เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลําเจียก ผกก.สภ.สามควายเผือก พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายณรงค์ชัย เสษโถ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/8 หมู่ 4 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม ผู้ต้องหาแจ้งความเท็จว่าถูกชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. เวลา 15.00 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ภ.จว.นครปฐมได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่สภ.สามควายเผือก บริเวณถนนเลียบคลองประปาหมู่ 9 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม
ต่อมาตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบพบนายณรงค์ชัย เสษโถ อาชีพรับจ้างโรงงานชำแหละเนื้อหมู ซึ่งเป็นผู้เสียหายให้การกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนขี่รถจยย.มากดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม บริเวณร้านสะดวกซื้อหน้าวัดตาก้อง จำนวน 234,300 บาท ขณะขี่รถจยย.กลับบ้านพัก เมื่อขี่ผ่านมายังจุดเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถจยย. ติดตามมาพร้อมใช้ก้อนหินและปืนจี้ชิงทรัพย์เอาเงินสดไป ทั้งโทรศัพท์มือถือและบัตรเอทีเอ็ม
หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนเชิญตัวนายณรงค์ชัยมาสอบถามข้อมูลเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน แต่คำให้การของนายณรงค์ชัยไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐานของตำรวจ
ต่อมานายณรงค์ชัยให้การรับสารภาพว่าตนเสียเงินจำนวนดังกล่าวไปกับการเล่นการพนันออนไลน์ แล้วเกรงว่านายจ้างและครอบครัวจะต่อว่า จึงสร้างเรื่องว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์ไป ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมส่งดำเนินคดีกับนายณรงค์ชัย
ทั้งนี้นายณรงค์ชัยรับสารภาพว่าบัญชีธนาคารซึ่งเป็นเอทีเอ็มของน.ส.ศิริลักษณ์ แก้วเขียว ภรรยาของตนเอง โดยนำบัตรเอทีเอ็มมากดเงิน 7 ครั้ง รวม 234,300 บาท เนื่องจากตนเสียเงินดังกล่าวไปกับการเล่นการพนันออนไลน์ แล้วเกรงว่านายจ้างและครอบครัวจะต่อว่าถึงสร้างเรื่องว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์ไป
โดยชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับสอดคล้องว่าไม่มีเหตุการณ์ชิงทรัพย์เกิดขึ้นจริง เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเอง เพื่อนำเงินไปเล่นการพนันบักคาราออนไลน์ จึงแจ้งข้อกล่าวหากับนายณรงค์ชัยรวม 3 ข้อหา 1.แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจจะทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
2.แจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่เจ้าพนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา โทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 3.รู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีและปรับไม่เกิน 6,000 บาท
ทั้งนี้จะได้นำตัวส่งพนักงานอัยการศาลแขวงนครปฐมและยื่นฟ้องต่อศาลแขวงนครปฐมต่อไป
