แฟลชม็อบลาม หลายมหา’ลัย ทั้งเหนือ-อีสาน

น.ศ.บุกทำเนียบ อดข้าวประท้วง จี้รัฐบาลแก้ปัญหาปากท้อง สวัสดิการ ช่วยเหลือคนตกงาน ทบทวนนโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพถ้าทำไม่ได้ก็ออกไปซะ ‘สนท.’ ย้ำหากไม่ทำตาม 3 ข้อ อีก 2 สัปดาห์ชุมนุมอีกแน่ ขณะที่ ‘ธนาธร’ โต้อยู่เบื้องหลัง ยันไม่เคยให้เงินค่าจ้างแกนนำปลดแอก ด้านตร.ประชุมเตรียมดำเนินคดี ขณะที่กลุ่มน.ศ.ภาคอีสานนัดแฟลชม็อบ 22 ก.ค.นี้ ที่ ม.มหาสารคาม ส่วนร้อยเอ็ดนัดที่บึงพลาญชัย ชลบุรีรวมตัวเก็บขยะแหลมแท่น

‘อดข้าว’ประท้วงหน้าทำเนียบ

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนแนวร่วมนวชีวิน นิว ไลฟ์ เน็ตเวิร์ก นำโดยนายภูมิวัฒน์ แดงกสิวิทย์ และน.ส.ศิรัญญา ทองเชื้อ ร่วมกันอดข้าวประท้วงการบริหารงานของรัฐบาล ที่บริเวณประตู 3 ทำเนียบ ฝั่งถนนพิษณุโลก มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเฝ้าสังเกตการณ์ โดยนายภูมิวัฒน์อ่านแถลงการณ์ว่า ที่อดข้าวเพราะพวกเรากำลังจะอดตาย นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเข้ามารัฐประหาร สถานการณ์ปากท้องและสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวย

จากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและประชาชนอดอยาก ทำให้พวกเรามารวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่ยอมรับการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ ผู้คนตกงาน ปากท้องว่างเปล่า จึงขอยื่นข้อเสนอถึงรัฐบาลดังนี้

1.ต้องแก้ไขปัญหาปากท้อง และสวัสดิการที่ถดถอยของทุกคนทันที 2.ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีมาตรการรองรับ และช่วยเหลือผู้ตกงานในขณะนี้ มีเป็นจำนวนมากและจะมากขึ้นไปอีก

และ 3.ให้ทบทวนและตรวจสอบนโยบายการบริหารของรัฐบาล โดยให้ภาคประชาชนและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ถ้าทำไม่ได้ ก็ออกไปซะ พวกเราจะอดตายกันอยู่แล้ว อดตาย เพราะมีรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ

จี้รัฐบาลแก้คนอดตาย-ตกงาน

นายภูมิวัฒน์กล่าวว่าจะเป็นไม้แรกของกลุ่มอดข้าว และจะมีเพื่อนสลับเวรในช่วงกลางคืน และในช่วง 4 วันแรก จะกินข้าวและน้ำแค่ 1 มื้อ จากนั้นจะดื่มน้ำอย่างเดียวใน 7 วัน หากร่างกายปรับตัวได้ จะอดทั้งข้าวและน้ำต่อไป คิดว่ารัฐบาลคงไม่ตอบรับข้อเสนอของเรา

เพราะที่ผ่านมาก็ปล่อยให้คนต้องอดตายและหิวโซ แต่เราต้องการแสดงออกให้เห็นว่าเราคือคนที่กำลังจะอดตาย คนที่หิว คนที่ตกงาน และคนที่ไม่มีทางไป มาอยู่กันที่นี่จริงๆ เพื่อถามว่ารัฐบาลจะแก้อย่างไร และคาดเดาคำตอบไว้แล้วว่ารัฐบาลจะตอบว่ากำลังดำเนินการอยู่ แต่สิ่งที่ทำไม่เคยตกมาถึงประชาชนเสียที

ประท้วงทบ. – ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตัวแทนสนท. และประชาชน ชุมนุมประท้วงหน้าบก.ทบ. เมื่อเย็นวันที่ 20 ก.ค. ไม่พอใจโพสต์ของอดีตรองโฆษกทบ. ต่อกรณีการชุมนุมโดยกลุ่มเยาวชนปลดแอกเพื่อต่อต้านเผด็จการ

 

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่อดีตรองโฆษกกองทัพบก ระบุว่าหากไม่งอมืองอเท้า จะไม่อดตาย การวิจารณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงอะไร นาย ภูมิวัฒน์กล่าวว่าคนในกองทัพบกควรยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด กลับมองไม่เห็นปัญหาประชาชน ที่ทุกวันนี้ยากลำบากข้นแค้นมากเพียงใด คำพูดดังกล่าวดูถูกประชาชน และแปลว่าไม่เข้าใจปัญหาของเรา ต่อให้เราทำงานบากบั่นมากแค่ไหน ก็ไม่มีโอกาสเติบโต และโอกาสยิ่งน้อยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศ

สนท.ย้ำอีก 2 สัปดาห์ชุมนุมแน่

ขณะที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวว่าถึงกรณีเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีกับแกนนำว่า การชุมนุมเป็นการใช้สิทธิของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ ทั้งแกนนำและ ผู้ชุมนุมไม่มีใครสมควรถูกดำเนินคดี

หากเจ้าหน้าที่จะนำคำประกาศห้ามการจัดกิจกรรมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาบังคับใช้ในกรณีนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้มีไว้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด แต่มีเจตนาทางการเมือง

นายพริษฐ์กล่าวว่า หากจะดำเนินคดีก็ไม่แปลกใจ แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด จึงบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนแบบนี้จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียด จนหาทางปรองดองเพื่อเกิดความเข้าใจกันระหว่างรัฐกับประชาชนได้ยาก ยืนยันว่าหากรัฐบาลไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะจัดการชุมนุมตามนัดหมายอีกแน่นอน ส่วนจะชุมนุมในสถานศึกษา หรือสถานที่สาธารณะ ต้องรอมติจากแกนนำอีกครั้ง

น.ศ.ภาคอีสานนัดแฟลชม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, กลุ่มเสรีประชาธิปไตย นิสิต นักศึกษา อุดรธานี, กลุ่มเยาวชนสุรินทร์เพื่อประชาธิปไตย, พรรคโดมปฏิวัติ และกลุ่มโคราช โน เผด็จการ นัดชุมนุม “ถึงเวลาของพี่น้องชาวอีสาน อีสานสิบ่ทน” ที่ลานแปดเหลี่ยม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในเวลา 17.00 น. วันที่ 22 ก.ค.นี้

ส่วนกลุ่มนักศึกษาที่ จ.ร้อยเอ็ด นัดชุมนุมวันที่ 22 ก.ค.เช่นกัน ที่ลานบึงพลาญชัย ขณะที่ จ.ชลบุรี นัดเก็บขยะที่แหลมแท่น วันที่ 22 ก.ค. และจ.ลำพูน นัดกันวันที่ 24 ก.ค. ที่ลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก มศว คนรุ่นเปลี่ยน ของกลุ่มนิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โพสต์ภาพชูป้ายยุบสภา คืนอำนาจประชาชน พร้อมข้อความระบุว่า แฟลชม็อบเร็วๆ นี้ หมดเวลาอำนาจนิยม ถึงเวลาลุกขึ้นต้านเผด็จการ พร้อมติดแฮชแท็ก “มศว ขอให้มีจุดยืน ให้มันจบที่รุ่นเรา”

‘ธนาธร’โต้อยู่เบื้องหลัง-แจกเงิน

ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่ายืนยันว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุม และไม่เคยให้เงินเป็นค่าจ้างกับกลุ่มแกนนำ เชื่อว่าการออกมาชุมนุมของกลุ่มคนเหล่านั้นไม่ได้รับอามิสสินจ้างจากใครด้วย แต่เคลื่อนไหวเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้องกลุ่มผู้ชุมุนุมเรียกร้องประชาธิปไตย

เพราะทำเพื่ออนาคตของประเทศ หากไม่ปกป้องก็จะไม่มีใครออกมาต่อสู้แทนประชาชนได้ การออกมาข่มขู่ดำเนินคดีถือเป็นกลยุทธ์ของรัฐบาล เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลัว ไม่กล้าวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และการที่คนของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลไปร่วมชุมนุมด้วย ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ต่างเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เมื่อมีผู้ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ พวกเราก็พร้อมร่วมสนับสนุน

“ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้าหากัน เพราะถึงจุดใกล้เกิดวิกฤตการเมืองแล้ว หากปล่อยให้เกิดขึ้น จะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมามาก แต่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ที่จะยับยั้งวิกฤตนี้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของประชาชนอีก อย่ารอให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายขึ้นมาก่อนแล้วค่อยหันหน้าพูดคุยกัน ย้ำว่าข้อเสนอนี้ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางออกเดียวของสังคมไทย เพื่อหาข้อตกลงใหม่ที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน” นายธนาธรกล่าว

ทบ.พัลวัน‘ผู้พันเจี๊ยบ’โพสต์

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี พ.อ.หญิงนุสรา วรภัทราทร หรือผู้พันเจี๊ยบ นายทหารประจำกรมยุทธการ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นเรื่องการชุมนุมของนิสิตนักศึกษา เป็นม็อบมุ้งมิ้ง ตีกันเอง ว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล และปัจจุบัน เจ้าตัวไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่รองโฆษกกองทัพบกแล้ว สำหรับเนื้อหาที่โพสต์ แม้ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือสร้างความเสียหายให้สังคม หรือประเทศชาติ แต่ด้วยเนื้อหาอาจทำให้บางคนไม่สบายใจ เจ้าตัวจึงตัดสินใจลบโพสต์ไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าต้นสังกัดได้ตักเตือน หรือลงโทษทางวินัยหรือไม่ เพราะกองทัพบกห้ามกำลังพลวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมือง พ.อ. วินธัยกล่าวว่า ต้องพิจารณา 3 ประเด็นหลัก 1.ผิดกฎหมายหรือไม่ 2.กระทบต่อสังคมและประเทศชาติหรือไม่ และ 3.กระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่ หากพิจารณาเนื้อหาของโพสต์จะเห็นได้ว่าเป็นการแสดงความห่วงใยในฐานะผู้ใหญ่

ไม่ห้าม-ถ้าโพสต์เป็นประโยชน์

ต่อข้อถามว่าต่อไปนี้ทหารโพสต์แสดงความคิดเห็นเรื่องการชุมนุมได้ทุกคนหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะโพสต์อะไรก็ได้ ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป หากการโพสต์ของผู้พันเจี๊ยบผิดกฎหมาย เจ้าตัวก็ต้องรับผิด

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เข้าข่ายข้อ 3 กระทบต่อภาพลักษณ์กองทัพบกหรือไม่ เพราะกลุ่ม ผู้ชุมนุมประกาศจะมารวมตัวกันที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า จะมากันหรือไม่

ต่อข้อถามว่าแม้ไม่มีกรณีผู้พันเจี๊ยบ มองว่าม็อบก็ต้องหาเงื่อนไขมาชุมนุมที่หน้ากองทัพบกอยู่แล้ว ใช่หรือไม่ โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่การชุมนุมเกิดขึ้นอยู่แล้วในห้วงที่ผ่านมา กองทัพบกไม่ได้ห้ามให้กำลังพลโพสต์แสดงความคิดเห็นในเชิงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ การไปห้ามเท่ากับไปทำให้เขาเสียสิทธิ์ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า การโพสต์ของผู้พันเจี๊ยบ เป็นการแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่าไม่ได้มองเช่นนั้น

ตร.ถก-เล็งดำเนินคดีแกนนำ

ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสต์ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผบช.น. และพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ร่วมประชุมหาแนวทางเตรียมดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม โดยหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และการรวบรวมพยานหลักฐานของการชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และพื้นที่อื่นๆ ว่ามีความผิดใดหรือไม่

ประท้วง – ตัวแทนกลุ่มนวชีวิน จัดกิจกรรมการประท้วงเชิงสันติด้วยการอดอาหาร เพื่อกดดันคณะรัฐบาล จนกว่าปัญหาของประชาชนจะได้รับการแก้ไข #เราอดไปด้วยกัน #OurLivesMatter #NewLifeNet#นวชีวิน ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 ก.ค.

 

ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ผบช.น. เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการเรียกแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมาสอบสวนหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่า หากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง จะต้องศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพราะอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดี ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีความขัดแย้งกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ในการดูแลความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้น

ม็อบปลดแอกบุกหน้าทบ.

เวลา 17.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยนายปิยรัฐ จงเทพ อดีตผู้สมัครส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และนายภาณุพงศ์ จาดนอก ผู้ชูป้ายรัฐบาลการ์ดตกที่ จ.ระยอง รวมตัวกันจัดกิจกรรมแสดงความไม่พอใจกรณี พ.อ.หญิง นุสรา หรือผู้พันเจี๊ยบ โพสต์ถึงการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นม็อบ มุ้งมิ้ง ตีกันเอง

นอกจากนี้ประชาชนกลุ่มหนึ่งยืนถือกล้วยหอมปอกแล้ว สื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ บางส่วนถือป้ายข้อความให้ทบทวนการซื้อเรือและเครื่องบิน ระบุว่า หยุดซื้อเรือ เครื่องบิน เพื่อปากท้องประชาชน, ทหารเรือคือรั้ว อย่ามั่วเป็นเจ้าของบ้าน และเงินเดือนทหารมาจากภาษีประชาชน เป็นต้น

จี้ทหารพิทักษ์ประชาธิปไตย

นายพริษฐ์กล่าวว่า โลกนี้ทหารต้องเป็นเป็นผู้พิทักษ์ประชาธิปไตย ช่วยสนับสนุนเสรีภาพตามาตรฐาน ขอให้ทหารไทยอย่าดูถูกเหยียดหยามประชาชน อย่าลืมตัว คิดไปเองว่าเป็นเจ้าของประเทศ ขอถามว่าวันนี้ไปถามชาวบ้านดู ใครบ้างที่ชอบพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนคำที่ผู้พันเจี๊ยบปรามาหนังสือพิมพสว่าม็อบมุ้งมิ้งนั้น ก็ปิดแยกคอกวัวให้เห็นมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยนั้น มีตำรวจควบคุมฝูงชน 1 หมวด ตำรวจสน.นางเลิ้ง ทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 20 นาย พร้อมรถเครื่องขยายเสียง รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยข่าว 20 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ก่อนที่แกนนำจะเริ่มทำกิจกรรม ตำรวจสน.นางเลิ้ง อ่านประกาศและข้อกำหนดโทษตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ. ควบคุมโรค และพ.ร.บ.การจราจร แต่กลุ่ม ผู้ชุมนุมไม่สนใจ

นายภาณุพงศ์กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่าเราไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง เวลาทำกิจกรรมจะมีเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายทหารไปหาที่บ้าน ถ่ายรูปครอบครัวและขอเบอร์โทร.คนที่บ้าน สิ่งเหล่านี้คือการคุกคามประชาชนหรือไม่ ขอให้ช่วยแยกแยะอำนาจกับสิทธิเสรีภาพประชาชนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน