ล่าจากวงจรปิดจอดทิ้งฝั่งธนฯ
รับสารภาพชอบมาซื้อบริการ
ตั้งข้อหาฆ่า-กักขังหน่วงเหนี่ยว

ตร.ตามจับได้แล้วคนขับรถตู้โฟล์กฉุดสาวสวนลุมพินี หลังไล่ล่าเส้นทางหนีจากภาพวงจรปิด พบจอดทิ้งไว้ย่านฝั่งธนฯ สารภาพขับรถมาซื้อบริการสาวสวนลุมฯเป็นประจำ แต่เป็นเพียงคนขับ ไม่ใช่เจ้าของรถ ขับรถมาวนหลายรอบ ชักชวนหญิงสาว 2 คนมาร่วมหลับนอนบนรถ แต่ไม่มีใครยอมไปด้วย เผยพฤติกรรมซาดิสต์ ใช้เทปกาวมัดมือเหยื่อก่อนมีเพศสัมพันธ์ ด้านน้องชายหนุ่มโดดเกาะรถตู้ ให้ปากคำตำรวจ ยันพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่โดนฉุดเป็นสามีภรรยาแต่งงานถูกต้อง แต่ไม่ทราบทำงานกลางคืนหรือไม่ ยืนยันเอาเรื่องคนก่อเหตุให้ถึงที่สุด

จากกรณีน.ส.ณัฐ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ถูกฉุดขึ้นรถตู้โฟล์กสวาเก้นไป โดยนายสม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี แฟนหนุ่ม ได้กระโดดเกาะหน้ารถเพื่อไปช่วย ก่อนคนร้ายขับรถตู้ไปชนเสาป้ายทางขึ้นสะพานไทย-เบลเยี่ยม ฝั่งขาออกแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จนนายสมตกจากรถได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนร้ายขับรถหลบหนีไปทางวัดช่องลมถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 21 ก.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ไม่รอด – ตำรวจจับกุมนายณเดชน์ สิทธิ์มโนมัย คนขับรถตู้โฟล์กฉุดสาวที่สวนลุมพินี เป็นเหตุให้สามีผู้หญิงเสียชีวิตขณะเข้าช่วยเหลือภรรยา และตามยึดรถคันที่ใช้ก่อเหตุได้ที่ย่านฝั่งธนบุรี เมื่อวันที่ 22 ก.ค.

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ และตำรวจสืบสวนนครบาล 5 ได้เร่งไล่ล่าคนร้ายรายนี้ตลอดทั้งคืน โดยจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายรายนี้ได้ขับรถคันดังกล่าววนรอบสวนลุมพินี พยายามชักชวนหญิงสาว 2 ราย แต่ไม่มีผู้ใดยินยอมไปร่วมหลับนอนกันบนรถ สอดคล้องกับคำให้การของน.ส.ณัฐ ที่ว่าคนร้ายมีพฤติกรรมซาดิสต์ ขอร่วมหลับนอนบนรถตู้ หนำซ้ำยังใช้เทปกาวมัดมือก่อนจะมีอะไรกัน จนเหยื่อสาวทนไม่ได้

ส่วนรูปพรรณคนร้าย หญิงผู้เสียหายยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ทราบเพียงเป็นชาย อายุประมาณ 40 ปี แต่ยังโชคดีที่เหยื่อรายนี้ยังได้ถ่ายภาพรถตู้ไว้ก่อนขึ้นไปบนรถ ซึ่งบันทึกภาพทะเบียนรถไว้ได้เขียนด้วยลายมือ ทะเบียน ตบ-3374 พบว่าเป็นทะเบียนปลอม โดยทางพล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ ในเวลา 20.00 น.

ด้านนายเอ นามสมมติ น้องชายของนายสม ผู้ตาย เข้าลงบันทึกประจำวันเพื่อนำเอกสารไปติดต่อขอรับศพพี่ชาย ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก่อนนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.เมือง จ.นครราช สีมา พร้อมให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมว่า ไม่ทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทราบตามข่าวเท่านั้น ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับพี่ชายและน.ส.ณัฐ พี่สะใภ้ แต่ยืนยันว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมานานหลายปีแล้ว โดยพี่ชายทำอาชีพขายเสื้อผ้าดูแลครอบครัวและเป็นเสาหลักส่งเงินให้พ่อที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา ส่วนพี่สะใภ้ไม่ทราบแน่ชัดว่าทำงานอะไร แต่ยืนยันว่าไม่ใช่งานกลางคืนตามที่เป็นข่าว เชื่อว่าทั้งคู่เป็นคนดี ไม่มีความขัดแย้งทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัวกับใคร แต่ยอมรับว่าทั้งคู่มักขับรถออกไปเที่ยวกลางคืนในบางครั้ง

นายเอกล่าวต่อว่า ไม่ทราบว่าบุคคลในรถตู้รู้จักกับพี่สะใภ้หรือไม่ แต่การที่มัดมือมัดคอ และขับรถชนพี่ชาย เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ตนรับไม่ได้ หากรู้จักกันจริงก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงขนาดนี้ เมื่อพี่ชายเสียชีวิตในฐานะครอบครัวก็ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ยอมความแน่นอน

ขณะที่พ.ต.อ.สุธี เสน่ห์ลักษณา ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า ตำรวจมีเบาะแสของคนขับรถตู้โฟล์กแล้ว โดยเฉพาะการที่มีความพยายามปกปิดป้ายทะเบียนรถเพื่อให้ยากต่อการจับกุม ซึ่งชุดสืบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมเชิญผู้เสียหายและพยานหลายปากมาสอบปากคำเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์ พฤติกรรมและรูปพรรณของคนขับรถก่อนติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

รายงานข่าวระบุว่า รถตู้โฟล์กคันดังกล่าวนั้น คนร้ายใช้ขับเป็นประจำ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเจ้าของรถหรือไม่ หรือเป็นรถเช่า หรือเป็นรถที่คนร้ายขับให้ผู้ใด

จากนั้น เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่า คดีดังกล่าว ได้สั่งการให้บก.น.5 ลงไปควบคุมคดีและเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ก่อเหตุกลางเมือง ยืนยันทุกคดีที่เป็นเรื่องสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และสังคม ตำรวจต้องเร่งรัดจับกุมมาดำเนินคดี

ด้านพล.ต.ต.สามารถกล่าวว่า จากการสอบปากคำหญิงผู้เสียหายนั้น ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและให้ข้อมูลว่าคนขับรถตู้คันดังกล่าว มักวนเวียนมาในบริเวณสวนลุมเป็นประจำ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอไม่เปิดเผย เพราะอาจกระทบกับหญิงผู้เสียหาย โดยมีหลายข้อหาที่จะแจ้งดำเนินคดีกับคนขับรถตู้ได้ เช่น กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต

ต่อมา เวลา 16.30 น. ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจชุดคลี่คลายคดีนี้ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกันพบรถตู้โฟล์กคันดังกล่าวจอดอยู่ในบ้านหลังหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี แต่ยังไม่พบตัวผู้ต้องหา จึงตรวจยึดไว้ ก่อนสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

เวลา 20.00 น. ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ผบช.น. เดินทางมาตรวจสอบคดี โดยได้เข้าไปร่วมประชุมกับชุดสืบสวนกก.สส.น.5 และสืบสวนสน.ทุ่ง มหาเมฆ

จากนั้นเวลา 20.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายณเดชน์ สิทธิ์มโนมัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 422/63 ลงวันที่ 22 ก.ค. เข้าไปในห้องประชุมเพื่อสอบสวนที่ก่อคดีขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่หน้าห้างแห่งหนึ่ง ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ พร้อมรถตู้โฟล์กสวาเก้นคันที่ขับไปก่อเหตุ หลังรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุขับรถตู้อุ้มสาวขึ้นรถจากสวนลุมพินีไปหวังสังเวยกามอย่างซาดิสต์ แต่เหยื่อไม่เล่นด้วย จนเกิดเหตุสลดที่แฟนหนุ่มกระโดดเกาะรถพยายามเข้าไปช่วยเหลือจนตกรถดับ ขณะที่เหยื่อสาวกระโดดหนีลงจากรถรอดมาได้หวุดหวิด

รายงานข่าวระบุว่า คดีนี้พล.ต.ท.ภัคพงศ์ได้มอบหมายให้พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. และพล.ต.ต.สามารถเร่งรัดการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ และ กก.สส.บก.น.5 ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนจับตัวนายณเดชน์ ผู้ต้องหา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือของน.ส.ณัฐชดา และเสื้อที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันเกิดเหตุ โดยศาลได้อนุมัติตามหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น”

จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ตู้โฟล์ก สีเทา ซึ่งเป็นของนายจ้าง ออกมาในวันเกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาตและได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ต่อมาเวลา 21.00 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวภายหลังสอบสวนว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เอารถนายจ้างขับมาที่สวนลุมพินีเพื่อก่อเหตุดังกล่าวจนโดนจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ ผู้ต้องหาชอบที่จะมีเซ็กซ์แบบนี้ และเคยทำมาแล้วหลายครั้งเพราะเป็นความชอบ ทางตำรวจคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและกักขังหน่วงเหนี่ยว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน