ระดมตร.คุ้มกันช่องส่องผี วันขมา‘ย่าโม’ ผวจ.นครราช สีมาเผย จุดกราบที่ลานอนุสาวรีย์และวัดศาลาลอย ขณะชาวพิมายเรียกร้อง ทีมส่องผีทุกคนมากราบขอขมาที่อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ที่เคยเป็นสนามรบ ชาวพิมายถึงจะให้อภัย

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากำหนดการของพิธีกรรายการช่องส่องผี ที่จะเดินทางมาขอขมาคุณย่าโมและนางสาวบุญเหลือว่า ทางพิธีกรรายการช่องส่องผีได้ประสานจะเดินทางมาขอขมาคุณย่าโมและนางสาวบุญเหลือในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค. เวลา 14.00 น.

สำหรับพี่น้องชาวนครราชสีมาเป็นคนใจดี ใจกว้าง เมื่อไม่พอใจก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องวีรสตรีที่เคารพนับถือ หลังจากขอขมาเสร็จสิ้น เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับนครราชสีมาน่าจะจบลงด้วยดี

“อยากฝากถึงพี่น้องชาวโคราชว่า ปัญหาทุกอย่างได้แก้ไขไปตามแนวทางตามขั้น ตอนแล้ว ด้านกฎหมายก็ดำเนินการไปตามกระบวนการทางกฎหมาย สำหรับการเข้า แจ้งความของกลุ่มสตรีชาวโคราช ถือเป็นการแสดงออกอีกทางหนึ่ง ทางจังหวัดยังยืนยัน ที่จะให้ช่องส่องผีลบคลิปรายการที่มีปัญหาออกจากทางยูทูบ

เพื่อไม่ให้เกิดความ สับสนหรือเป็นประเด็นถกเถียงอีก จึงจำเป็นต้องลบออกไปให้หมด เพราะข้อมูลไม่ ถูกต้อง เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร” นายวิเชียรกล่าว

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร พร้อมพล.ต.ต.สุจินต์ นิจพาณิชย์ ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา นายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา กำนันตำบลหนองกระทุ่ม อ.เมือง ในฐานะนายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.นครราชสีมา นายไกรศร ทองมูลชัย ผอ. โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ นายแหลมทอง วัฒนา นายกเทศมนตรีตำบล โคกสูง อ.เมือง ประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการขอขมาของผู้ดำเนินการรายการช่องส่องผีและกอบกู้ภาพลักษณ์ท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ

นายวิเชียรกล่าวว่า มติที่ประชุมเสนอให้ขั้นตอน วิธีการดำเนินการประกอบพิธีขอขมาลาโทษท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือต้อง ถูกต้องและสมเกียรติ กำหนดวันที่ 19 ก.ค. เวลา 14.00 น. ผู้ดำเนินรายการช่องส่องผีจะเดินทางมาทำพิธีขอขมา 2 แห่ง คือบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและภายในวัดศาลาลอย

ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ โดยต้องจัดเครื่องเซ่นไหว้ให้เต็มรูปแบบตามจารีตขนบธรรม เนียมของชาวโคราชและมีคำกล่าวแสดงออกถึงความเสียใจและการขอโทษ อย่างแท้จริง รวมทั้งค่าใช้จ่ายทุกขั้นตอน รายการช่องส่องผีต้องรับผิดชอบทั้งหมด








Advertisement

ซึ่งประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย รวมทั้งให้รายการช่องส่องผี นำเนื้อหาการ ขอขมาเผยแพร่สู่สาธารณะให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบและเยียวยาความรู้สึกของ ผู้ที่รักศรัทธาย่าโมและนางสาวบุญเหลือ

“ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารเหตุการณ์พิธีขอขมาตามช่องทางสื่อมวลชนต่างๆ ได้นำเสนอแบบเรียลไทม์ ไม่จำเป็นต้องเดินทาง เนื่องจากในพิธีการได้มีสักขีพยานซึ่งเป็นตัวแทนชาวโคราชร่วมอยู่แล้ว หลังจาก ผ่านเหตุการณ์นี้ จ.นครราชสีมา มีแผนการ จัดกิจกรรมฟื้นฟูเกียรติคุณบารมีของ ท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือโดยความร่วมมือของลูกหลานชาวโคราช” ผวจ.นคร ราชสีมากล่าว

วันเดียวกันนายแฉล่ม ภักดีจอหอ อายุ 67 ปี ตัวแทนชาวบ้านในอำเภอพิมาย จ.นครราชสีมา ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้ดำเนินรายการทุกคนเข้ามากราบขอขมาคุณย่าโมและคุณย่าเหลือที่อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมายด้วย

ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุจริง เคยเป็นสนามรบเมื่อครั้งสงครามในสมัยรัชกาลที่ 3 มีวีรสตรีชาวโคราชพลีชีพเป็นจำนวนมากปกป้องเมืองโคราชเอาไว้ จึงอยากให้ทีมงานรายการช่องส่องผี ได้เข้ามากราบขอขมาคุณย่าโม-คุณย่าเหลือที่อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ชาวพิมายจึงจะให้อภัย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ได้เห็นข่าวว่ากลุ่มสตรีแม่บ้านจะไปแจ้งความร้องทุกข์เนื่องจากเกิดความไม่พอใจ ซึ่งก็ต้องดูเหตุการณ์ ในวันที่ 19 ก.ค.ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ทราบว่าจะไปขอขมาย่าโมและ ย่าบุญเหลือ แต่ยังไม่แน่ใจว่าสถานที่จะเป็นวัดศาลาลอย หรือที่หน้าลานอนุสาวรีย์ย่าโม ถ้าเขาไปจริงๆ เป็นเรื่องของทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนได้หารือผวจ.นครราชสีมา

และได้กำชับไปแล้วว่า หากเขาไปขอขมาย่าโมก็ขอให้ดูเรื่องความปลอดภัยให้เป็น พิเศษด้วย เนื่องจากเป็นห่วงเช่นกันว่าขณะนี้มีชาวโคราชที่มีความรู้สึกโกรธ และแสดงความไม่พอใจจำนวนมากจึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

ขณะที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรายการช่องส่องผี เข้าไปถ่ายทำในโบราณสถานและมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ว่า เป็นแนวปฏิบัติอยู่แล้วในการเข้าไปยังโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ

ในการเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์หรือสารคดี หรือที่ใด ต้องขออนุญาตผ่านผู้อำนวยการและผู้ดูแลในแต่ละสถานที่ ซึ่งตนได้กำชับไปยังอธิบดีกรมศิลปากร ให้สั่งการไปยังสำนักศิลปากรทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ ช่วยกันสอดส่องดูแลในรายละเอียด รวมถึงวัดที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน แต่มีความเก่าแก่และมีเรื่องราวทางประวัติ ศาสตร์ขอให้ช่วยดูแล

อย่างไรก็ตามอะไรที่เป็นข้อเท็จจริงและมีประวัติศาสตร์อยากให้ระมัดระวังไม่ว่าจะเป็นผู้ไปสืบค้นหรือผู้ที่ถ่ายทอดออกไปถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรม อยากให้ใช้ความระมัดระวังและใช้วิจารณญาณ เพราะเดี๋ยวนี้การที่จะทำเนื้อหาและการสื่อสารออกไปเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ค่อนข้างทำได้ง่าย ซึ่งในส่วนของผู้ชมเองก็อยากให้มีวิจารณญาณ และช่วยกันตรวจสอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน