ถ้ายังไม่มาเป็นครั้งที่ 2
เผยนักร้องดังให้การมัด
‘ฌอน บูรณะหิรัญ’ ไลฟ์โค้ชคนดัง เบี้ยวเข้าพบตำรวจสภ.ปากเกร็ด กรณีถูกทนายชื่อดังร้องดำเนินคดียักยอก-ฉ้อโกงเงินบริจาคดับไฟป่าที่เชียงใหม่ ‘โตโน่-ภาคิน’ นักร้องดังนำสลิปโอนเงินบริจาคให้ไป 1 แสนบาท เข้าให้การในฐานะพยาน ตร. เตรียมออกหมายเรียกรอบสอง หากผิดนัดอีกโดนหมายจับทันที
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ก.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ถือกระดาษมีข้อความว่า “ตามหาคนหาย” พร้อม นำดอกกุหลาบมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีเงินบริจาคของนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ช คนดัง
กรณีเงินบริจาคดับไฟป่าที่เชียงใหม่ หลังเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกให้นายฌอนมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ แต่ทางนายฌอนให้ตัวแทนเป็นหญิงสูงอายุ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำ อ้างว่ายัง ไม่พร้อม ต้องรอหลักฐานเอกสารหลายอย่าง
นายรณณรงค์กล่าวว่า วันนี้มาตามหานายฌอนว่าวันนี้จะมารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ เพราะเป็นคดีที่ประชาชนสนใจและนายฌอนเองรู้จักผู้ใหญ่เยอะ เกรงว่าจะมีผู้ใหญ่ที่นายฌอนรู้จักมาเคลียร์คดีที่ สภ.ปากเกร็ด และจะเป็นการกดดันพนักงานสอบสวน ไม่สามารถสร้างความยุติธรรมที่แท้จริงที่ให้เกิดขึ้นได้
“เท่าที่คุยกับพนักงานสอบสวนมีคนอ้างว่าเป็นตัวแทนมาขอเลื่อน วันนี้ที่เดินทางมาพบร้อยเวรเพื่อขอให้ออกหมายเรียกครั้ง ที่สอง ถ้าครั้งที่สองไม่มาให้ดำเนินการตาม ป.วิอาญา มาตรา 66 ต่อ ส่วนที่จะเรียกดาราโตโน่มาพบหรือไม่นั้นอันนี้จะสอบถามจากร้อยเวรดู ที่คุณฌอนไม่มาวันนี้แสดงว่ากำลังหนีความจริง
คุณฌอนมาวันนี้หรือจะมาอีกเจ็ดวันข้างหน้าก็เหมือนเดิม คนต้องการรอฟังจากปากคุณฌอนอยู่ดี มันไม่มีคำว่า วีไอพีสำหรับใคร ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ตนจะมาตามว่าทางแม่ริมทางเชียงใหม่ส่งเอกสารมาให้ตำรวจปากเกร็ดหรือยัง เพราะเมื่อวานเห็นทางฝ่ายตัวแทนคุณฌอนที่เขาอ้างแต่ตนเข้าใจว่าน่าจะเป็นทนายคุณฌอนแหละที่มาขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน” นายรณณรงค์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ‘โตโน่’ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้องนักแสดงชื่อดัง เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยานคดีดังกล่าวแล้ว โดยทางโตโน่ ภาคินให้การยืนยันพร้อมแสดงหลักฐานเป็นสลิปที่ใช้โอนเงินเข้าสมทบบัญชีของนายฌอน บูรณะหิรัญ ในโครงการดับไฟป่าที่เชียงใหม่ จำนวน 1 แสนบาท โดยใช้เวลาให้ปากคำประมาณ ครึ่งชั่วโมง จึงเดินทางกลับไป
ส่งผลให้คดีนี้ในส่วนของการสอบปากคำพยานแล้วเสร็จไปแล้ว
ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ดออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้นายฌอนมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค.นี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ฌอนส่งตัวแทนมาเลื่อนนัดโดยให้เหตุผลว่ากำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมเอกสารจึง ไม่พร้อมที่จะเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน ทำให้ทางพนักงานสอบสวนต้องออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ และหากภายในวันที่ 21 ก.ค.นี้ หากยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนอีกจะพิจารณาขอศาลออกหมายจับต่อไป
วันเดียวกัน นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ซึ่งได้รับร้องเรียน และให้ตรวจสอบกรณีเดียวกัน เปิดเผยว่า เพิ่งทราบว่านายฌอนไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด
ขณะที่ในส่วนของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ที่ทำหนังสือเชิญตัวนายฌอนมาพบภายในวันที่ 17 ก.ค. จนถึงเวลานี้ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือประสานโดยตรงอย่างเป็นทางการใดๆ ซึ่งเป็นสิทธิ์นายฌอนที่ตัดสินใจว่าจะมาเข้าพบหรือไม่ เพียงแต่เห็นว่าถ้ามาพบและชี้แจงน่าจะเป็น ผลดีกับนายฌอนมากกว่า หากไม่มาพบก็ไม่เป็นปัญหาในการตรวจสอบแต่อย่างใด
“เบื้องต้นได้สอบถามข้อมูลในส่วนของหน่วยงาน, เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครที่ปฏิบัติงานดับไฟป่า ได้รับการยืนยันตรงกันว่าไม่ เคยได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนใดๆ จาก นายฌอน ซึ่งมีน้ำหนักเพียงพอในระดับหนึ่งแล้ว เหลือเพียงรอเอกสารข้อมูลรายการเดินบัญชีธนาคารที่นายฌอนใช้บัญชีส่วนตัวรับบริจาคตัวจริงจากธนาคาร และข้อมูลในส่วนของโตโน่เท่านั้น
โดยถ้านายฌอนไม่มาพบก็สามารถสรุปผลการตรวจสอบและรายงาน ให้ทางผู้บังคับบัญชาพิจารณาได้ทันทีว่าจะดำเนินการ แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไปหรือไม่อย่างไร” นายบุญญฤทธิ์กล่าว
สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า นายฌอนอาจจะได้รับการช่วยเหลือจากคนใหญ่คนโต ในพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีชื่อเป็นผู้บริหารบริษัทออร์แกไนซ์ร่วมจัดกิจกรรมปลูกป่าที่ ห้วยตึงเฒ่า จ.เชียงใหม่
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในกิจกรรมดังกล่าว และนายฌอนเข้าร่วมด้วยนั้น ปลัดอำเภอแม่ริมกล่าวว่า ไม่เคยทราบและไม่ได้สนใจเรื่องที่ว่าจะมีผู้ใหญ่หรือคนใหญ่คนโตให้การช่วยเหลือหรือไม่ ตนเพียงทำหน้าที่อย่างเต็มที่ตามปกติในการตรวจสอบเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา และดำเนินการตามขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น