ที่บอก8แสน-ข้อมูลตกหล่น
ยืนยันไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว
เตรียมส่งให้หน่วยดับไฟป่า
รับหลังเป็นข่าว-มีคนขอคืน

‘ฌอน’ ยอมรับผิด ไม่รอบคอบปมใช้เงินบริจาค อัดคลิปผ่านเฟซบุ๊ก ยันยอดเงินไม่ใช่ 8 แสน ตอนนี้มีทั้งหมด 1.3 ล้าน เตรียมมอบแก่หน่วยงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ เผยไม่มีวันไหนที่จะ ไม่คิดเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษที่ทำ ให้ครอบครัวเพื่อนๆ และแฟนๆ ต้องเป็นห่วง ด้านรอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ยันรูปที่คุยกันบนโต๊ะเป็นการคุยงาน ไม่ใช่แนะนำเรื่องบัญชีรับบริจาค ตร.นนทบุรี รอเอกสารที่เกี่ยวข้องก่อนสรุปก่อนดำเนินการ

จากกรณี นายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ที่ตกเป็นข่าวความไม่โปร่งใสเรื่องเงินรับบริจาคช่วยอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โดยที่กลุ่มอาสาดับไฟป่าและเจ้าหน้าที่ทั้งหน่วยงานป่าไม้ และโดยเฉพาะหน่วยงานอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่นายฌอน ใช้ภาพต่างๆ

ขณะดับไฟป่าและภาพไฟป่ามาเป็นองค์ประกอบในการรับบริจาค ไม่เคยได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการเงินและสิ่งของ จากนายฌอน จนเป็นประเด็นร้อน ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายฌอนได้โพสต์วิดีโอลงบนแฟนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณีดังกล่าว ในเรื่องเงินบริจาค โดยสรุปใจความดังนี้ วันที่ 27 มิ.ย. เกิดคำถามขึ้นจากเพจหนึ่งทางออนไลน์ เข้ามาเรื่องการบริจาค ณ เวลานั้นผมรู้สึกเป็นห่วง และมีเจตนาที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ

จึงได้รีบร้อนออกมาชี้แจงทางโพสต์ในเฟซบุ๊ก ผมขออภัยในความไม่รอบคอบในการจัดการการบริจาคทั้งหมด ความหละหลวมในการนำเสนอข้อมูลในชุดแรก สื่อสารไปตั้งแต่ยังรวบรวมข้อมูลไม่ครบถ้วนดี วันนั้นผมรีบร้อนอยากรีบสื่อสารให้เร็วที่สุดเพราะห่วงความรู้สึกเพื่อนๆ ที่ไว้ใจผมและบริจาคเข้ามา

จึงสื่อสารข้อมูลตัวเลขออกไปไม่ครบถ้วน ณ เวลานั้นผมไม่ได้อยู่บ้าน และไม่ทันเช็กให้รอบคอบ จึงรีบให้ทีมงานสรุปยอดเท่าที่มีใบเสร็จที่รวบรวมไว้และยืนยันได้ ณ เวลานั้น โดยได้แจ้งในเพจไปว่า ยอดบริจาค 875,741.53 บาท แต่ที่จริงยอดนั้นคือยอดที่ได้ใช้ไปโดยรวมจากใบเสร็จใน ขณะนั้น (มีการใช้คำผิด)

ภายหลังเมื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก็พบว่ามียอดที่ใช้ไปตามใบเสร็จทั้งสิ้น 991,541.36 บาท และในบัญชีนี้มีเงินเข้ามาในช่วงเวลาที่รับบริจาคทั้งสิ้น เป็นเงิน 1,338,644.01 บาท ในทันทีที่ทราบว่ามีข้อมูลตกหล่นจึงคิดว่าควรมีหน่วยงานกลางที่เชื่อถือได้มาตรวจสอบ

ในวันที่ 29 มิ.ย. ผมรีบยื่นจดหมายถึงหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ ขอความอนุเคราะห์ให้จัดทีมเข้ามาตรวจสอบสเตตเมนต์บัญชีที่รับบริจาคและบัญชีอื่นๆ รวมทั้งใบเสร็จ ผมได้แสดงหลักฐานทั้งหมด ต่อ เจ้าหน้าที่ในวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ แสดงให้เห็นว่าผมไม่ได้นำเงินส่วนใดไปใช้เรื่องส่วนตัวเลย ทั้งนี้มีผู้บริจาคสามารถที่จะขอเงินคืน 2 ราย ได้ดำเนินการคืนเงินแล้ว รายละ 100 และ 200 บาท จำนวนรวม 300 บาท จากการที่ผมไม่รอบคอบ คิดไม่ถี่ถ้วนในการจัดการเงินบริจาค

ผมขอน้อมรับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ และสื่อต่างๆ ที่ปรารถนาดี ผมขอแสดงความรับผิดชอบโดยจะรวบรวมเงินบริจาคทั้งหมด ทุกบาททุกสตางค์ ส่งมอบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือเรื่องไฟป่าต่อไป จำนวนเงินดังนี้ ยอดบริจาค (ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม-30 เมษายน) การโอนเข้าจำนวน 5,974 ครั้ง สเตตเมนต์ 167 แผ่น เป็นจำนวนเงิน 1,338,644.01 บาท

รวมกับ 1.เงินอีกส่วนที่เข้ามาในบัญชีบริษัทและบัญชีส่วนตัวที่จำนวน จำนวน 41 ครั้ง เป็นยอดรวม 3,501.95 บาท ซึ่งเราสันนิษฐานว่าอาจเป็นเงินที่ผู้โอนมีเจตนาเพื่อร่วมบริจาค

2.เงินที่เข้ามาหลังจากปิดบริจาคหลังจากวันที่ 1 พ.ค.ถึง 28 มิถุนายน มีผู้โอนเข้ามาอีก 50 ครั้ง เป็นยอดรวม 4,189.92 บาท 3.เงินที่เข้ามาหลังจากปิดบริจาคหลังจากวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม มีผู้โอนเข้ามาอีก 49 ครั้ง เป็นยอดรวม 551.85 บาท รวมจำนวนทั้งหมดหลังจากนำเลขบัญชีออกจาก Post รับบริจาค 4741.77 บาท รวมจำนวนเงินทั้งหมดที่จะส่งมอบ 1,346,887.73 บาท เมื่อได้ส่งมอบให้แก่หน่วยงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ผมจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

“ตอนนั้นผมไม่อยู่บ้าน ไม่ทันเช็กให้รอบคอบ จึงรีบให้ทีมงานสรุปยอดเท่าที่ มีเสร็จที่รวบรวมไว้ โดยแจ้งว่ามียอด 875,741.53 บาท แต่จริงๆ ยอดนั้นเป็นยอดที่รวบรวมจากใบเสร็จ ซึ่งผมได้ใช้คำผิด ภายหลังเมื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนพบว่า มียอดที่ใช้ตามใบเสร็จทั้งสิ้น 991,541.36 บาท และในบัญชีนี้มียอดรับบริจาคทั้งสิ้น 1,338,644.01 บาท ทันทีที่ทราบว่ามีข้อมูลตกหล่น

ผมจึงคิดว่าควรมีหน่วยงานที่น่าเชื่อถือมาตรวจสอบ วันที่ 29 มิ.ย. ผมรีบยื่นจดหมายหลักฐานทั้งหมด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าผมไม่ได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว

ผมยอมรับว่าไม่รอบคอบ ถี่ถ้วน เรื่องเงิน ผมขอน้อมรับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ และสื่อต่างๆ ที่ปรารถนาดี ผมขอแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการนำเงินทุกบาททุกสตางค์ส่งมอบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในการช่วยเหลือไฟป่าต่อไป

ไม่มีวันไหนที่ผมจะไม่คิด จะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมขอโทษที่ทำให้ครอบครัวเพื่อนๆ และแฟนๆ ต้องเป็นห่วงผม และกังวลในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมขอโทษในการสื่อสารทุกอย่างที่ไม่ถูกต้อง และขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจ คำติชม ในช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดในชีวิตของผม และผมจะจดจำเป็น บทเรียน จะไม่ทำผิดซ้ำเดิม และจะไม่ทิ้งความตั้งใจ” ฌอนกล่าว

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกรณีรูปที่คุยกัน ‘ฌอน บูรณะหิรัญ’ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง

โดย พ.ต.อ.ปิยะพันธ์เปิดเผยว่า ตนเองรับผิดชอบเรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่า ขณะเดียวกันศูนย์หมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าฯ ก็ได้มอบหมายให้ตนเองตรวจสอบข้อมูล ผู้ที่เปิดรับบริจาคเงินมาช่วยเหลือในภารกิจดับไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่

ต่อมามีโอกาสเจอนายฌอน ที่เป็นไลฟ์โค้ชชื่อดัง และยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีผู้ติดตามในโซเชี่ยลมีเดียจำนวนมาก จึงได้พูดคุยเพื่อชักชวนฌอนมาช่วยเรื่องการทำฟาร์มตัวอย่างในพื้นที่อำเภอจอมทอง โดยใช้สถานที่แห่งหนึ่งในการพูดคุย เพื่อให้นายฌอนมาช่วย

ซึ่งต่อมาภาพที่ตนเองนั่งพูดคุยกับนายฌอนได้ถูกนำไปโพสต์ พร้อมระบุว่า ได้มาหารือและชี้แจงเรื่องเงินบริจาคกับตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะได้พูดคุยกันเรื่องงานฟาร์มตัวอย่างเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้นายฌอน ลบภาพดังกล่าวออก เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิดตนเอง และยังเข้าใจว่าตนเองคือผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำนายฌอนเรื่องการเปลี่ยนบัญชีรับบริจาคเงิน

โดยหลังนายฌอนเดินทางไปพบกับตนเองอีกครั้งที่ฟาร์มตัวอย่าง เมื่อวันที่ 4 พ.ค. จากนั้นก็ไม่ได้พบกับนายฌอนอีก กระทั่ง วันที่ 21 พ.ค. ตนเองก็พบกับนายฌอนอีกครั้งในงานปลูกป่า ก็ยังแปลกใจจึงเข้าไปสอบถาม ก็ทราบว่า ทางออร์แกไนซ์ที่ ททท.ว่าจ้างได้เชิญนายฌอนมา

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์บอกว่า ได้ติดต่อไปยัง นายฌอนแล้วเพื่อให้ลบภาพดังกล่าวออก แต่ติดต่อไม่ได้ จึงประสานผ่านเลขาฯ ส่วนตัวไป และอยากให้นายฌอนออกมาชี้แจงกับสังคมเรื่องเงินบริจาค เพราะเรื่อง ทุกอย่างอยู่ที่ตัวนายฌอน ส่วนตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ข่าวที่ออกไปทำให้เสียหาย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าผู้บังคับบัญชาเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า หลังจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้โพสต์ข้อความว่า “พรุ่งนี้ครบกำหนด 7 วันที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ดให้ธนาคารกสิกรไทยส่งสเตตเมนต์มาที่ โรงพัก ถ้าคุณฌอน ไม่ออกมาแจงบัญชีก็รอติดตามความคืบหน้าได้ที่สภ.ปากเกร็ด”

ด้านพ.ต.ท.แสวง สนูหมื่น พนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด เจ้าของคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งความจากทนายรณณรงค์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ให้ดำเนินคดีกับนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ในข้อหาความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ในการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และพ.ร.บ.การเรี่ยไรหลังเปิดบัญชีรับบริจาคเงินช่วยดับไฟป่า

ตนได้ทำหนังสือออกหมายเรียขอเอกสารไปยัง 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 1.สำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทยเพื่อขอ สเตตเมนต์บัญชีเลขที่ 150-834-6042 ที่มีการเปิดรับบริจาค

2.หนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรื่องขอตรวจสอบการขออนุญาตทำการเรี่ยไร 3.หนังสือถึงผอ.สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 จ.เชียงใหม่ กรมอุทยานและพันธุ์พืช เรื่องมีการได้รับบริจาคสิ่งของหรือไม่ 4.นายอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เรื่องขอตรวจสอบการขออนุญาตทำการเรี่ยไร โดยส่งหนังสือไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.

โดยขอเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่าง เต็มที่ แต่ทุกอย่างต้องรอเอกสารหลักฐานส่งกลับมาก่อนถึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน