเดินทางที่ถูกต้องของชีวิตนั้นต้องทำอย่างไร” อ.ยิ่งศักดิ์กล่าว

ส่วนหลายคนมีภาพจำคำว่า “จอมลวงโลก” ติดตัวนาธานไปแล้ว อ.ยิ่งศักดิ์กล่าวว่า นาธานเป็นคนซื่อ ซื่อเกินไปกับสังคมที่เต็มไปด้วยเหลี่ยม เขาก้าวเข้ามาแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย มีสิ่งเดียวที่เขา

อยากได้คือต้องการทำงาน และต้องทำงานให้ดีที่สุด เชื่อฟังผู้ใหญ่ทุกคนที่คอยให้คำแนะนำ ถึงแม้ว่ามันอาจจะถูกมากถูกน้อย แต่ทุกคนต้องอย่าลืมว่าก่อนหน้านี้โซเชี่ยลต่างๆ ยังไม่กระหึ่มเท่าวันนี้ ในวันเก่าๆ เมื่อใครก็ตามได้ตั้งฉายาว่า “จอมลวงโลก” ใครก็ตามที่ทำให้เขาได้มีโอกาสแสดงส่วนที่เขาได้ผิดพลาด และเป็นที่ประจักษ์ว่ามันเป็นภาพจำที่ลบเลือนยากมาก ตอนนั้นเขาเองไม่มีโซเชี่ยลมีเดียอยู่

บนมือเหมือนยุคนี้ ภาพจำของเขามันกลายเป็นจอมลวงโลก นิทานเรื่องต้นมักกะลีผล เรื่องอะไรต่ออะไร มันก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสร้างขึ้นมาทั้งหมด ทุกคนก็จะจดจำแต่ส่วนนั้น

“วันนี้ก็คงไม่มีใครต้องพูดถึงแล้ว อาจารย์ถือว่าคนที่จากโลกนี้ไปแล้วเขาคือผู้บริสุทธิ์ อยากขอทุกคนเอาไว้เลย นาธานเป็นศิลปินของเราคนหนึ่ง ไม่อยากให้ใช้คำว่าจอม ลวงโลกอีก เพราะจะเป็นการไม่

ให้เกียรติ ผู้วายชนม์ เรามองว่าประสบการณ์ที่มากของเขาทั้งในทางที่ถูกมากถูกน้อย จะเป็นกรณีศึกษาที่ดีที่สุดของคนคนหนึ่งทีเดียว วันนี้นาธานไปสบายแล้ว อยากให้ทุกคนจดจำบทเพลงของเขา เขาก็เป็นหนึ่งคนที่เข้ามาในรูปแบบของเยาวชนที่อยากมีที่ยืนในวงการบันเทิงไทย เสียดายที่เขาอายุสั้น ถ้าเขายังอยู่ต่อเชื่อว่าเขามีโอกาสทำความดีมากกว่านี้อีกเยอะ แล้วผลงานของเขาจะสามารถลบ

เลือนภาพจำของเขาได้ แต่วันนี้เขาจากไป เราคิดว่าเขาไม่มีโอกาส ฉะนั้นสิ่งเดียวที่พวกเราทุกคนที่รู้จักชื่อ นาธาน โอมาน ขอให้ให้โอกาสเขาและจดจำเขาในสิ่งที่ดี ส่วนตัวเพิ่งโพสต์ในอินสตาแกรมว่า ขอให้พระผู้เป็นเจ้ารักและเอ็นดูน้องนาธานตลอดไป” อ.ยิ่งศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับนาธาน โอมาน มีชื่อจริงว่า สุธัญ โอมานันท์ เป็นบุตรของนายธัญญา และนางอุทัยวรรณ นาธาน มีน้องสาวร่วมบิดามารดา 1 คน ชื่อเล่น น็อต นายนาธานมีชื่อโดยกำเนิดว่า ธัญญวัฒน์ หยุ่นตระกูล เกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2518 เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการ ถ่ายแฟชั่นนิตยสาร อย่าง อิมเมจ ลิปส์ ป๊อปทีน จากนั้นก้าวมาเป็นศิลปินนักร้องค่าย อาร์เอส มีอัลบั้มแรกในสไตล์ป๊อปร็อกที่ชื่อ

Nathan ต่อมาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นข่าวโด่งดังจากเหตุการณ์รอดชีวิตภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ หลังจากนั้น 2 ปีออกผลงานอัลบั้มชุดที่ 2 คือ สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ จากนั้นได้เปิดบริษัททำทัวร์ไปเที่ยวประเทศเนปาล และออกผลงานเขียนหนังสือเรื่อง ผมมันเด็ก หลังเขา (หิมาลัย) และโลกนี้ไม่เหงาแล้ว (Not A Lonely Planet)

กลางปี พ.ศ. 2551 นาธานให้สัมภาษณ์ว่าได้แสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง The Prince Of Red Shoe ของบริษัทบิกบลู ในเครือค่ายทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟอกซ์ ซึ่งมี วูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน และ มูฮำหมัดซูอัต เป็นผู้กำกับ โดยแสดงร่วมกับดาราดังอย่าง บรูซ วิลลิส และ คริสตินา ริชชี่ ถ่ายทำในหลายประเทศ แต่เมื่อมีการสืบค้นข้อมูล ตลอดจนหลักฐานอื่นๆ กลับไม่มีสิ่งยืนยันว่านาธานแสดงภาพยนตร์ตามที่กล่าวอ้าง

จึงกลายเป็นหัวข้อถกเถียงในอินเตอร์เน็ตว่านาธานพูดโกหกหรือไม่

นอกจากนั้นยังถูกหลายบุคลเปิดโปงเรื่องฉ้อโกงหลายคดี ทั้งจาก จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์ (เจเจ) ดีเจคลื่นอีซี เวอร์จิ้นเรดิโอ หุ้นส่วนร้าน Jamaree Yak Cafe Gallery, ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง อดีตนักร้องสังกัดอาร์เอส ออกมาเปิดโปงว่าหลอกลวงเงินของ นางนันทพร พรายแสง น้าแท้ๆ ไปร่วมสามแสน

บาท, อดีตแม่บ้านของนาธาน แจ้งความอดีตนักร้องหนุ่มข้อหาฉ้อโกงเงินกว่า 3 แสนบาท
เจ้าตัวยังอ้างว่าเป็นลูกครึ่งเนปาล-ไทย มีพ่อเป็นนักธุรกิจค้าขายอัญมณีจำพวกหินสีชาวเนปาล แม่เป็นคนไทยเชื้อสายโอมาน เกิดที่เมืองปาฏัน มีฐานะทางครอบครัวในระดับที่มั่นคง โดยออกจากเนปาลมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อายุ 15 ปี และมีความสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา คือ ภาษา

ไทย, เนปาล, อาหรับ, ฝรั่งเศส และรัสเซีย อีกทั้งยังเคยใช้ชีวิตมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งเคยเป็น ลูกเรือประมงที่จังหวัดภูเก็ต หรือเคยเผชิญหน้ากับขบวนการค้ามนุษย์ที่ชายแดนกัมพูชามาแล้ว
ต่อมาเมื่อเดือน ธ.ค. 2553 ยอมรับในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ว่าเขากุเรื่องขึ้น อ้างว่าเพราะผู้มีพระคุณต้องการสร้างตัวตนของตนให้เป็นแบบนั้น ให้มีชีวิตที่น่าทึ่ง เป็นเด็กอัจฉริยะสามารถพูดได้หลาย

ภาษา เป็นต้น และวิเคราะห์ตนเองว่า เป็นคนที่ต้องการความรัก ต้องการความอบอุ่น กลัวคนจะไม่รัก เลยต้องจำใจโกหกตามที่ผู้มีพระคุณได้วางหมากไว้ และเข้าใจว่าคนทั่วไปชอบเรื่องโกหก เวลาพูดความจริงจะไม่เคยเชื่อ แต่พอโกหกทุกคนเชื่อกัน จึงกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเรื่อยมา

วันที่ 28 ก.พ. 2554 ศาลจังหวัดเลยได้พิจารณาคดีที่นางสิทธิพร โคตรอุดมพร แจ้งความดำเนินคดี

ศาลจังหวัดเลยพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่เจ้าตัวรับสารภาพจึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 1 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้เงินกับคู่กรณีทั้งหมด ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2554 พ้นโทษเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ปีเดียวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน