โอนเงินบริจาคดับไฟ
เข้าบัญชีตัวเอง1.2ล.
ปลัดแม่ริมเตรียมแจ้งความจับ ‘ฌอน บูรณะหิรัญ’ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ข้อหายักยอก-ฉ้อโกง เงินบริจาคดับไฟป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ หลังตรวจสอบบัญชีที่เปิดรับบริจาค พบเอาไปจ่ายบัตรเครดิต- โยกย้ายเข้าบัญชีตัวเองกว่า 1.2 ล้าน ปูดเปิดบัญชีรับเงิน 1 เดือน ตั้งแต่มี.ค.-เม.ย. มีเงินเข้าบัญชี 5,960 ครั้ง รวม 1,338,889 บาท โอนไปจ่ายบัตรเครดิต 4 ครั้ง ครั้งละ 5 หมื่น วันที่ 3-7 เม.ย. ถัดมาอีก 3 วันโยก
เข้าบัญชีส่วนตัวอีก 2 ครั้ง รวม 1 ล้าน ส่วนที่ไปซื้อหน้ากากอนามัย 2 แสนกว่าบาท ในวันที่ 12 มิ.ย. ก็ผ่านพ้นวิกฤตไฟป่าไปแล้ว ให้ โอกาสฌอนมาชี้แจง หากยังเงียบ 17 ก.ค.นี้แจ้งความเอาผิดแน่
จากกรณีฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ที่ตกเป็นข่าวความไม่โปร่งใสเรื่องเงินรับบริจาคช่วยอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โดยที่กลุ่มอาสาดับไฟป่าและเจ้า
หน้าที่ทั้งหน่วยงานป่าไม้ และโดยเฉพาะหน่วยงานอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่นายฌอนใช้ภาพต่างๆ ขณะดับไฟป่าและภาพไฟป่ามาเป็นองค์ประกอบในการรับบริจาค ไม่เคยได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการเงินและสิ่งของจาก นายฌอน ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคม และเรียกร้องให้หน่วยงานที่ฌอนเข้าไปเกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำตัวฌอนออกมาแถลงข้อเท็จจริง ตามข่าวที่ได้
เสนอไป
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นาย บุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการตรวจสอบบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขารวมโชค จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดรับบริจาคของนายฌอน บูรณะหิรัญ ระบุพบข้อสงสัยหลายอย่างที่อาจเข้าข่ายความผิด โดยบัญชี ดังกล่าวมีเงินคงค้างบัญชีที่ 90,286 บาท
นายบุญญฤทธิ์กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่เปิดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-3 เม.ย. พบว่ามีเงินเข้าบัญชี 5,960 ครั้ง ยอดเงินรวม 1,338,889 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบยอดถอนทั้งหมด 7 ครั้ง พบรายละเอียด 6 ครั้ง เป็นเงิน 1,200,000 บาท ในการถอนเงินที่พบ 4 ครั้งแรก เป็นวันที่ 3 และ 4 เม.ย. โดยโอนจ่ายบัตรเครดิต 4 ครั้ง ครั้งละ 50,000 บาท รวม 200,000 บาท หลังจากนั้นวันที่ 7 เม.ย. โอนเข้า
บัญชีของฌอน ธนาคารไทยพาณิชย์ สองครั้ง ครั้งละ 5 แสนบาท รวม 1 ล้านบาท การถอนและโอนเงินทั้งหมดนี้เกินยอดคงค้างเดิมในบัญชีที่มีอยู่ 90,286 บาท ทำให้ต้องตรวจสอบว่าเงินส่วนเกินที่นำไปใช้ เป็นการนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของการเปิดรับบริจาคช่วยไฟป่าหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบว่ามีการโอนเงินช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการจัดซื้อสิ่งของเพื่อช่วยไฟ
ป่า มีเพียงการจัดซื้อหน้ากากอนามัยจากบริษัทเชียงใหม่เดลต้า จำนวน 224,998 บาท ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านพ้นวิกฤตไฟป่าไปแล้ว
“นายฌอนต้องเข้ามาชี้แจงให้ได้ว่าเงิน ที่นำไปใช้กว่า 1.1 ล้านบาทนั้นเอาไปทำอะไร มีหลักฐานแสดงหรือไม่ หากอธิบายไม่ได้ ก็อาจเข้าข่ายยักยอกเงินของประชาชน เพราะ ผู้บริจาคโอนให้เพื่อให้ไป
ช่วยไฟป่า ไม่สามารถนำไปใช้ได้ตามอำเภอใจ ซึ่งในที่สุดหากฌอนไม่มาพบหรือส่งตัวแทนชี้แจง ตามกำหนดเวลาที่ให้ไว้ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ทางอำเภอแม่ริมก็เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากเป็นท้องที่ เกิดเหตุ ทั้งข้อหาเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต ยักยอกทรัพย์ หรือฉ้อโกง ซึ่งเอกสารบัญชีธนาคารจะถือว่าเป็นเอกสารที่ปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งการแจ้งความ
เป็นความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ที่ เรียกร้องให้ดำนินคดีไม่ให้เป็นตัวอย่าง” นาย บุญญฤทธิ์กล่าว